หัวเว่ย เสริมไลน์สินค้ากลุ่มราคาประหยัดจับต้องได้ ในกลุ่ม Y ซีรีส์ ด้วย Huawei Y9 2018 หวังสร้างจุดเปลี่ยนอุตสาหกรรมด้วยสมาร์ทโฟนสเปกระดับกลางบน 4 กล้อง จอ FullView Display แบตเตอรี 4,000 mAh ในราคา 6,990 บาท
นายทศพร นิษฐานนท์ รองผู้อำนวยการ หัวเว่ย คอนซูเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวถึงสภาพตลาดรวมสมาร์ทโฟนในประเทศไทยปีนี้ว่าจะไม่ได้มีอัตราการเติบโตหวือหวาเหมือนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แต่ก็มีส่วนที่น่าสนใจ คือ กลุ่มระดับราคา 3,000-7,000 บาท มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นมาก เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ที่ขยายตัวจะอยู่ในช่วงระดับราคาต่ำกว่า 3,000 บาท
เมื่อเทียบสัดส่วนสมาร์ทโฟนในระดับต่ำกว่า 7,000 บาท ที่หัวเว่ยมองว่าเป็นกลุ่มราคาประหยัด จับต้องได้ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่าแนวโน้มของสมาร์ทโฟนระดับราคาต่ำกว่า 3,000 บาทจากปี 2016 มีสัดส่วนที่ 47% ลดลงมาเหลือ 33% ในปี 2017 ซึ่งถือว่าลดลงกว่า 29%
ขณะที่ช่วงระดับราคา 3,000-5,000 บาท ปี 2016 อยู่ที่ 43% เติบโตขึ้น 24% ในปี 2017 มาอยู่ที่ 52% ส่วนในช่วงระดับราคา 5,000-7,000 บาท แม้ว่าจะมีสัดส่วนน้อยในกลุ่มนี้ แต่ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูงจากปี 2016 อยู่ที่ 11% เพิ่มขึ้น 35% มาอยู่ที่ 14%
“จะเห็นได้ว่าแนวโน้มของผู้บริโภค หันมานิยมเครื่องสมาร์ทโฟนที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ โดยไม่ได้เน้นเฉพาะในเรื่องของราคาอีกต่อไป แต่จะเน้นถึงประสิทธิภาพและฟีเจอร์ที่ได้รับด้วย ทำให้หัวเว่ย เห็นถึงโอกาสในตลาดนี้ จึงมีการเสริมไลน์สินค้าอย่าง Huawei Y9 2018 เข้ามาในระดับราคา 6,990 บาท”
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดรวมสมาร์ทโฟนในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตในระดับซิงเกิลดิจิต จากปีที่ผ่านมาที่มียอดขายต่อเดือนราว 1.2-1.3 ล้านเครื่อง แต่จะไปเติบโตในส่วนของมูลค่าแทน ส่วนระยะเวลาเปลี่ยนเครื่องของผู้ใช้แอนดรอยด์ปัจจุบันอยู่ที่ราว 13 เดือน
“เป้าหมายหลักของหัวเว่ยในปีนี้ จะเน้นในส่วนของการให้บริการลูกค้าที่จะขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ให้ได้มากกว่าแข่งในเรื่องของการชิงส่วนแบ่งการตลาด แต่ในภาพรวมก็ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะขึ้นเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนในปี 2020 เช่นเดิม”
นอกจากนี้ ภายในปีนี้ หัวเว่ย จะเน้นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ให้เพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกับการนำอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอุปกรณ์ IoT เข้ามาทำตลาดเพื่อให้มีความหลากหลายของสินค้ามากขึ้น
ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายหลักของ Huawei Y9 2018 จะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยู่ในวัยเรียน หรือเพิ่งเริ่มทำงาน มีพฤติกรรมการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์ก พร้อมไปกับกิจกรรมความบันเทิงต่าง ๆ โดยคาดว่าด้วยระดับราคาดังกล่าว จะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น
สำหรับ Huawei Y9 2018 มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.93 นิ้ว แบบ FullView Display สัดส่วน 18:9 ทำงานบนหน่วยประมวลผล Kirin 659 มีจุดเด่นหลักอยู่ที่กล้องคู่ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ที่ความละเอียด 16+2 ล้านพิกเซล และ 13+2 ล้านพิกเซล ตามลำดับ แบตเตอรีขนาด 4,000 mAh
รองรับการใช้งาน 2 ซิม แยกถาดกับไมโครเอสดีการ์ดสูงสุด 256 GB มีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างสแกนลายนิ้วมือ และปลดล็อกตัวเครื่องด้วยใบหน้า ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 8.0 วางจำหน่ายด้วยกัน 3 สีคือ ดำ น้ำเงิน และทอง ในราคา 6,990 บาท โดยในช่วงที่เปิดจองระหว่างวันที่ 16-29 มีนาคม ทั้งผ่านหน้าร้าน และช่องทางออนไลน์ร่วมกับช้อปปี้ (Shopee) จะได้รับเครื่องชั่งน้ำหนัก Huawei Body Fat Scale ราคา 2,990 บาท