xs
xsm
sm
md
lg

Huawei เล็งดึงแอป Google เข้าสโตร์ตัวเอง โชว์รายได้เพิ่ม 19.1% แม้ถูกแบล็กลิสต์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สวี จื๋อจวิน (อีริค สวี) รองประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานบริษัท หมุนเวียนตามวาระ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี จำกัด
หัวเว่ย (Huawei) ประกาศระหว่างงานแถลงผลประกอบการปี 62 ระบุเตรียมวางแผนให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของกูเกิล (Google) ได้จากแอปสโตร์ของตัวเอง หลังจากที่สหรัฐอเมริกาขึ้นบัญชีดำไม่ให้หัวเว่ยเข้าถึงทุกบริการของบริษัทสหรัฐฯซึ่งรวมถึงระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ด้านผลประกอบการประจำปี 62 สวยงาม โดยมีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 858.8 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 19.1% จากปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิแตะ 62.7 พันล้านหยวน

สวี จื๋อจวิน (อีริค สวี) รองประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานบริษัท หมุนเวียนตามวาระ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่าหัวเว่ยคาดหวังว่าแอปพลิเคชันและบริการในเครือกูเกิลจะเปิดให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือหัวเว่ยทั่วโลกใช้งานได้ผ่านทาง “แอป แกลเลอรี่” (App Gallery) ร้านแอปสโตร์ของหัวเว่ยเอง ซึ่งจะไม่ต่างจากที่ผู้ใช้ไอโฟนสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันในเครือกูเกิลได้ด้วยตัวเองจากแอปสโตร์ (AppStore) คาดว่าวิธีนี้จะทำให้หัวเว่ยสามารถแก้เกมกลับมาจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้ดีอีกครั้ง แม้สมาร์ทโฟนหัวเว่ยจะไม่ใช่ระบบปฏิบัติการ Android

“เราหวังว่าบริการของกูเกิล จะสามารถให้บริการผ่าน App Gallery ของเราเช่นเดียวกับที่บริการกูเกิลมีให้ดาวน์โหลดผ่านทาง App Store ของแอปเปิล” สวีกล่าว


การแก้เกมครั้งนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ซึ่งหัวเว่ยถูกขึ้นบัญชีดำ “เอ็นติตี้ลิสต์” (Entity List) ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ทำให้กูเกิลจำเป็นต้องยกเลิกการออกใบอนุญาตจนสมาร์ทโฟนหัวเว่ยไม่สามารถใช้ระบบปฏิบัติการ Android ได้อีกต่อไป ที่ผ่านมา หัวเว่ยจำใจเปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่เรือธง 2 รุ่นคือ Mate 30 และ P40 โดยไม่มีแอปในเครือกูเกิลติดมาในเครื่อง แต่มีแหล่งดาวน์โหลดแอปชื่อ AppGallery ของหัวเว่ยเองติดมาให้แทน

การประกาศครั้งนี้แปลว่าหัวเว่ยกำลังพยายามดึงแอปกูเกิลมาเป็นทางเลือกใน App Gallery กลายเป็นแนวคิดใหม่สำหรับหัวเว่ยที่ต้องการดึงดูดผู้ใช้ให้สนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นล่าสุดที่ไม่ใช่ Android และไม่มี Gmail หรือ Google Maps มาจากโรงงาน ซึ่งหากทำได้ ผู้ใช้สมาร์ทโฟนหัวเว่ยทั่วโลกก็จะไม่ต้องกังวลเรื่องใช้งานแอปในเครือกูเกิลไม่ได้


แม้หัวเว่ยจะยืนยันว่าสมาร์ทโฟนหัวเว่ยยังมียอดขายเพิ่มขึ้นในตลาดจีนที่ไม่แคร์แอปในเครือกูเกิลเท่าใดนัก แต่สวีเผยว่าการขึ้นบัญชีดำทำให้หัวเว่ยมีรายรับหดหายไปมากกว่า 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากรายได้ 858,800 ล้านหยวนหรือประมาณ 123,000 ล้านเหรียญสหรัฐตลอดปี 2019 นั้นแม้จะตรงเป้าหมายที่ประเมินไว้ แต่ก็พลาดเป้าหมายแรกที่หัวเว่ยเคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ 135,000 เหรียญ ซึ่งรายได้ที่หายไปจากยอดที่ควรจะได้นั้นมาจากธุรกิจอุปกรณ์คอนซูเมอร์ทั้งสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่นๆ

สำหรับสถานการณ์โควิด-19 หัวเว่ยย้ำว่ายังไม่สามารถประเมินผลกระทบหรือวางแผนการเปลี่ยนแปลงในช่วงหลังจากนี้ โดยบอกว่าบริษัทไม่มีเวลาพอที่จะประเมิน และงานในส่วนอื่นนั้นเร่งด่วนกว่า โดยเฉพาะการการันตีความปลอดภัยของพนักงาน

สำหรับปี 62 หัวเว่ยระบุว่ามีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 858.8 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 19.1% จากปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิแตะ 62.7 พันล้านหยวน พร้อมเงินสดจากการดำเนินงานสูงถึง 91.4 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 22.4% จากปีก่อนหน้า

หัวเว่ยโชว์ตัวเลขแผนการลงทุนด้านนวัตกรรมและการวิจัยเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องในระยะยาว โดยบอกว่าหัวเว่ยใช้เงินลงทุน 15.3% ของรายได้ตลอดปี 2562 หรือ 131,700 ล้านหยวนในด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) โดยงบด้าน R&D ที่ลงทุนไปแล้วในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานั้นมากกว่า 600 พันล้านหยวน

ตลอดปี 2562 รายได้จากการขายในกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมของหัวเว่ยพุ่งสูง 296,700 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 3.8% จากปีก่อนหน้า ขณะที่รายได้ยอดขายของกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ยแตะ 89,700 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 8.6% จากปีก่อนหน้า

ในส่วนธุรกิจคอนซูเมอร์ หัวเว่ยย้ำว่ายังคงเห็นการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยยอดส่งมอบสมาร์ทโฟนทั้งสิ้น 240 ล้านเครื่องตลอดปี หากรวมคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล แท็บเล็ต อุปกรณ์สวมใส่ และสมาร์ทสกรีนต่าง ๆ รายได้ยอดขายจากธุรกิจคอนซูเมอร์จะคิดเป็น 467,300 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 34% จากปีก่อนหน้า


กำลังโหลดความคิดเห็น