xs
xsm
sm
md
lg

"ทนายอนันต์ชัย" มอบเส้นเงินวัดนาป่าพง ให้"บิ๊กเต่า"ตรวจสอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



"ทนายอนันต์ชัย" เข้าพบ รอง ผบช.ก. เพื่อมอบหลักฐานเส้นเงินวัดนาป่าพงให้ตรวจ สอบ หลังพบโอนเงินของวัดให้สีกาเยอรมัน


วันนี้ (19 ก.ย.)ที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.)เมื่อเวลา 10.00 น. นายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมคณะ นำหลักฐานเส้นทางการเงินเพื่อเอาผิดพระวัดนาป่าพงจ.ปทุมธานี มามอบให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.

นายอนันต์ชัย กล่าวว่า วันนี้มายื่นหนังสือร้องเรียนกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กรณีสีกาผู้เสียหายจากเยอรมนี ร้องเรียนพระวัดดังย่านปทุมธานีว่ายักยอกเงิน 12.2 ล้านบาท โดยโอนจากบัญชีวัดดังเข้าบัญชีของสีกา 4 ครั้ง จำนวน 6 ล้านบาท,2.7 ล้านบาท,2 ล้านบาท และ 1.5 ล้านบาท โดยมีหลักฐานเป็นเช็ค 4 ฉบับ และหลักฐานการโอนเงิน ซึ่งเอกสารการโอนดังกล่าวระบุว่า เป็นเงินจากวัดดังย่านปทุมธานีให้สีกา ซึ่งเท่ากับว่าเป็นเงินบริจาค ตนไม่ทราบว่าเงินจำนวนดังกล่าว นำเข้าบัญชีวัดหรือไม่ แต่จากหลักฐานที่ตนได้รับมาเป็นสรุปบัญชีรายรับรายจ่ายตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.60-30 มิ.ย. 61 ซึ่งไม่มียอด 12.2 ล้านบาท

นายอนันต์ชัย กล่าวต่อว่าสำหรับจำนวนเงิน 12.2 ล้านบาท หลังโอนจากบัญชีวัดมายังบัญชีของสีกาแล้วก็โอนต่อไปยังสมาคมที่จัดตั้งที่เยอรมัน 27 ครั้ง ครั้งละ 10,000 ยูโร ทำให้ถูกอายัดบัญชี เพราะเป็นการโอนที่ผิดปกติ จนทำให้สีกาและพระชื่อดังถูกอัยการเยอรมันสั่งฟ้องในข้อหาฟอกเงินแต่ภายหลัง สีกาสามารถชี้แจงได้ว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นไปเพื่อการกุศลของมูลนิธิทำให้ศาลมีคำสั่งยกฟ้อง จากนั้นพระวัดดังก็ได้แจ้งข้อหาฉ้อโกงกับสีกาโดยอ้างว่าโอนเงินให้ไม่ครบตามจำนวน 12.2 ล้านบาท ซึ่งทางสีกาก็สามารถชี้แจงได้ว่ามีการโอนเงินครั้งที่ 28 และ 29 คืนไปยังบัญชีส่วนตัวของพระแล้ว เนื่องจากถูกอายัดบัญชีเมื่อครั้งถูกกล่าวหาว่าฟอกเงิน จึงทำให้ไม่สามารถโอนเงินเข้ามูลนิธิได้ ส่วนกรณีเงิน จำนวน 1.7 แสนบาท ที่ทางพระวัดดังโอนให้นั้นเป็นค่าที่ปรึกษามูลนิธินั้นสีกาเข้าใจว่าเป็นเงินเดือนที่เป็นเงินส่วนตัวของพระ แต่มาทราบภายหลังว่าพระวัดดังใช้เงินจากบัญชีวัดโอนให้ซึ่งสีกาก็สามารถชี้แจงกับอัยการที่เยอรมันนีได้ทำให้มีคำสั่งยกฟ้องทั้งหมดอีกครั้ง

นายอนันต์ชัย กล่าวอีกว่าจากนั้นสีกาในนามประธานมูลนิธิ จึงฟ้องยักยอกทรัพย์กับพระวัดดัง เนื่องจากมีการนิมนต์พระไปแสดงธรรมเทศนาตามประเทศต่าง ๆ เพื่อรับบริจาคเงินด้วย แต่เนื่องด้วยเหตุการณ์การรับบริจาคเกิดขึ้นที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ทำให้ศาลเยอรมันสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากไม่ได้อยู่ในขอบเขตอำนาจศาลเยอรมันนี วันนี้ตนจึงเดินทางมาเพื่อมอบหลักฐานส่วนดังกล่าวให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เพื่อให้ตรวจสอบการใช้เงินวัดว่ามีความผิดหรือไม่ มีการนำเงินเข้าบัญชีวัดและใช้ตรงตามวัตถุประสงค์หรือ พร้อมทั้งจะเข้ามาช่วยเหลือในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อกฎหมายคณะสงฆ์ด้วย ส่วนทางด้านของสีกาคู่กรณี ถ้าหากจะต้องดำเนินคดีสีกาก็แจ้งกับตนว่ายินดีและพร้อมจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนว่าจะกันสีกาไว้เป็นพยานหรือไม่

ด้าน ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา รองประธานมูลนิธกองทัพธรรม ได้ให้ข้อมูลว่าโดยปกติแล้วการใช้จ่ายเงินวัดจะต้องแบ่งเป็น 2 ส่วนคือบัญชีส่วนตัวและบัญชีที่ได้มาจากเงินบริจาค ซึ่งบัญชีที่ได้มาจากงานบริจาคนั้นจำเป็นต้องใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ที่มีการประกาศไว้โดยอ้างอิงตามกฎ ของ พ.ร.บ.สงฆ์


ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า หลังจากสีกาจากประเทศเยอรมนีส่งทีมทนายความเข้ามาร้องเรียนกับทาง บก.ปปป. ให้ตรวจสอบพระวัดย่านปทุมธานีในฐานความผิดเกี่ยวกับ เป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ตามมาตรา 157 และ147 เรื่องนี้พนักงานสอบสวนได้มีการส่งสำนวนคดีไปที่ทาง ป.ป.ช. แต่ตำรวจก็ยังมีอำนาจในการสืบสวนอยู่ ในส่วนกรณีของกองปราบปรามที่ได้รับข้อร้องเรียนให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดดังตั้งแต่ปี 2556-2559 มีการตรวจสอบในหลายประเด็น แต่ขอสงวนไว้ก่อนไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผู้หญิง และเงิน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีเงินหมุนเวียนประมาณ 500 ล้านบาท

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่าในส่วนข้อมูลหรือหลักฐานของทนายอนันต์ชัย ที่นำมามอบให้นั้น ยังมีบางส่วนที่โต้แย้งกันไปมา แต่มีข้อมูลเพิ่มเติมจากที่ทนายของสีกาเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ เป็นเรื่องบัญชีรายรับรายจ่ายของวัด และหลักฐานการคืนเงินของผู้เสียหายและในเบื้องต้นทางวัดยังไม่มีการประสานเข้ามาให้ข้อมูล ส่วนข้อมูลที่ทางทีมทนายความของวัดออกมาชี้แจงก่อนหน้านี้ เป็นการชี้แจงเกี่ยวกับรายละเอียดเรื่องเงินตั้งมูลนิธิในประเทศเยอรมนีซึ่งเป็นคนละส่วนของการตรวจสอบ






กำลังโหลดความคิดเห็น