เหริน เจิ้งเฟย (Ren Zhengfei) ซีอีโอและผู้ก่อตั้งหัวเว่ย (Huawei) มั่นใจ Huawei แกร่งพอที่จะเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนเบอร์ 1 ของโลกได้แม้ว่าจะถูกตัดขาดจากซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันกูเกิล (Google) ยืนยันไม่เป็นปัญหา แต่จะใช้เวลานานขึ้นกว่าจะได้แชมป์เท่านั้น
ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Huawei ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNN Business อย่างมั่นใจว่า Huawei จะยังคงสามารถครองแชมป์แบรนด์อันดับ 1 ในตลาดสมาร์ทโฟนได้แม้จะไม่มี Google โดยเชื่อว่าตัว Google ยังไม่ได้ถูกระงับหรืออนุมัติใบอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งฝั่ง Google ก็ยังไม่ให้ความเห็นใดในขณะนี้
“ผมไม่คิดว่า (การไม่มี Google) นั้นเป็นปัญหา” Ren Zhengfei กล่าวก่อนจะเสริมว่า Huawei จะใช้เวลานานขึ้นกว่าจะเป็นแชมป์
ปัจจุบัน Huawei ถูกยกเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลกเรียบร้อยแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างเป้าหมายที่จะแซงซัมซุง (Samsung) ในฐานะผู้ขายสมาร์ทโฟนอันดับ 1 ในปีนี้ จนกระทั่ง Huawei ถูกขึ้นบัญชีดำของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้มีข้อจำกัดไม่สามารถใช้เทคโนโลยี สินค้า และบริการของบริษัทสหรัฐอย่าง Google, อินเทล (Intel) และบรอดคอมม์ (Broadcom) จนกว่าจะได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลโดยเฉพาะ
ผลคือขณะนี้ส่วนแบ่งการตลาดในต่างประเทศของ Huawei กำลังหดตัว เนื่องจากลูกค้านอกประเทศจีนเริ่มระมัดระวังการซื้อโทรศัพท์ที่เสี่ยงไม่สามารถเข้าถึงบริการร้านดาวน์โหลดแอปอย่างเพลย์สโตร์ (Google Play Store) และแอปยอดนิยมเช่นโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊ก (Facebook), แอปเรียกรถอย่างอูเบอร์ (Uber) และบริการแผนที่อย่างกูเกิลแม็ปส์ (Google Maps) ซึ่งแม้โทรศัพท์ Huawei จะยังขายดีมากในจีน แต่การถูกปิดกั้นจากแอปของ Google กำลังส่งผลกระทบต่อยอดขาย Huawei ในต่างประเทศ
สำหรับ “ใบอนุญาต” ที่ CEO Huawei กล่าวถึงนั้นคือใบอนุญาตที่รัฐบาลสหรัฐฯจะมอบให้บริษัทสามารถทำการค้ากับบริษัทที่อยูในรายการแบล็กลิสต์ รายงานระบุว่าบริษัทสหรัฐฯบางแห่งเช่นไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้รับใบอนุญาตเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งอนุญาตให้ทำธุรกิจกับบริษัทในแบล็กลิสต์เพราะไม่เสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ ขณะที่บางบริษัท ถูกปฏิเสธใบอนุญาต
แม้ Huawei จะถูกกดดันว่ามีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยระดับชาติสหรัฐฯ แต่ Huawei ก็ปฏิเสธแข็งขันโดยตลอด โดย CEO Huawei มั่นใจว่า Google ยังไม่ได้ถูกปฏิเสธใบอนุญาต ขณะเดียวกันก็ยังไม่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งที่ผ่านมา Huawei ยืนยันซ้ำไปมาหลายรอบว่าพร้อมทำงานร่วมกับ Google ถ้าเป็นไปได้ แต่ Huawei ก็กำลังหาทางพึ่งพาตัวเองเช่นกัน
ที่ผ่านมา Huawei ลุยพัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเองในชื่อเรียกว่าฮาร์โมนี่โอเอส (HarmonyOS) และแอปสโตร์ของตัวเอง แต่จำนวนแอปให้ดาวน์โหลดยังมีเพียง 45,000 แอปในขณะนี้ ซึ่งหากเปรียบเทียบกับ 2.8 ล้านแอปใน Google Play Store ก็ถือว่าเป็นมวยคนละชั้นได้เลย
ในภาพรวม Ren หยอดยาหอมว่าสหรัฐอเมริกายังคงเป็นประเทศที่มีอำนาจมากที่สุดเมื่อกล่าวถึงนวัตกรรม และไม่มีใคร (รวมทั้งจีน) ที่สามารถแซงหน้าได้ในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า แต่ก็แนะนำว่ารัฐบาลสหรัฐฯอาจช่วยส่งเสริมให้จีนแข่งขันได้ดีขึ้นโดยไม่ตั้งใจ หากยังคงมีข้อจำกัดว่าบริษัทสหรัฐฯสามารถทำการค้ากับใครได้บ้าง
ดังนั้นถ้า Huawei ไม่สามารถทำงานกับซัปพลายเออร์ในสหรัฐอเมริกา "Huawei จะต้องหันไปหาทางเลือกอื่น ถ้าทางเลือกเหล่านั้นกลายเป็นทางเลือกที่เติบโตได้คงที่ CEO มองว่าจะมีโอกาสน้อยที่ Huawei จะเปลี่ยนกลับไปใช้วิธีเดิม ก่อนจะตบท้ายว่าเวลานี้เป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับทั้ง 2 ประเทศ
“ผมหวังว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะสามารถพิจารณาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับบริษัทอเมริกัน"
แม้จะมีข่าวลบมาตั้งแต่กลางปี Huawei พยายามพิสูจน์ตัวเองว่ามีผลประกอบการที่สวยงามทั้งที่อยู่ในบัญชีดำของรัฐบาลสหรัฐฯ โดย Huawei รายงานผลประกอบการเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่ารายได้เพิ่มขึ้น 24% ใน 9 เดือนแรกของปี 2562 โดยโชว์ว่ายอดขายสมาร์ทโฟนในจีนพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าประทับใจ