"เต้ มงคลกิตติ์" ร้อง ผบช.ก.ตรวจสอบภาพยนตร์ "อำนาจ ศรัทธา อนาคต" บิดเบือนประวัติศาสตร์ ให้ข้อมูลด้านเดียว ซ้ำยังยกหูชูหางให้ "ธนาธร" เปรียบดั่งเทวดา
วันนี้ ( 12 มิ.ย.) ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางยื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เพื่อให้ตรวจสอบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาพยนตร์เรื่อง อำนาจ ศรัทธา อนาคต หรือ Breaking The Cycle ว่าเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 116ยุยงปลุกปั่นหรือไม่ หลังพบว่าภาพยนต์ดังกล่าวมีเนื้อหาเอนเอียง บิดเบือนข้อเท็จจริง จนอาจทำให้สังคมเกิดความสับสน
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ก่อนหน้าได้มีโอกาสไปชมภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวพบว่าเนื้อหาเล่าถึงเหตุการณ์ยึดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้มีพูดถึงสาเหตุที่ต้องยึดอำนาจ ไม่มีพูดถึงเรื่องนิรโทษกรรมสุดซอย ไม่พูดถึงพรรคเพื่อไทยที่ในขณะนั้นผูกขาดอำนาจการเมือง จนทำให้ประชาชนเกิดความแตกแยกแบ่งเป็นสองฝ่ายออกมาสู้รบฆ่ากัน ที่เป็นเหตุผลนำมาสู่การยึดอำนาจ
นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า เนื้อหาส่วนใหญ่ของภาพยนตร์จะเป็นการนำเสนอด้านเดียว อาทิ การก่อกำเนิดของพรรคอนาคตใหม่ ความหวังของประเทศชาติ เป็นวีรบุรุษประชาธิปไตย แต่ไม่ได้มีการบอกรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุที่พรรคอนาคตใหม่ต้องถูกยุบ หรือ สาเหตุที่ตัวของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองว่ามาจากสาเหตุใด พูดแต่ว่าพรรคอนาคตใหม่คือความหวังของประเทศชาติ ซึ่งเนื้อหาที่นำเสนอล้วนเป็นไปในเชิงบวกต่อกลุ่มคนเหล่านี้ ไม่มีการพูดถึงข้อเท็จจริง อาจทำให้ประชาชน สังคมเกิดความสับสน จึงอยากให้ทางตำรวจสอบสวนกลางช่วยตรวจสอบ ว่าการกระทำเช่นนี้เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น หรือไม่
นายมงคลกิตติ์ กล่าวอีกว่า หนังประวัติศาสตร์เรื่องอื่น ๆ ที่เคยดูมา ส่วนใหญ่จะมีเนื้อหาข้อเท็จจริงครบทุกด้าน แตกต่างกับหนังเรื่องนี้ที่มีการนำเสนอข้อมูลเพียงด้านเดียว ยืนยันว่าการที่ต้องออกมาในวันนี้ไม่ได้เป็นกังวลเกี่ยวกับกระแสหนัง เพราะคนดูน้อยมาก กระแสจุดไม่ติด คนที่เคยจองไว้ทิ้งตั๋วเยอะมาก วันที่คนไปดูทั้งโรงมีคนดูเพียงแค่ 12 คน เท่านั้น ถ้ากระแสจุดติดจริงคนดูต้องเต็มโรงภาพยนต์ อีกทั้งยังมองว่า สู้หนังไทบ้าน ไม่ได้ด้วยซ้ำ หนังโฟร์คิงส์ ยังดีกว่า
“หากใครที่ดูแล้วไม่เข้าใจ อยากรู้สาเหตุว่าทำไม พรรคอนาคตใหม่ต้องถูกยุบ นายธนาธร ต้องถูกตัดสิทธิ์การเมือง ผมก็พร้อมจะไปสปอยให้ ว่า ถูกยุบเพราะเรื่องกู้เงิน ส่วนนายธนาธร ก็ถูกตัดสิทธิ์เพราะเรื่องหุ้นสื่อ อย่างที่บอกการทำหนังทำได้แต่ต้องทำตามข้อเท็จจริง ให้ข้อคิดแก่ประชาชน ไม่ใช่ให้ข้อมูลด้านเดียวจนทำให้สังคมสับสน ไม่ใช่สร้างให้นายธนาธรเป็นเทวดาคนเดียวแบบนี้” นายมงคลกิตติ์ กล่าว
นายมงคลกิตติ์ กล่าวถึงกรณี เข้ารับตำแหน่ง ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า หลังเข้ารับตำแหน่ง ตนได้มีโอกาสลงไปยังพื้นที่ภาคใต้ เพื่อเฝ้าดูสถานการณ์การเมืองต่างๆ แผนงานฟื้นฟูพรรค กู้ศรัทธาให้กลับมาเป็นที่พึ่งของประชาชนเหมือนเดิม รวมถึงหารือเกี่ยวกับแผนงานหาคนเหมาะสมมาลงสมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ปี 2569 ซึ่งในมุมมองตน ก็อยากให้ พรรคมีคนรุ่นใหม่เข้ามา คนเก่าก็อย่าไปยึดมั่นกับอดีตที่เคยยิ่งใหญ่ ส่วนในปี 2570 จะมีการเลือกตั้งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับนายทักษิณ ชินวัตร ถ้าขยับ หรือ ออกมาเคลื่อนไหวมากไป ก็อาจถูกฝ่ายความมั่นคงรัฐประหาร ยึดอำนาจกลับไป