Huawei เป็นอีกแบรนด์ที่ต้องปรับตัวในการจัดงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Huawei P40 ซีรีส์ ที่ปีนี้แยกออกมาเป็น 3 รุ่นย่อย ยังคงชูจุดเด่นเรื่องกล้องถ่ายภาพ ซูม 100 เท่า และรองรับ 5G ที่ไร้เงา Google Mobile Service เช่นเดิม
ริชาร์ด หยู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวเว่ย คอนซูเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป กล่าวว่า ที่ผ่านมา Huawei P ซีรีส์ ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่นำนวัตกรรมด้านการถ่ายภาพออกสู่ตลาดให้ผู้บริโภคได้เข้าถึง โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากความร่วมมือกับทางไลก้า ผสมผสานกับการนำ AI มาใช้งาน
โดยในปีที่แล้ว P30 ซีรีส์ ได้นำเสนอเรื่องการซูมภาพสูงถึง 50 เท่า รวมถึงการถ่ายภาพในที่แสงน้อย จากเทคโนโลยีการรับแสงแบบใหม่ของหัวเว่ยอย่าง RYYB ในการรับแสง และนำมาประมวลผลเพิ่มเติม
ในปีนี้ P40 ซีรีส์ ก็ได้เพิ่มความสามารถของกล้องถ่ายภาพให้ดียิ่งขึ้น ทั้งเรื่องของการซูมภาพให้ได้ความคมชัดสูง ในระดับ 100 เท่า จนถึงการพัฒนาให้ถ่ายภาพวิดีโอแบบ Cine Camera ที่สามารถใช้งานโหมด Super Zoom ได้เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม Huawei P40 ซีรีส์ ยังมากับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 10 ที่ครอบด้วย EMUI 10.1 ที่ใช้งาน Huawei Mobile Service ซึ่งเป็นอีโคซิสเตมส์ของหัวเว่ย เหมือนเช่นใน Mate30 ซีรีส์ ที่วางจำหน่ายก่อนหน้านี้ เช่นเดียวกับหน่วยประมวลผลที่เป็น Kirin 990 5G นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาระบบชาร์จเร็วทั้งแบบไร้สาย 40W สำหรับรุ่น P40 Pro+ ส่วนรุ่น P40 Pro จะมากับชาร์จเร็วแบบไร้สาย 27W พร้อมฟีเจอร์อย่าง Huawei Share
สำหรับความแตกต่างของ P40 ซีรีส์ ทั้ง 3 รุ่น จะอยู่ที่กล้องหลัง โดยในรุ่น P40 จะมากับกล้องหลัก Ultra Vision Wide 50 ล้านพิกเซล Ultra Wide 16 ล้านพิกเซล และ Telephoto 3 ล้านพิกเซล
ขณะที่ P40 Pro จะใช้เลนส์หลักเดียวกันคือ Ultra Vision Wide 50 ล้านพิกเซล f/1.9 มาพร้อมกันสั่น OIS ตามด้วยกล้อง Ultra Wide Cine 40 ล้านพิกเซล f/1.8 Telephoto ที่ใช้เทคโนโลยี Periscope 12 ล้านพิกเซล และเลนส์วัดระยะ ToF
ส่วนตัวท็อปสุด P40 Pro+ จะใช้3 เลนส์หลักคือ Ultra Vision Wide 50 ล้านพิกเซล Ultra Wide Cine 40 ล้านพิกเซล และ เลนส์วัดระยะ ToF เช่นเดียวกับ P40 Pro เพิ่มเติมด้วยเลนส์ Telephoto 2 เลนส์ คือ ออปติคัล 3 เท่า (80 มม.)ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล กับ ออปติคัล 10 เท่า (240 มม.) ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
ความพิเศษของ P40 Pro+ คือเลนส์ Periscope มีการนำเทคโนโลยีกระจกสะท้อนแสงหลายครั้งมาใช้งานเป็นรุ่นแรกของโลก พร้อมกับเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/1.28 นิ้ว ที่ให้ความละเอียดเม็ดสีสูงถึง 2.44 um
ทั้งนี้ ขนาดหน้าจอของ P40 จะอยู่ที่ 6.1 นิ้ว ส่วนอีก 2 รุ่น อยู่ที่ 6.58 นิ้ว โดยมีกล้องหน้าคู่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล กับกล้องอินฟาเรดที่ใช้ปลดล็อกใบหน้า และตรวจจับการเคลื่อนไหว จากการเพิ่มฟีเจอร์ควบคุมหน้าจอด้วยการปัดมือไปมา
สำหรับราคาจำหน่ายของ P40 ในยุโรป รุ่น 8 GB + 128 GB อยู่ที่ 799 ยูโร หรือราว 28,600 บาท ส่วน P40 Pro รุ่น 8 GB + 256 GB วางจำหน่ายในราคา 999 ยูโร หรือราว 35,800 บาท ในวันที่ 7 เมษายน ขณะที่ P40 Pro+ รุ่น 8 GB + 512 GB เปิดมาในราคา 1,399 ยูโร หรือราว 50,000 บาท วางขายในช่วงเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ตามปกติแล้วราคาในแถบประเทศยุโรปจะสูงกว่าราคาที่วางจำหน่ายในประเทศไทย
