MGR Online - เลขาฯ รมว.ยธ. รับเรื่อง ทนายสงกรานต์ ร้องทุกข์เบี้ยคนชรา ถูกฟ้องร้องคืนเงินผู้สูงอายุกว่า 15,000 ราย หวั่นถูกข่มขู่เพราะไม่รู้ข้อกฎหมาย ขอให้ตั้ง คกก. สอบเจ้าหน้าที่ชุดบกพร่อง
วันนี้ (3 ก.พ.) เวลา 13.00 น. อาคารกระทรวงยุติธรรมแห่งใหม่ ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับเรื่องจาก นายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม เพื่อขอให้กระทรวงยุติธรรมช่วยเหลือผู้สูงอายุและทายาทที่ถูกฟ้องร้องเรียกเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคืน
นายสงกาญ์ กล่าวว่า จากปรากฏเป็นข่าวกรณีหญิงสูงอายุ กว่า 15,000 ราย ถูกหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเรียกเงินเบี้ยยังชีพคนชราคืนย้อนหลังเป็นเวลา 10 ปีเศษ เนื่องจากรับเงินซ้ำซ้อนเป็นเงินช่วยเหลือสงเคราะห์ที่ภาครัฐให้กับทายาทผู้เสียชีวิตหรือทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ทางราชการเกือบ 1 แสนบาท จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ เมื่อปี 48 ตนเคยช่วยเหลือทายาทผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ประมาณ 90 ครัวเรือน ไปร้องเรียนรับเงินช่วยเหลือและเข้าบรรจุเข้ารับราชการ แต่ถูกฟ้องละเมิดเรียกรับเงินคืนไม่มีอายุความ กระทั่งสุดท้ายศาลยกฟ้อง
"ผมเห็นว่าเงินช่วยเหลือทายาทผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่และเงินเบี้ยเลี้ยงยังชีพผู้สูงอายุ เป็นคนละส่วนกัน จึงไม่เห็นด้วยที่จะเรียกคืน และทุกวันนี้มีผู้สูงอายุถูกหว่านล้อมและข่มขู่ หากไม่คืนเงินดังล่าวจะต้องติดคุก บางรายถูกหลอกให้เซ็นชื่อในหนังสือรับสภาพหนี้ที่กำหนดให้ชำระเงินคืนพร้อมอัตราดอกเบี้ย ทำให้ต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อมาจ่ายคืน จึงอยากให้กระทรวงยุติธรรมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและสอบวินัย เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ตั้งแต่ปี 58 เพราะมีความบกพร่องมากถึง 15,000 ราย" นายสงกาญ์ กล่าว
ด้าน ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต เปิดเผยว่า กระทรวงยุติธรรมยินดีให้ความช่วยเหลือผู้เสียหาย โดยขอให้นำเอกสารติดต่อมาที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัด ในพื้นที่ของผู้เสียหาย เพื่อรวบรวมและประมวลข้อเท็จจริงในแต่ละราย พิจารณาร่วมกับหนังสือสัญญาและระเบียบการยื่นขอเงินเบี้ยผู้สูงอายุ เนื่องจากแต่ละกรณีมีพฤติการณ์ไม่เหมือนกัน เช่น บางรายอาจไม่ต้องคืนเงิน หรือ คืนเท่าที่จำเป็น หรือ คืนเงินเท่าที่เหลืออยู่ หรือ บางรายอยู่ในชั้นไกล่เกลี่ยชำระหนี้ หรืออยู่ระหว่างพิจารณาของศาล และต้องพิจารณาด้วยว่าผู้เสียหายมีเจตนารับเงินทั้งที่รู้ว่าเป็นการรับซ้ำซ้อนหรือไม่ หรือเจ้าหน้าที่รัฐชี้แจงคุณสมบัติรายละเอียดของเงินที่ได้รับหรือไม่
ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต เผยอีกว่า ส่วนกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ข่มขู่ให้ชำระเงินคืนก็สามารถแจ้งข้อมูลมาที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดได้ กระทรวงจะให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพเข้าไปช่วยเหลือดูแลเรื่องคุ้มครองพยานและปรึกษาข้อกฎหมาย ทั้งนี้ คดีนี้เป็นคดีแพ่ง ไม่มีโทษจำคุก อย่างไรก็ตาม หากผู้สูงอายุท่านใดเดินทางมาสำนักงานยุติธรรมจังหวัดไม่สะดวกหรืออยู่ไกล สามารถสอบถามเบอร์โทร. 1111 ต่อ 77 โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ไปให้คำปรึกษา