xs
xsm
sm
md
lg

เบอร์ 2 กลุ่มพรีเมียม เป้าหมายปีนี้ของ “หัวเว่ย” หลังขาย P20 ซีรีส์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เมื่อการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม หรือช่วงราคา 15,000 บาทขึ้นไป เหลือเจ้าตลาดหลักๆอยู่ 3 ราย หัวเว่ย (Huawei) พร้อมเร่งเครื่องชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น ตั้งเป้าขึ้นเบอร์ 2 ในกลุ่มพรีเมียมภายในสิ้นปี จากยอดขายในกลุ่ม P ซีรีส์ ที่คาดว่าจะเติบโตจากปีที่ผ่านมาเท่าตัว

นายทศพร นิษฐานนท์ รองผู้อำนวยการ หัวเว่ย คอนซูเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวถึงการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนกลุ่มพรีเมียม ในปัจจุบันที่มีผู้เล่นหลักอยู่ 3 ราย ซึ่งหัวเว่ย มองเห็นช่องว่างในระดับราคาที่มีโอกาสสอดแทรกเข้าไปได้ จึงมั่นใจว่ายังมีโอกาสเติบโตอยู่

“ที่ผ่านมา ผู้บริโภคในระดับไฮเอนด์ จะมองหาสินค้าที่ตอบโจทย์การใช้งาน แต่ในกลุ่มตลาดสมาร์ทโฟนในระดับพรีเมียมจะไม่ค่อยมีความเปลี่ยนแปลงมากนัก หัวเว่ยจึงมั่นใจว่าการนำ P20 และ P20 Pro เข้ามาทำตลาดในช่วงราคา 19,990-27,990 บาท จะช่วยทำให้ตลาดนี้เติบโตได้'

ทั้งนี้ สัดส่วนตลาดของกลุ่มสมาร์ทโฟนในระดับพรีเมียมประเทศไทย จะอยู่ที่ราว 30% ในแง่ของมูลค่า ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่เติบโตเพียงเล็กน้อยในแต่ละปี โดยทางหัวเว่ย ตั้งเป้าว่า ภายในสิ้นปีนี้จะสามารถแซงขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ในตลาดนี้ได้

ปัจจุบัน แบรนด์สมาร์ทโฟนที่จำหน่ายสินค้าในระดับพรีเมียมประเทศไทยจะประกอบไปด้วย Samsung ที่มีสินค้าในตระกูล Galaxy Note 8 และ Galaxy S9 / S9+ กับ Apple ที่มี iPhone 8 iPhone 8 Plus และ iPhone X อยู่ ส่วนของ Huawei ก็จะมี P20 ซีรีส์ และ Mate 10 ซีรีส์

ขณะเดียวกัน หัวเว่ยยังได้มองถึงการสร้างอีโคซิสเตมส์ ในการสร้างโปรแกรมส่งเสริมการขายเพื่อตอบแทนลูกค้า ด้วยการนำเสนอ Huawei App Gallery ที่จะรวบรวมพันธมิตรทั้งผู้ผลิตแอปพลิเคชัน และแบรนด์สินค้าต่าง ๆ เข้ามาให้ส่วนลด และสิทธิพิเศษแก่ลูกค้า

ส่วนในแง่ของช่องทางจำหน่าย นอกจากการขยายช่องทางออนไลน์ ร่วมกับอีคอมเมิร์ซแบรนด์หลัก ๆ ทั้ง ลาซาด้า ช้อปปี้ และ 11Street แล้ว ในส่วนของออฟไลน์ ก็จะเร่งเพิ่มแบรนด์ช็อปเป็น 140 สาขาภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ราว 90 สาขา

นายชาญวิทย์ เขียวนาวาวงศ์ษา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวเสริมถึงแนวทางในการทำตลาดของ Huawei P20 และ P20 Pro ว่าจะเน้นไปที่การสื่อให้ลูกค้าได้ทราบว่า โปรดักต์ดีอย่างไร ทำอย่างไรให้คนเห็นคุณภาพของภาพที่ถ่ายจากเครื่องเป็นหลัก

“เมื่อผลิตภัณฑ์ดี ประกอบกับการที่มีกลุ่มลูกค้าที่มีความเชื่อมั่นใจแบรนด์เพิ่มมากขึ้น ก็จะเกิดการบอกต่อกันแบบปากต่อปาก จะทำให้เกิดการที่ผู้บริโภคร่วมกันสร้างคอนเทนต์ และกระแสต่าง ๆ เพิ่มเข้ามาช่วยด้วย”

สำหรับ Huawei P20 และ P20 Pro จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทย วันที่ 20 เมษายน ในราคา 19,990 บาท และ 27,990 บาท ตามลำดับ ซึ่งกระแสตอบรับจากช่วงที่เปิดจอง พบว่ามียอดสั่งจองเข้ามาเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับ P10 และ P10 Plus


กำลังโหลดความคิดเห็น