ความเคลื่อนไหวล่าสุดเรื่องสหรัฐฯ สั่งลงดาบ ห้ามบริษัทอเมริกันขายชิ้นส่วนให้กับผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมของจีน “แซตทีอี” (ZTE Corp) ถูกประเมินว่าสร้างความเสียหายใหญ่ให้กับบริษัทควอลคอมม์ (Qualcomm Inc) ซึ่งเป็นบริษัทอเมริกันที่เป็นซัปพลายเออร์จัดส่งชิปโทรศัพท์รายใหญ่ที่สุดให้ ZTE
ผลจากช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา (17 เม.ย.) กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศห้ามบริษัทอเมริกันขายสินค้าให้ ZTE นาน 7 ปี เพื่อลงโทษที่ ZTE ละเมิดข้อตกลงกับรัฐบาลสหรัฐฯ ในปีที่แล้ว ด้วยการส่งสินค้าไปยังอิหร่านอย่างผิดกฎหมายจนถูกจับได้ เบื้องต้น มีการประเมินแล้วว่า ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการลงโทษนี้ไม่ใช่ ZTE รายเดียว แต่หวยนั้นไปออกที่ Qualcomm บริษัทอเมริกันด้วย เนื่องจาก Qualcomm เป็นผู้ผลิตชิปที่ติดตั้งภายในสมาร์ทโฟน ZTE มากที่สุด ตามการประเมินของบริษัทวิจัยไอเอชเอส (IHS Markit) พบว่า ZTE จัดส่งโทรศัพท์ประมาณ 46.4 ล้านเครื่องในปีที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์คำนวณเบื้องต้นจากยอดขายสมาร์ทโฟน ZTE จำนวนเฉลี่ย 45 ล้านเครื่องต่อปี ว่าราวครึ่งหนึ่งใช้ชิปของ Qualcomm ดังนั้น หากนำราคาเฉลี่ยชิป 25 เหรียญสหรัฐฯ มาคูณกับจำนวน 22.5 ล้านเครื่อง จะพบว่า Qualcomm กำลังจะสูญเงินรายได้กว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ด้านบริษัทวิจัยคานาลิส (Canalys) บริษัทที่ปรึกษาด้านด้านเทคโนโลยีประเมินไว้สูงกว่านั้น โดยบอกว่าโทรศัพท์ ZTE จำนวนมากกว่า 65% ล้วนใช้ชิป Qualcomm
ฝันร้ายครั้งนี้ของ Qualcomm อาจเพิ่งเริ่มต้น โดยไม่แน่ Qualcomm อาจถูกหางเลขจากการลงดาบของรัฐบาลอเมริกันชุดล่าสุดที่ต้องการหยุดการเติบโตของจีนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีโลก รวมถึงต้องการลดอิทธิพลของบริษัทจีนในตลาดลุงแซม
ที่ผ่านมา Qualcomm มียอดขาย 2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีที่แล้ว จุดนี้นักวิเคราะห์ชี้ว่า Qualcomm กำลังจะได้รับผลกระทบจากการขาดพันธมิตรที่เป็นบริษัทจีนรายเล็ก เนื่องจากแม้บริษัทอุปกรณ์สื่อสารรายใหญ่อย่างหัวเว่ย (Huawei) จะเป็นคู่แข่งตัวจริง แต่บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสัญชาติจีนรายเล็ก ล้วนเป็นพันธมิตรที่สำคัญ ซึ่งทำรายได้ให้ Qualcomm เป็นกอบเป็นกำ
ไม่แน่ ทั้งหมดนี้อาจเป็นหมากการเมืองที่ถูกวางไว้แล้ว เพราะก่อนหน้านี้ Qualcomm ที่ถูกมองเป็นบริษัทซึ่งเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับรัฐบาลสหรัฐฯ นั้น ก็ตกอยู่ในสถานการณ์ไม่สู้ดี เพราะรัฐบาลจีนไม่อนุมัติให้ควบรวมกิจการกับบริษัทเอ็นเอ็กซ์พี (NXP Semiconductors) มูลค่าดีล 4.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงก่อนหน้านี้
สำหรับ ZTE นั้นได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่อันดับ 2 ของจีน ตามข้อมูลจาก Canalys แบรนด์รองอย่าง ZTE หลุดทำเนียบท็อป 10 ของตลาดจีนไปเพราะคู่แข่ง เช่น Huawei, ออปโป (OPPO), วีโว (Vivo) และเสี่ยวหมี่ (Xiaomi) ทำยอดขายเพิ่มขึ้นรวดเร็วในไตรมาสที่ผ่านมา
แต่ในสหรัฐอเมริกา ZTE เป็นผู้จัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 4 ตามหลังผู้ผลิตไอโฟน (iPhone) อย่างแอปเปิล (Apple Inc) และซัมซุง (Samsung Electronics) รวมถึงแอลจี (LG Electronics) ของเกาหลีใต้
ในภาพรวม ZTE มีส่วนแบ่งตลาด 11.2% ในตลาดสหรัฐฯ สถิติปี 2017 ตามข้อมูลจาก Canalys.