xs
xsm
sm
md
lg

แสนสิริชู "Management Solutions" ย้ำคุณภาพที่อยู่อาศัย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
แสนสิริ ชูจุดแข็งด้านคุณภาพที่อยู่อาศัย ดึงนวัตกรรม “Sansiri Total Project Management Solutions” ควบคุม ‘Time-Cost-Quality’ เชื่อมต่อทุกมิติของการพัฒนาโครงการบนแพลตฟอร์มเดียว ตอกย้ำตัวจริงด้าน ‘Thailand’s First Digital Real Estate Developer’ ยกระดับมาตรฐานการพัฒนาโครงการและเสริมแกร่งประสิทธิภาพการทำงาน ชี้ปีนี้เทคโนโลยีมีส่วนช่วยงานก่อสร้างสำเร็จตามกำหนด 100% เตรียมส่งมอบ 14 โครงการ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมภายในสิ้นปีนี้ รวมมูลค่าโครงการกว่า 26,000 ล้านบาท เดินหน้าสู่เป้ายอดโอนรวม 42,000 ล้านบาท

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แสนสิริยังคงให้ความสำคัญต่อการส่งมอบที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพสู่ลูกค้า พร้อมนำเทคโนโลยีมาเป็นฟันเฟืองสำคัญในการพัฒนาโครงการ โดยตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงปัจจุบัน เทคโนโลยีเป็น 1 ในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้งานก่อสร้างสำเร็จตามกำหนด 100% โดยเตรียมพร้อมส่งมอบ 14 โครงการคุณภาพ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมภายในสิ้นปีนี้ รวมมูลค่าโครงการกว่า 26,000 ล้านบาท ล่าสุด เตรียมส่งมอบ 2 โครงการคอนโดฯ ในเดือนกันยายนนี้ ได้แก่ โอกะ เฮาส์ และเอ็กซ์ที เอกมัย

“เพื่อตอกย้ำความเป็นตัวจริงด้าน ‘Thailand’s First Digital Real Estate Developer’ ผ่านการสร้างคุณค่าให้วงจรธุรกิจ Sansiri Value Chain ด้วยเทคโนโลยี แสนสิริเดินหน้าพัฒนา Sansiri Total Project Management Solutions ต่อยอดการใช้งานจาก Primavera เพื่อยกระดับมาตรฐานการควบคุม ‘Time-Cost-Quality’ อย่างเต็มศักยภาพให้โครงการมีคุณภาพและสำเร็จเป็นไปตามระยะเวลา รวมทั้งต้นทุนที่วางแผนไว้ ด้วยการเชื่อมต่อทุกมิติของการพัฒนาโครงการ เพื่อการจัดการที่มีประสิทธิภาพบนแพลตฟอร์มเดียว ตั้งแต่การสร้างสัญญาจ้าง-สัญญาก่อสร้าง การประมาณการต้นทุน การจัดการผลิตของโรงงานผลิตแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป (PCF) การจัดซื้อวัสดุก่อสร้าง การรายงานความคืบหน้าของการพัฒนาโครงการตามรายการ เมื่อพร้อมเข้าตรวจเพื่อควบคุมคุณภาพ (QC) โครงการ ตลอดจนการทำงานร่วมกับ BIM ในการเชื่อมโยงแบบและระยะเวลาก่อสร้าง เพื่อจำลองภาพงานก่อสร้างโครงการเสมือนจริงอัตโนมัติตามไทม์ไลน์ ซึ่งจะพร้อมใช้งานอย่างเต็มรูปแบบในปี 64”

4 มิติของเทคโนโลยีเสริมแกร่ง
นายอุทัย กล่าวว่า เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญกับแสนสิริในการพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพทั้งด้านการออกแบบ การก่อสร้าง ตลอดจนการดูแลลูกค้า ตั้งแต่ก้าวแรกและครอบคลุมทุกช่วงการอยู่อาศัย โดยเทคโนโลยีจะเข้ามาช่วงเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจ 4 มิติ ด้วยกันคือ มิติที่ 1 : มุ่งส่งมอบที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ นำเทคโนโลยียกระดับมาตรฐานการควบคุม ‘Time-Cost-Quality’ ได้แก่ BIM แพลตฟอร์มสร้างแบบจำลองเสมือนจริงของที่อยู่อาศัยอย่างแม่นยำ Primavera แพลตฟอร์มควบคุมไทม์ไลน์การพัฒนาโครงการ และ StructionSite แพลตฟอร์ม AI เก็บข้อมูลไซต์ก่อสร้างแบบละเอียด 360 องศา

นายจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี สิริ เวนเจอร์ส บริษัทในเครือแสนสิริ กล่าวว่า “สำหรับการยกระดับการควบคุมคุณภาพระหว่างงานก่อสร้าง เราได้นำ StructionSite สตาร์ทอัปด้าน ConsTech (Construction Tech) ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศสหรัฐอเมริกา นำ AI มาช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการตรวจสอบจากวิศวกรผู้ควบคุมงานก่อสร้าง และเก็บข้อมูลไซต์ก่อสร้างแบบละเอียด 360 องศา ส่งผลให้การควบคุมคุณภาพเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นำร่องใช้งานแล้วที่เดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค และเดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ”

มิติที่ 2 : ดูแลลูกค้าตั้งแต่ก้าวแรกและครอบคลุมทุกช่วงการอยู่อาศัย ผ่าน Salesforce แพลตฟอร์มการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) อันดับ 1 ของโลก LIV-24 บริการดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มรูปแบบจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง แห่งแรกของวงการอสังหาฯ ไทย และ Sansiri Home Service Application กับ 4 ฟีเจอร์ใหม่ ได้แก่ Community Hub พื้นที่สำหรับการสื่อสารโดยการตั้งกระทู้และแชร์กิจกรรมของลูกบ้าน Market Place พื้นที่ซื้อขายสินค้าของลูกบ้าน และฟังก์ชันการจอง-จ่ายสถานี EV Charger ของ SHARGE กว่า 200 จุด รวมทั้งการจองเข้าใช้บริการพื้นที่ส่วนกลาง นำร่องที่เอ็กซ์ที เอกมัย

มิติที่ 3 : เปิดประสบการณ์เยี่ยมชมโครงการและห้องตัวอย่างเสมือนจริงได้ง่ายไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ไหน กับ Nodalview โซลูชันสร้าง Virtual Sales Gallery ผ่านสมาร์ทโฟนได้ง่ายเพียงไม่กี่วินาที พร้อมแพลตฟอร์มที่เอื้อให้พนักงานพูดคุยกับลูกค้าโดยตรง และมิติที่ 4 : เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในด้านการจัดซื้อจัดจ้างกับคู่ค้าที่มีความโปร่งใส รวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยี B2P (Blockchain Solution for Procure-to-Pay) จาก Digital Ventures

นายอุทัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาแสนสิริมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีมาเสริมแกร่งการทำงาน เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ดีของครอบครัวแสนสิริว่า LIV-24 เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่สร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหาได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ (Security Monitoring) และการบริหารโครงการแบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Preventive Maintenance) โดยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2019 ถึงกรกฎาคม 2020 นวัตกรรม LIV-24 สามารถตรวจจับเหตุการณ์ที่ไม่ปกติภายในโครงการที่ดูแลทั้งหมด 38 โครงการ ด้วย CCTV และเข้าแก้ไขได้ทันท่วงที 942 ครั้ง และแจ้งเตือนการบำรุงรักษา เชิงป้องกันของระบบต่างๆ ในอาคารด้วยเทคโนโลยี IoT ก่อนที่จะชำรุด 57 ครั้ง ซึ่งช่วยยับยั้งการสูญเสียค่าซ่อมแซมได้มากกว่า 2 ล้านบาท และในด้านการพัฒนาโปรดักต์ เราได้เปิดตัว Sansiri Smart Home บ้านสั่งการด้วยเสียงบน Google Assistant ที่โครงการเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา 2 และทวีวัฒนา โดยฟังก์ชันที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติและครอบครัวคนรุ่นใหม่ ได้แก่ การสั่งการด้วยเสียงเพื่อเปิดปิดม่าน และ Smart Display เพื่อการสั่งการด้วยเสียงกับระบบสมาร์ทโฮมอื่นๆ

นอกจากการพัฒนา Sansiri Total Project Management Solutions แผนงานด้านเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาโครงการของแสนสิริในอนาคต จะรวมถึงการขยายการใช้งาน BIM ไปสู่การบริหารโครงการ (Facility Management) นำร่องที่ SIRI CAMPUS ตลอดจนรุกหน้าพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการออกแบบและก่อสร้างอย่างต่อเนื่องให้ตอบโจทย์การใช้งาน เพื่อสร้างข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่ง พร้อมส่งมอบที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพเพื่อการใช้ชีวิตดีดีของทุกคนแบบ Made for Life


กำลังโหลดความคิดเห็น