“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันพุธที่ 25 พศจิกายน 2563 ตอน "ธนาธร" พันม็อบล้มเจ้า สะเทือนยึดนายก อบจ.
พูดถึงสถานการณ์การเมืองที่ร้อนระอุในขณะกับการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือนายกฯอบจ. และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ ส. อบจ. ในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคมนี้ นับถอยหลังจากวันนี้ เหลือเวลาอีกสามสัปดาห์ ไม่มากไม่น้อยยังมีเวลาที่จะห่ำหั่นช่วงชิงสู้ศึกกันได้อีกหลายยก
แม้จะมีเวลาอีกพอสมควร ก่อนถึงวันลงคะแนนเสียง แต่ก็เริ่มพบกลิ่นไอการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นทุกที เห็นได้จากการเปิดเผยของ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่เปิดเรื่อง ข้อร้องเรียนทุจริตเลือกตั้งอบจ.จนถึงขณะนี้ว่า มีทั้งหมด 21 เรื่องใน 11 จังหวัด โดยเป็นเรื่องการซื้อเสียง 4 เรื่อง แชร์ข้อมูลผิดกฎหมาย 1 เรื่อง
จึงคาดการณ์ได้ว่า 7 วันสุดท้าย ก่อนวันเลือกตั้ง ความเข้มข้นร้อนแรงคงทวีมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และการร้องเรียนการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งแต่ละจังหวัด คงหลั่งไหลไปที่สำนักงานกกต.กลางกันล้มหลาม
ขณะเดียวกัน ปรากฏการณ์หนึ่งที่หลายคนได้เห็นกันในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น ที่อยู่ในช่วงที่กระแสม็อบสามนิ้ว ยังคงดำเนินอยู่ และยังคงชูประเด็น การปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเข้มข้นร้อนแรง ท่ามกลาง กระแสต่อต้าน จากประชาชนจำนวนมากเช่นกัน
ประเด็นนี้ได้กลายเป็นแรงกระทบ ลามมาถึง การเลือกตั้งท้องถิ่นในเวลานี้ อย่างเห็นได้ชัด คือภาพเหตุการณ์ที่ แกนนำคณะก้าวหน้า หรือพรรคอนาคตใหม่เดิม อย่าง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ต้องเจอกับแรงต้านจากประชาชนในพื้นที่ระหว่างช่วงหาเสียงให้กับผู้สมัครนายกฯอบจ.และส.อบจ.ในนามคณะก้าวหน้า ที่เกิดขึ้นหลายจังหวัด
การเคลื่อนไหวที่เป็นแรงต้านปรากฎออกมา มีทั้งการถือป้ายข้อความต่อต้าน การร้องเพลงเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองเช่น หนักแผ่นดิน แต่ก็มีบางแห่ง เช่นที่ภาคใต้อย่างที่จ. นครศรีธรรมราช ที่มีคนในพื้นที่ใส่เสื้อเหลือง ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านธนาธรอย่างหนัก ลามมาถึง จ.พังงา และภูเก็ต
แรงต้านข้อหาหนักแผ่นดิน มีความเคลื่อนไหวออกมาทั้งเบาและหนัก ตามแต่ละพื้นที่ และคงมีให้เห็นอีกหลายแห่ง นับจากนี้
แรงต้านที่มีต่อธนาธร ในหลายจังหวัดที่เกิดขึ้นช่วงนี้ สิ่งที่เกิดขึ้น ขยับลุกลาม ก่อให้เกิดปัญหากระทบต่อการสู้ศึกเลือกตั้งท้องถิ่นของคณะก้าวหน้าอย่างปฏิเสธไม่ได้ ไม่เป็นผลดีต่อธนาธร -คณะก้าวหน้า และผู้สมัครเลือกตั้งในพื้นที่ของคณะก้าวหน้า
เพราะลำพังแค่การหาเสียงในพื้นที่ ก็พบว่า คนของคณะก้าวหน้า บางจังหวัด ก็ยังเป็นต่อคู่แข่งหลายขุม เพราะคะแนนนิยมหลักๆ ของ ธนาธรและแบรนด์คณะก้าวหน้าในเวลานี้ ส่วนใหญ่ยังอยู่ที่ อำเภอเมือง เป็นหลัก ส่วนการเจาะในระดับใหญ่ทั้งจังหวัด ผู้สมัครหลายคนยังเป็นรองกลุ่มการเมืองสายหลัก อยู่หลายช่วง
การเลือกตั้งนายกอบจ. กับสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ครั้งนี้ คณะก้าวหน้าตั้งเป้ายึดพื้นที่การเมืองในระดับจังหวัด ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เป็นไปตามแผนการ “ยึดหัวเมืองต่างจังหวัด ล้อมเมืองหลวง” ก้าวหน้าส่งผู้สมัครนายกอบจ. มากที่สุดถึง41 จังหวัด รองลงมาเป็นสายพรรคเพื่อไทย 25 จังหวัด
จังหวัดที่คณะก้าวหน้าส่งคนลงนายก อบจ. มีเช่น ภาคเหนือ ที่จ. พะเยา พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ และอุตรดิตถ์ -ภาคกลาง มีที่จ. นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี นครปฐม สมุทรปราการ - ภาคตะวันออก ที่จ. ชลบุรี เป็นจังหวัดที่ก้าวหน้าลุยหาเสียงติดพื้นที่ และระยอง
ส่วนภาคใต้ มีที่จ. นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พังงา ภูเก็ต และนราธิวาส และที่ภาคอีสาน ส่งที่จ. นครราชสีมา อุบลราชธานี สุรินทร์ บึงกาฬ ยโสธร พื้นที่จังหวัดทั่วประเทศที่ก้าวหน้าลงลุย มีหลายจังหวัดที่ประกาศกร้าว จะล้มบ้านใหญ่ เลยทีเดียว
เมื่อไปดูยุทธศาสตร์การหาเสียงเลือกตั้งระดับอบจ.ของธนาธรและคณะก้าวหน้า จะพยายามชูนโยบายหาเสียงระดับท้องถิ่น ภายใต้แคมเปญ
“ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ คืนงบ คืนอำนาจให้ท้องถิ่น”
พบว่าในหลายจังหวัดที่ ธนาธร ไปหาเสียง ก็จะตบท้าย โดยพยายามชูว่า ประชาชนต้องทำให้ผลการเลือกตั้งท้องถิ่น มีผลสะท้อนสะเทือน ไปถึงการเมืองระดับชาติให้ได้
โดยยังเน้นเรื่อง การให้ผลเลือกตั้งคือการปลดปล่อย การถูกกดขี่ พูดเรื่องการเอาคะแนนเสียงเลือกตั้งรอบนี้ไปสู้กับปืน ซึ่งก็ไม่รู้ว่า คนในต่างจังหวัด จะอินมากน้อยแค่ไหน กับมุขหาเสียงของธนาธร ที่เอาเรื่องท้องถิ่นไปโยงกับเรื่องเผด็จการ เรื่องการกดขี่ทางสังคม
หากตีความกันโดยไม่อ้อมค้อม มุขของธนาธร ก็คือ การจะสื่อสารว่า หากประชาชนแต่ละจังหวัดเอาด้วย เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของม็อบเวลานี้ ที่ไม่เอาพลเอกประยุทธ์ ไม่เอาโครงสร้างกติกาทางสังคมการเมือง รูปแบบเดิมๆ ในระดับชาติ ก็ให้เลือกผู้สมัครนายกฯอบจ. และส.อบจ.ของคณะก้าวหน้านั่นเอง
ส่วนมุขนี้และมุขหาเสียงใหม่ๆ ของธนาธรและคณะก้าวหน้า ที่คาดว่าจะออกมาในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ยิงออกมาคงจะเจอขบวนการต่อต้านกระแทกกลับอีกแน่
ล่าสุด ก็เจอระเบิดลูกใหญ่ถล่มเข้าใส่ธนาธร กับ ปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขานุการคณะก้าวหน้า จากแอ๊คชั่นของคนประชาธิปัตย์ นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงคมนาคม แกนนำกลุ่มกปปส. มือขวาสุเทพ เทือกสุบรรณ
ถาวร ออกมาฉะซึ่งหน้า เปิดข้อมูล ธราธร/ปิยะบุตร อยู่เบื้องหลังม็อบล้มเจ้า ซึ่งข้อกล่าวหานี้ย่อมมองได้ว่า เป็นการวางเป้าประสงค์ไว้ ด้านหนึ่ง ต้องการเปิดโปงหลังฉากขบวนการม็อบสามนิ้ว
และอีกด้านหนึ่ง หวังผลสกัดเส้นทางการเมืองของธนาธรและปิยะบุตร ในการยึดอำนาจการเมืองท้องถิ่นด้วย
การเคลื่อนไหวต่อต้านที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ บวกกับปฏิบัติการตีแสกหน้าจากนายถาวร ที่ชี้นิ้วว่า ธนาธร เป็นหัวโจกล้มเจ้า อยู่เบื้องหลังม็อบสามนิ้ว ย่อมกลายเป็นคลื่นที่ส่งผลสะเทือนแรงไปทั่วแผ่นดิน ทำให้การเดินแผนยึดเก้าอี้นายกอบจ. ของคณะก้าวหน้า ได้กลายเป็นเรื่องยากยิ่งกว่ายาก ไปแล้ว