ถึงแม้สภาวะเศรษฐกิจภาพรวมในปีที่ผ่านมาไม่ค่อยสดใสมากนักในหลายๆ อุตสาหกรรม แต่สำหรับธุรกิจเครื่องพิมพ์แล้ว บราเดอร์กลับเติบโตสวนกระแสตลาด ขณะเดียวกันผลการสำรวจของสำนักวิจัยตลาดอย่างไอดีซีระบุว่า ตลาดพรินเตอร์ภาพรวมในปี 2015 เติบโตขึ้นเพียง 5% แต่สำหรับบราเดอร์นั้นกลับเติบโตมากกว่าตลาด และโตสูงถึง 10% เลยทีเดียว เช่นเดียวกับในปีนี้ที่บราเดอร์ยังคงมั่นใจที่จะเติบโตขึ้น 10% โดยจะหันมาเน้นตลาดในกลุ่มองค์กรธุรกิจหรือคอร์ปอเรต ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนของธุรกิจอยู่ที่ 10% และอีก 90% เป็นของลูกค้าทั่วไป แต่ในปีนี้บราเดอร์จะเพิ่มสัดส่วนองค์กรธุรกิจเป็น 20%
โทโมยูกิ ฟูจิโมโต กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผลประกอบการในปีงบประมาณ 2015 (เริ่มเมษายน 2015 ถึง มีนาคม 2016) ของบราเดอร์ทั่วโลกคาดว่าน่าจะจบอยู่ที่ 755 พันล้านเยน เติบโต 6.8% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2014 สำหรับตลาดในเมืองไทย คาดว่าปีงบประมาณ 2015 บราเดอร์ประเทศไทยจะมียอดขายเติบโตกว่าปี 2014 ประมาณ 10% ส่วนในปีงบประมาณ 2016 นั้นคาดว่าจะมีการเติบโตที่ 10% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2015
เป้าหมายของบราเดอร์คือการเป็นผู้นำในทุกกลุ่มสินค้าที่ทำตลาดในเมืองไทยในตลาดพรินติงแอนด์โซลูชัน (พรินเตอร์ ,เครื่องพิมพ์ฉลาก) และตลาดเพอร์ซันนอล อย่างจักรเย็บผ้า แต่ทั้งนี้การจะขึ้นเป็นผู้นำในทุกกลุ่มธุรกิจ ไม่ได้หมายถึงต้องมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 เพราะเมื่ออยู่ในกลุ่มผู้นำ 3 อันดับแรกก็ถือว่าเป็นผู้นำในตลาดแล้ว อย่างไรก็ตามในบางกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบราเดอร์ก็มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1-2 อยู่แล้ว ในขณะที่บางตลาดอย่างจักรเย็บผ้าที่ไม่ได้มีการเก็บยอดจำหน่าย แต่ก็เชื่อว่าบราเดอร์เป็นผู้นำเช่นเดียวกัน
**เศรษฐกิจซบไม่ได้หมายความว่าบราเดอร์จะไม่โต
โทโมยูกิ กล่าวว่า ในปี 2015 ที่ผ่านมา แม้เศรษฐกิจภาพรวมจะไม่ค่อยดีเท่าไรนัก แต่บราเดอร์ 11 เดือนที่ผ่านมาสามารถทำยอดขายเติบโตขึ้น 10% ซึ่งคาดว่าเหลืออีกเพียง 1 เดือนนับจากนี้ ยอดขายก็ไม่น่าจะแตกต่างกันมากนัก ส่วนตลาดรวมเครื่องพิมพ์ในเมืองไทยปี 2016 นี้ ทางไอดีซีคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตราว 5% คิดเป็นจำนวนเครื่องราว 1.32 ล้านเครื่อง
ทางด้านส่วนแบ่งการตลาดนั้นสำนักวิจัยตลาด เจเอฟเค ระบุว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์โมโนเลเซอร์มัลติฟังก์ชัน บราเดอร์มีส่วนแบ่งการตลาด 38.7% เป็นอันดับหนึ่งของตลาด (มกราคม 2015-ธันวาคม 2015) ในขณะที่ตลาดโมโนเลเซอร์พรินเตอร์ มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 27.6% อยู่ในอันดับ 2 ส่วนตลาดอิงก์เจ็ตมัลติฟังก์ชัน มีส่วนแบ่ง 19.5% อยู่ในอันดับที่ 4 (ถ้าหากวัดกันที่มูลค่าแล้วในตลาดมัลติฟังก์ชันนี้บราเดอร์จะมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 26.1% ถือว่าอยู่ในอันดับ 2)
ด้านธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้อำนวยการ ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์ในปี 2016 บราเดอร์จะขยายตลาดไปสู่คอร์ปอเรตเซ็กเมนต์ เนื่องจากมองว่าหลายองค์กรมีความต้องการใช้พรินเตอร์มากขึ้นแต่บราเดอร์ยังมีส่วนแบ่งการตลาดน้อยอยู่ และบราเดอร์มีผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองกลุ่มนี้ได้อยู่แล้ว โดยจะมุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจเอกชนในทุกตลาด ส่วนปัจจุบันโครงการภาครัฐก็ยังทำอยู่ทั้งจากส่วนกลาง และจากท้องถิ่น
ปัจจุบันบราเดอร์มีทีมคอร์ปอเรตเซลล์ในการเข้าถึงลูกค้าอยู่แล้ว ส่วนผลิตภัณฑ์ใหม่น่าจะออกมามากกว่า 10 รุ่นที่จะนำเสนอในปีนี้ โดยจะโฟกัสทุกผลิตภัณฑ์ ด้วยแนวคิดในการบริหารจัดการเครื่องพิมพ์ในองค์กร Balanced Deployment หรือแนวคิดในการทำให้ทุกส่วนในองค์กรสามารถใช้งานเทคโนโลยีการพิมพ์ได้อย่างลงตัว มีประสิทธิภาพ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ลง ด้วยการผสมผสานการใช้งานเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่กับการใช้งานเครื่องพิมพ์ขนาดเล็กสำหรับความต้องการงานพิมพ์ที่เฉพาะตัว
'บราเดอร์จะใช้เจ้าหน้าที่เข้าไปศึกษาว่าบริษัทนั้นๆ ใช้การพิมพ์เป็นจำนวนเท่าไร ใช้สีหรือขาวดำ แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นมาทำการวิเคราะห์ว่าจะต้องใช้พรินเตอร์รุ่นไหน รวมไปถึงจะคิดคำนวณว่าที่เคยใช้งานพิมพ์มาเท่าไร และเมื่อนำโซลูชันไปใช้แล้วจะเท่าไร ด้วยการทำแมเนจพรินต์เซอร์วิส ที่ประกอบไปด้วยหลายบริการ อาทิ การเข้าไปตั้งเครื่องฟรี แต่ต้องทำสัญญาการซื้อโทนเนอร์กับเราปีละเท่าไร ส่วนอีกวิธีคือรูปแบบการเช่าใช้ และหากพิมพ์จำนวนเท่าไรก็ต้องจ่ายตามความเป็นจริง'
กลยุทธ์ต่อมาคือการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์องค์กรมากขึ้นทั้งผลิตภัณฑ์อิงก์เจ็ท เลเซอร์ เช่นเดียวกับในส่วนของเครื่องพิมพ์ฉลากก็จะมีสินค้ารุ่นใหม่ๆ ออกมาที่เน้นเจาะกลุ่มตลาดอุตสาหกรรมการผลิตและโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ รวมไปถึงการใช้บริการโมบายพรินเตอร์ ส่วนกลุ่มสินค้าสแกนเนอร์ที่จะเพิ่มรุ่นไฮเอนด์เข้ามามากขึ้นรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าองค์กร เพราะแม้ว่าจะเพิ่งเริ่มทำตลาดนี้ได้เพียง 2-3 ปี แต่ยอดขายกลับโตขึ้น 30-40% ทุกปี รวมไปถึงการนำเสนอจักรเย็บผ้าสู่ตลาดอีก ซึ่งจะเปิดตัวรุ่นใหม่ๆ ทั้งจักรที่ใช้สำหรับเย็บและใช้สำหรับปัก หลังจากในปีที่ผ่านมามีการเติบโตขึ้น 30%
**การบริหารจัดการภายในอีกกลยุทธ์สำคัญดันธุรกิจโต
สำหรับกลยุทธ์สุดท้ายนั้น บราเดอร์จะทำการผนึกพลังช่องทางขายเพื่อรุกตลาดต่างจังหวัด โดยเน้นทำกิจกรรมส่งเสริมการขายตลอดจนการจัดสัมมนาให้แก่ลูกค้ากลุ่มต่างๆ ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันบราเดอร์มีศูนย์บริการครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ มีชอปจำนวน 138 ชอป ซึ่งบราเดอร์ให้ความสำคัญกับการบริการที่รวดเร็ว โดยมีบริการซ่อมใน 1 ชั่วโมง และมีศูนย์บริการบราเดอร์ ประจำภูมิภาครวม 5 แห่งทั่วประเทศ ประกอบด้วย เชียงใหม่ กรุงเทพฯ หาดใหญ่ ขอนแก่น และระยอง
ในปีที่ผ่านมาบราเดอร์ให้บริการซ่อมภายใน 1 ชั่วโมงถึง 95% ส่วนการเข้ารับบริการในศูนย์ตัวแทน สามารถซ่อมได้ใน 2 วัน ทำได้ถึง 96% นอกจากนี้บราเดอร์ยังเป็นเบอร์ 1 ในการให้บริการภายในศูนย์ไอทีซิตี้ โดยสามารถส่งอะไหล่ได้ภายใน 1 วันได้ถึง 98% เช่นเดียวกับในส่วนของคอลเซ็นเตอร์ที่สามารถตอบรับเมื่อลูกค้าโทร.มาได้ถึง 98% และในปีที่ผ่านมาได้รางวัล The Best Customer Satisfaction
'นอกจากนี้ที่ผ่านมายังได้มีการฝึกอบรมบราเดอร์เซอร์วิส เอกเซลเลนซ์ ที่ล่าสุดได้ทำโครงการ ThinkPlus คือทำอย่างไรให้การบริการมาจากข้างใน ด้วยการสร้างหลักสูตรขึ้นมา แล้วออกใบรับรอง เพื่อให้คนของเรามีทัศนคติที่ดี ให้รู้จักสร้างความคิดบวก มีการแนะนำให้รู้จักการทำงานของสมอง ว่ามีความสำคัญอย่างไร แล้วนำทฤษฎีเข้าไปใส่ เพื่อให้คิดแบบคนที่ประสบความสำเร็จ และท้ายสุดคือการให้รู้จักการให้ ให้ด้วยใจ ให้ด้วยวิธีการที่ถูกต้อง ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้จะช่วยให้เรามีบริการที่ดีขึ้น'
ธีรวุธ กล่าวว่า อีกปัจจัยหนึ่งที่บราเดอร์ทำมาตลอดคือ กลยุทธ์ทางด้านบริหารจัดการองค์กรให้เป็นที่น่าเชื่อถือแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องในกลไกธุรกิจทุกๆ กลุ่ม อาทิ กลุ่มลูกค้า กลุ่มสิ่งแวดล้อม กลุ่มชุมชนที่เข้าไปดำเนินธุรกิจ กลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจ กลุ่มผู้ถือหุ้น และกลุ่มพนักงานภายในองค์กร ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์เพื่อเพิ่มยอดขายควบคู่ไปกับการบริหารองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนโดยได้ทำซีเอสอาร์ ใน 2 ด้านคือ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยกิจกรรมการปลูกป่าโกงกาง และกิจกรรมช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งผ่านโครงการ 'บราเดอร์ รันแอนด์แชร์...วิ่งฝันปันน้ำใจ เพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง' ซึ่งได้ทำโครงการนี้มาแล้ว 2 ปีแล้ว ในปีแรกได้เงิน 450,000 บาท ปีที่ 2 ได้ 640,000 บาท
ทั้งหมดนี้คือกลยุทธ์ภาพรวมในการบุกตลาดเครื่องพิมพ์และธุรกิจจักรเย็บผ้าของบราเดอร์ ที่จะทำให้เข้าสู่เป้าหมายการเติบโต 10% และเข้าถึงใจของผู้ที่เกี่ยวข้องในทุกกลไกของธุรกิจ
