xs
xsm
sm
md
lg

Huawei กับเกมไต่ขอบเหว !! (Cyber Weekend)

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ในนาทีที่โลกตื่นเต้นกับข่าวสินค้าหัวเว่ย (Huawei) อาจจะใช้บริการบางอย่างของกูเกิล (Google) ไม่ได้ ล่าสุดมีการประกาศผ่อนปรนเลื่อนการแบน Huawei ออกไปอีก 90 วัน เป็นช่วงเวลาเกียร์ว่างที่โลกจะรอดูผลกระทบอย่างแท้จริงอีกครั้งในวันที่ 19 สิงหาคมนี้

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนว่า Huawei กำลังเล่น "เกมไต่ขอบเหว" อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และทางออกเดียวคือจะต้องชนะด้วย

***3 เดือนนี้ไม่มีผล

หลังจากที่โลกรู้แล้วว่าประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 'โดนัลด์ ทรัมป์' ขึ้นบัญชีดำ Huawei ห้ามไม่ให้บริษัทสัญชาติสหรัฐฯทำการค้าด้วย Google จึงถูกบีบให้จำกัดการเข้าถึงของสินค้า Huawei ในบริการของ Google ในทางปฏิบัติคืออุปกรณ์แบรนด์ Huawei จะเปิดบริการอย่างกูเกิลเพลย์ (Google Play), ยูทูบ (YouTube), จีเมล์ (Gmail) และกูเกิลแม็ปส์ (Google Maps) ไม่ได้

ความหมายของมาตรการนี้แปลว่าในอนาคต ผู้ใช้อุปกรณ์ Huawei ที่เป็นระบบปฏิบัติการ Android อาจจะไม่สามารถใช้งานแอปที่ได้รับความนิยม และไม่ได้รับอัปเดตระบบความปลอดภัยที่รวดเร็วเพียงพอ

แต่ไม่นาน กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาก็ออกใบอนุญาตชั่วคราวให้ Huawei เพื่อให้สามารถทำงานกับธุรกิจในสหรัฐอเมริกาได้ ซึ่งหมายความว่า Google สามารถกลับมาเป็นพันธมิตรกับ Huawei ได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ใบอนุญาตนี้มีผลจนถึงวันที่ 19 สิงหาคมนี้เท่านั้น และยังไม่มีความชัดเจนว่า Huawei จะได้รับใบอนุญาตเต็มรูปแบบในการทำงานกับแบรนด์สหรัฐฯหรือไม่ เนื่องจากเชื่อกันว่ารัฐบาลสหรัฐฯมอง Huawei เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ

ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้จึงถูกมองว่าไม่มีอะไรมากไปกว่าเกียร์ว่าง ซึ่งถือเป็นการยืดช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับ Huawei ออกไปอีกนิดเดียว

***ใครมี Huawei ไม่ต้องกังวล

Google ออกแถลงการณ์ยืนยันต่อสาธารณชนแล้วว่า บริษัทกำลังปฏิบัติตามคำสั่งที่ได้รับ และทบทวนถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น สำหรับผู้ใช้บริการของ Google ทั้งส่วน Google Play และระบบรักษาความปลอดภัยอย่าง Google Play Protect ทั้งหมดจะทำงานบนอุปกรณ์ Huawei ทุกรุ่นที่มีอยู่ในตลาดต่อไป

สำหรับใครที่เพิ่งใช้เงินหมื่นซื้อรุ่นใหญ่อย่าง Huawei P30 Pro และรุ่นอื่นก็ขอให้วางใจ เพราะอุปกรณ์รุ่นปัจจุบันจะยังคงได้รับการอัปเดตความปลอดภัย และยังใช้ Google Play Store ได้ รวมถึงในอนาคตอันใกล้ตามที่ Google ได้สัญญาไว้ว่าจะไม่ลอยแพผู้ใช้แน่นอน

การผ่อนปรนการแบนชั่วคราวจะช่วยให้ทุกบริษัทสามารถเตรียมการเพื่อซัปพอร์ต Android ได้ดีขึ้นสำหรับอุปกรณ์รุ่นปัจจุบันและอนาคต ซึ่งหมายความว่า Huawei จะยังมีเวลาหายใจได้อีกหน่อย ขณะที่ลูกค้าปัจจุบันก็จะสบายใจได้ในช่วงนี้ แม้ภาพอนาคตในช่วง 3 เดือนต่อจากนี้จะยังเบลอและมัวอยู่มากก็ตาม

ทั้งหมดนี้ Huawei ยืนยันว่าจะยังคงทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อรองรับโทรศัพท์ Huawei ทุกรุ่นที่มีอยู่ทั่วโลก และกำลังพิจารณาถึงการปรับตัวด้านอื่นจากการตัดสินใจของ Google ในแถลงการณ์ Huawei ย้ำอีกว่าจะยังคงให้บริการอัปเดตความปลอดภัย รวมถึงบริการหลังการขายแก่ผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของ Huawei และแบรนด์ลูกอย่างออเนอร์ (Honor) ด้วย

ประเด็นที่ Huawei ยังไม่ตอบ คือแผนการของบริษัทเกี่ยวกับรุ่นใหญ่เมทเอ็กซ์ (Mate X) สมาร์ทโฟนพับหน้าจอได้ว่าจะแจ้งเกิดเป็น Android เวอร์ชันใหม่เต็มรูปแบบหรือไม่ โดยที่ผ่านมา Huawei ใช้เงินก้อนใหญ่ทำการตลาดแบบมหาศาลนับตั้งแต่เปิดตัว Mate X ในเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้ Mate X เป็นที่จับตาของโลกมากเป็นพิเศษ

***สมาร์ทโฟน Huawei รุ่นใหม่ยังใช้ Android?

คำประกาศของ Google นั้นแปลว่า Google จะไม่ทำงานกับ Huawei โดยตรงในการออกการอัปเดตให้กับระบบ Android และจะไม่อนุญาตให้อุปกรณ์ Huawei เข้าถึง Google Play Store ประเด็นนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ Huawei ซึ่งมีแผนขึ้นเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดในโลก

ดังนั้นหาก Huawei ต้องการใช้ระบบปฏิบัติการ Android ต่อไป ก็จะต้องใช้แพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส Android Open Source Project (AOSP) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มฟรีที่ทุกแบรนด์สามารถใช้เป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์ของแต่ละค่าย แต่ในเมื่อไม่สามารถเข้าถึงแอปหลักของ Google เช่น YouTube, Google Maps และ Chrome ได้ Huawei จึงถูกบังคับให้ทำงานกับนักพัฒนาซอฟต์แวร์โดยตรง เพื่อให้ทุกคนสร้างระบบนิเวศสำหรับอุปกรณ์ Huawei โดยเฉพาะ

สถานการณ์นี้จะคล้ายกับอะเมซอน (Amazon) ที่สร้างระบบปฏิบัติการไฟร์โอเอส (Fire OS) ซึ่งใช้ AOSP เป็นพื้นฐาน แต่มีแอปสโตร์เป็นของตัวเอง

Amazon เลือกเส้นทางนี้เพราะต้องการควบคุมแพลตฟอร์มของแท็บเล็ตและอุปกรณ์ลำโพงผู้ช่วยส่วนตัว ทั้ง Fire และ Echo ด้วยตัวเอง ซึ่งหาก Huawei เลือกทางนี้ ก็อาจเสี่ยงตกอยู่ในภาวะโคม่าเหมือนโนเกีย (Nokia) และไมโครซอฟท์ (Microsoft) ในอดีตที่ไม่สามารถปั้นวินโดวส์โฟน (Windows Phone) เป็นทางเลือกแทน Android และไอโอเอส (iOS) ของแอปเปิลได้ แม้ว่าทั้งคู่จะพยายามดึงดูดนักพัฒนาซอฟต์แวร์เต็มแรงแล้วก็ตาม

ไม่ว่าอย่างไร วันนี้ Huawei โชว์ของว่าตัวเองกำลังพัฒนาระบบของตัวเอง เพื่อเป็นทางเลือกแทน Android มาเป็นเวลาเกือบ 7 ปีแล้ว ชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการคือ Hongmeng OS ยังไม่มีรายละเอียดว่า Hongmeng OS สร้างขึ้นจาก AOSP หรือไม่

ในคำแถลงล่าสุด Huawei ระบุว่าจะสร้างระบบนิเวศซอฟต์แวร์ที่ปลอดภัยและยั่งยืน เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ทุกคนทั่วโลก แม้ว่าแบรนด์ Honor ซึ่งเป็นแบรนด์ย่อยของ Huawei ก็ได้รับการยืนยันแล้วว่าจะถูกแรงบีบจากมาตรการเดียวกัน

***แบรนด์อื่นมีผลด้วย

แม้ว่าการคว่ำบาตร Huawei จะไม่ส่งผลกระทบต่อแบรนด์อื่น แต่ปรากฏการณ์นี้ชี้ชัดว่าการเมืองระดับโลกกำลังส่งผลกระทบอย่างมากต่อการผลิตและการตลาดของอุปกรณ์ไอที ที่กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนหลายพันล้านคนทั่วโลก

ดังนั้นในขณะที่แบรนด์อื่นยังไม่มีปัญหา แต่การคว่ำบาตรนี้อาจทำให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายอื่นเริ่มคิดใหม่ทำใหม่ ส่วนหนึ่งคือในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซัมซุง (Samsung) ก็เคยมีข่าวลือว่าจะหยุดใช้ระบบปฏิบัติการ Android ของ Google อย่างจริงจัง เนื่องจากรู้สึกว่ายักษ์ใหญ่ Google ควบคุมระบบปฏิบัติการบนสมาร์ทโฟน Galaxy ได้มากเกินไป

สิ่งนี้ทำให้ Samsung เร่งพัฒนา Tizen OS ซึ่งถูกนำมาใช้กับอุปกรณ์เช่นสมาร์ทวอทช์ตระกูล Galaxy ของ Samsung ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่การเจรจากับ Google ที่ทำให้ผู้ผลิตมีอิสระมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สมาร์ทโฟนที่ใช้ Tizen OS ยังเป็นรุ่นราคาประหยัดที่ไม่ได้ใกล้เคียงกับความสำเร็จของโทรศัพท์ตระกูล Galaxy เลย

ผู้ได้รับประโยชน์จากกรณีนี้อาจเป็น Apple ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์สนับสนุนให้ Apple ย้ายการฐานการผลิตจากประเทศจีนไปยังสหรัฐอเมริกามานาน แถมยังยกเว้นภาษีการค้ากับจีนให้ Apple ซึ่งทำให้ iPhone ไม่ต้องขึ้นราคา จุดนี้นักวิเคราะห์มองว่า Huawei เป็นหนามชิ้นใหญ่ที่กลายเป็นคู่แข่งหลักของ Apple ในตลาดสมาร์ทโฟนพรีเมี่ยม สิ่งนี้สวนทางทรัมป์ที่ต้องการเห็นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ยิ่งใหญ่บนเวทีโลกอย่างชัดเจน

การสูญเสีย Huawei ในฐานะผู้เล่นหลักของตลาดสมาร์ทโฟนโลก อาจส่งผลกระทบในวงกว้างต่อสมาร์ทโฟนที่ผู้ค้ารายอื่นกำลังพยายามปั้นออกมา เนื่องจากก่อนหน้านี้ การพัฒนาความสามารถทางเทคโนโลยีของแบรนด์จีนนั้นทำให้คู่แข่งต้องปรับปรุงอุปกรณ์ของตัวเองแบบจริงจัง และผลักดันความก้าวหน้าใหม่เพื่อแข่งขันได้ดีขึ้น ด้งนั้นการลดทอนอิทธิพลของ Huawei ย่อมจะทำให้พัฒนาการของตลาดช้าลง

กรณีของ Huawei นั้นชัดเจนมากเรื่องความกล้าหาญในการยกระดับกล้องสมาร์ทโฟน ต้องยอมรับว่า Huawei ทำให้เกิดการแข่งขันระหว่างหลายแบรนด์ ที่ต้องวิ่งสู้ฟัดนำเสนอกล้องที่คมชัดและคุณภาพแจ่มขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การนำหน้าคู่แข่งไปก่อนส่งให้สมาร์ทโฟนพรีเมี่ยมของ Huawei ทำยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างไม่ลดละ

***จุดจบ Huawei?

การผ่อนปรนคำสั่งแบน Huawei ออกไป 90 วันถูกมองว่ายังมีโอกาสที่ Huawei จะสามารถเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ เช่นเดียวกับการพิสูจน์ตัวเองว่า 'ปลอดภัย' และพาตัวเองออกจากใจกลางสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ก็อาจจะเป็นไปได้เช่นกัน ประเด็นนี้ไม่มีอะไรแน่นอนเพราะแม้แต่ตัว Google เองก็ยังยืนยันว่ากำลังทบทวนสถานการณ์และผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ จนมีแนวโน้มว่าอาจจะมีการล็อบบี้ให้ทบทวนการตัดสินใจนี้อีกครั้ง

แถลงการณ์ของ Google แสดงจุดยืนว่าไม่ต้องการจำกัดการใช้งาน Android ของ Huawei และแบรนด์สัญชาติอเมริกันอย่าง Qualcomm ก็กำลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแบน Huawei ทั้งหมดมีแนวโน้มว่าจะเกิดการล็อบบี้สูง ซึ่งอาจจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ได้

อย่างไรก็ตามหาก Google ถูกบังคับให้ตัด Huawei ออกจากการอัปเดตความปลอดภัย Android และ Play Store ตัว Huawei ย่อมต้องพบกับโจทย์ยากเพราะผู้บริโภคอาจมอง Huawei ด้วยความสงสัย และไม่เชื่อมั่นว่าจะใช้บริการได้ครบถ้วนรอบด้านเหมือนที่เคย

ดังนั้น มาตรการนี้จะส่งผลกระทบต่อ Huawei โดยตรง ขณะเดียวกันก็จะกระทบต่อทั้งอุตสาหกรรม และน่าจะมีผลกระทบต่อสมาร์ทโฟนเครื่องถัดไปที่ชาวโลกกำลังจะเลือกซื้อ จุดนี้อาจหมายถึงการเพิ่มขึ้นของสมาร์ทโฟนใหม่ ในระบบปฏิบัติการใหม่ที่อาจเป็นคู่แข่งสำคัญของ Android ในอนาคต.


กำลังโหลดความคิดเห็น