xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มเหยื่อร้องถูกตุ๋นเทรดหุ้นเสียหายกว่า 200 ล้าน ตร.อายัดบัญชีม้าล่าช้า หวั่นไม่ได้เงินคืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ทีมงานเพจสายไหมต้องรอดพากลุ่มตัวแทนผู้เสียหายร้อง สคบ.-สอท. ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้นเสียหายกว่า 200 ล้านบาท ตำรวจอายัดบัญชีม้าล่าช้า กลัวว่าจะได้ไม่รับเงินส่วนนั้นคืน

วันนี้ (16 ก.ย.) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาตัวแทนผู้เสียหายเข้าพบ รองเลขาธิการ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. เพื่อร้องขอความช่วยเหลือ หลังถูกหลอกเทรดหุ้น ความเสียหายรวมกันไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท และผู้เสียหายได้รับผลกระทบเนื่องจาก เกิดการอายัดบัญชีนิติบุคคลม้าล่าช้า และกลัวว่าจะได้ไม่รับเงินส่วนนั้นคืน

โดยผู้เสียหายเปิดเผยว่า ได้โอนเงิน ทั้งหมด 26 ล้านบาท ไปเทรดหุ้น พอรู้ตัวว่าโดนหลอก ได้ไปแจ้งความแต่คดียังไม่ทราบความคืบหน้า โดยตำรวจแทบ จะไม่อยากคุยด้วย บอกแค่ว่าต้องค่อยๆ ไปทีละขั้นตอนพอถามว่านานแค่ไหน ก็ได้คำตอบกลับมาว่า อาจจะครึ่งปี ถึง 1 ปี ทำให้ร้อนใจ เพราะว่าไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน

ส่วนผู้เสียหายอีกคน ให้ข้อมูลว่า โดนหลอกลงทุนเทรดหุ้นไป 165 ล้านบาท โดยลงทุนเทรดหุ้น โอนเงินไป 30 บัญชีที่เป็นนิติบุคคล มีการติดต่อไปยังศูนย์ AOC 1441 ใช้เวลา 1 วัน ในการแจ้งอายัดทั้งหมด 30 บัญชี ตั้งแต่ ก.ค. ที่ผ่านมา จนผ่านมาถึงตอนนี้ ตำรวจเพิ่งอายัดไปแค่ 8 บัญชี รู้สึกว่าพอเป็นบัญชีของนิติบุคคลทำไมถึงอายัดช้า แต่ถ้าเป็นบัญชีส่วนตัว อายัดเร็ว และรู้สึกทุกข์ใจมา อยากให้ สคบ. เร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และช่วยดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพราะตั้งแต่แจ้งความจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครส่งรายละเอียดการแจ้งความมาให้เลย

ด้านนายฐิตินันท์ สิงหา รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า หลังจากรับเรื่องมาแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน คอยรวบรวมพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงต่างๆ จากนี้คงต้องมีเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาให้ถ้อยคำต่อไป สุดท้ายจะเป็นการฟ้องคดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงทั้งหมดที่ได้จากการสืบสวนสอบสวน และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด

จากนั้น นายเอกภพ ได้พาผู้เสียหาย เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด รอง ผบก.สอท.1 โดยหลังจากรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว พ.ต.อ.ปรีดา กล่าวว่า ก็จะติดตามเร่งรัดการดำเนินคดีให้กับสถานีตำรวจท้องที่ นอกจากนี้ ในเรื่องการอายัดบัญชีที่ผ่านมา มีการทำข้อตกลงร่วมกันหลายฝ่าย กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งธนาคาร กระทรวงดีอี และตำรวจ ซึ่งได้กำหนดรูปแบบและมาตรการการอายัดบัญชีไว้โดยที่ผ่านมากลุ่มมิจฉาชีพมีการเปลี่ยนรูปแบบหลอกโอนเงินเช่นกัน โดยหลอกให้เหยื่อโอนผ่านบัญชีบุคคลอื่นๆ ก่อน จากที่เคยโอนเข้าบัญชีม้าโดยตรง จึงทำให้มีประชาชนบางส่วนที่ถูกอายัดบัญชีจากทางธนาคาร ประกอบกับมาตรการของทางธนาคารในปัจจุบัน มีการตั้งระบบอายัดบัญชีอัตโนมัติในกรณีที่พบการโอนเงินผิดปกติ จึงอาจทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยขณะนี้ได้มีการหารือกับหน่วยงานหลายฝ่ายเพื่อการลดขั้นตอนและกระบวนการดำเนินดำเนินการปลดล็อคบัญชีให้รวดเร็วขึ้น

ทั้งนี้กรณีเกิดข้อสงสัยว่า บัญชีนิติบุคคลที่เป็นกลุ่มบริษัทห้างร้านสถานประกอบการขนาดใหญ่และเป็นที่รู้จักทำไมถึงไม่ถูกอายัดหรือเมื่อถูกอายัดแล้วมีการปลดล็อครวดเร็วนั้น พ.ต.อ.ปรีดา อธิบายเพิ่มเติมว่า ในขั้นตอนการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งเมื่อเงินต้องสงสัยที่ถูกโอนผ่านไปจนถึงบัญชีปลายทาง โดยปกติแล้วทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการอายัดเงินจำนวนนี้ไว้ก่อนเพื่อการตรวจสอบซึ่งในกรณีเป็นบัญชีนิติบุคคลหรือบริษัทขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง มักจะเข้าข่ายสันนิษฐานได้ว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มมิจฉาชีพหรือไม่ใช่บัญชีม้าแน่นอน จึงมีกระบวนการปลดล็อคได้รวดเร็ว แต่ในกรณีบุคคลธรรมดาอาจต้องใช้ระยะเวลาการตรวจสอบนานกว่า เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้าจริงๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น