“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 31 กรกฎาคม 2567 ตอน ศึกหนัก ‘ชัชชาติ’ รุกเร้าความสุจริต ได้ไปต่อหรือควรพอแค่นี้
หากเวลานี้บอกว่า 'เศรษฐา ทวีสิน' นายกรัฐมนตรี กำลังเผชิญศึกรอบด้านหนักหนาสาหัสแล้ว อีกด้านหนึ่ง 'ชัชชาติ สิทธิพันธุ์' ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็รับมรสุมหนักหน่วงไม่แพ้กัน เพราะจับตรงจุดไหนในการบริหารกรุงเทพมหานคร ปรากฎว่าพบปัญหาไปเสียทั้งหมด เหมือนเป็นการท้าทายความเป็นผู้ว่าฯกทม.ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี
เวลานี้ 'ชัชชาติ' เจอกับงานยากพร้อมกันถึง 3 งาน ประกอบด้วย 1.ความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายสำหรับศูนย์กีฬาและศูนย์นันทนาการของกรุงเทพมหานคร จำนวน 7 โครงการ โดยผลการสอบสวนระบุว่ามีการจัดซื้อในราคาสูงเกินจริง และมีข้อกำหนดบางอย่างที่อาจเกินความจำเป็นไป มีผู้เกี่ยวข้อง 25 ราย ซึ่งได้มีการย้ายออกไปแล้ว 3 ราย ขั้นตอนต่อไปจะส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติพิจารณา
2.ความไม่ลงรอยกันภายในสภากรุงเทพมหานคร ภายหลังสมาชิกสภาฯของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย เกิดความขัดแย้งในเรื่องการให้คนนอกมาทำหน้ากรรมาธิการพิจารณางบประมาณกทม. ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกลเสนอขึ้นมา เพราะต้องการให้เกิดความโปร่งใส โดยผู้ว่าฯชัชชาติเองก็เห็นด้วย แต่พรรคเพื่อไทยมองต่างมุมออกไป เพราะเห็นว่าอาจเป็นช่องทางให้คนนอกมาแสวงหาประโยชน์ที่มิชอบ
ในเรื่องนี้แม้จะไม่ได้เกี่ยวกับกับชัชชาติโดยตรง แต่ก็เป็นเรื่องที่ทำให้ลำบากใจพอสมควร เนื่องจากผู้ว่าฯชัชชาติเองไม่ได้มีสมาชิกสภาฯในมือ เรียกได้ว่าเวลาฝ่ายบริหารกรุงเทพมหานครต้องการขอเสียงสนับสนุนจากสภาฯ จะต้องออกแรงประสานงานพอสมควร โดยเฉพาะไม่อยากทำให้สมาชิกสภาฯในซีกพรรคเพื่อไทยขุ่นเคืองใจมากเท่าใดนัก เพราะพรรคเพื่อไทยเองก็เป็นบ้านเก่าของชัชชาติมาก่อน
3.การชำระหนี้ให้กับบีทีเอส โดยล่าสุดศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) ร่วมกันชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถ และซ่อมบำรุง (O&M) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว วงเงินรวมกว่า 11,755 ล้านบาท ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่เล่นเอาชัชชาติเป๋พอสมควร
โดยก่อนหน้านี้กรุงเทพมหานครเพิ่งทยอยชำระหนี้ในงานระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล หรือ E&M) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 ให้กับบีทีเอสประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท จึงเป็นทางสองแพร่งว่าชัชชาติจะตัดสินใจอย่างไร ถ้าเลือกชำระหนี้เพิ่มเติมเข้าไปอีก อาจกระทบต่องบประมาณลงทุนเพื่อการพัฒนากรุงเทพมหานครระยะยาว
แต่ถ้าจะยืดการชำระหนี้ต่อไป หมายความว่าต้องเจอกับภาระดอกเบี้ยไล่ตามหลังอีก หรืออีกทางถ้าจะเลือกขยายสัมปทานออกไปเพื่อแลกกับหนี้ ย่อมจะนำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนอีก
ขณะเดียวกัน การบริหารงานภายในกรุงเทพมหานครก็ยังมีปัญหายิบย่อยที่รอให้แก้ไขอีกมาก โดยเฉพาะการรับมือกับปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากใจกลางเมืองในฤดูฝน ข้อวิจารณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ว่าฯชัชชาติในเวลานี้ส่วนหนึ่งมาจากการถูกตั้งความหวังไว้สูง ดังนั้น เมื่อเวลาเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา จึงนำมาซึ่งเสียงวิจารณ์ที่รุนแรงเมื่อเทียบกับอดีตผู้ว่าฯกทม.คนอื่นๆก่อนหน้านี้
การทำงานในฐานะพ่อเมืองกทม.ของ ‘ชัชชาติ’ เดินทางมาเกินครึ่งทางแล้ว ครึ่งทางที่ผ่านมาอาจบอกว่าทำได้แค่เสมอตัว เนื่องจากต้องเข้ามาสะสางงานค้างเก่าจำนวนมาก แต่อีกครึ่งทางต่อจากนี้ไปประมาณ 2 ปี ถือเป็นบทพิสูจน์ว่าผู้ว่าฯกทม.ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีจะสามารถทำงานเข้าตาหรือไม่ เพื่อปูทางสู่การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในสมัยที่สองต่อไป
แต่เบื้องต้นต้องบอกไว้เลยถ้าสภาพยังเป็นต่อไปแบบนี้ คะแนนมากกว่า 1 ล้านคะแนนที่ประชาชนเคยมอบให้ อาจระเหยหายไปอย่างแน่นอน
------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android