เปิดเพลง “หนักแผ่นดิน” ทั่วไทย สู้อย่างสันติกับ “กลุ่มคนหนักแผ่นดิน!”
“ประชาธิปไตยเลือกตั้ง” ทำให้ “นักการเมืองทุกพรรค” ทุ่มการแข่งขันมุ่งเอาชนะกันทุกวิถีทาง ทั้งการหาเสียง-ซื้อเสียง-ซื้อตัวนักการเมือง รวมทั้งซื้อตัวผู้ให้คุณให้โทษการเลือกตั้ง โดย “นายทุนใหญ่ทุกพรรค” ต้องทุ่มเงินลงทุนมหาศาล ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง เพื่อจะเอาชนะพรรคคู่แข่งให้ได้
“รางวัล” ของการได้ “ส.ส.เกินครึ่งสภาฯ” และการใช้อำนาจในฐานะ “รัฐบาล” โดย “นักการเมือง-ข้าราชการ-นายทุนสามานย์” ที่เข้ามาแสวงหาและกอบโกยผลประโยชน์มหาศาล จากการโกงเงินงบประมาณชาติ และการลงทุนในโครงการต่างๆ ทั้งของภาครัฐและภาคเอกชน เข้ากระเป๋า “ตนเอง-พวกพ้อง-พรรคการเมือง” เพื่อสะสมเงินทุนไว้สำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่
ประชาธิปไตยเลือกตั้งที่เต็มไปด้วยการซื้อขายเสียง! การเมืองสกปรกที่มีผลประโยชน์มหาศาล! ทำให้ “นักการเมือง-ข้าราชการ-นายทุนสามานย์” ซึ่งเป็น “คนส่วนน้อยในชาติ” รู้แล้วว่า ถ้าพรรคการเมืองใดได้ “ส.ส.เกินครึ่งสภาฯ” และได้เป็น “รัฐบาล” ก็จะสร้างความร่ำรวยอย่างรวดเร็ว ให้กับ “นายกฯ-ครม.-ส.ส.-ข้าราชการ” และผู้ที่จะร่ำรวยมากที่สุดก็คือ “นายทุนพรรค” นั่นเอง
ชาติไทยหลังเหตุการณ์ 2475 ได้ทำให้การเมืองไทยเต็มไปด้วยเรื่องโกงชาติ ทั้ง “รัฐบาล” มาจากเลือกตั้งและรัฐประหาร สลับกันบริหารบ้านเมืองแบบ “สมบัติชาติผลัดกันโกง” ที่ก่อเกิดเป็น “วงจรอุบาทว์ทางการเมือง” ยืดยาวต่อเนื่องมานานกว่า 88 ปี!
ดังเหตุรัฐบาลเครือข่าย “นายกฯ เหลี่ยม” ที่ถูกขนานนามเป็น “รัฐบาลรวยแล้วยังโคตรโกง” อีกทั้งยังมีพฤติกรรมหนุน “ขบวนการล้มเจ้า” ด้วย เมื่อถูกเปิดโปงความชั่วร้ายอย่างกว้างขวาง จนประชาชนผู้รักชาติชุมนุมขับไล่ ลงท้ายถูก “คณะนายทหาร” ทำรัฐประหารถึง 2 ครั้ง
ทว่า...รัฐประหารครั้งแรกของ “บิ๊กบัง” ต้อง “เสียของ” เพราะ “เยี่ยวไม่สุด! ส่วนรัฐประหารครั้งที่สองของ “ผู้นำ รปห.บิ๊กตู่” ที่ควบตำแหน่ง “นายกฯ รปห.” ก็ “เสียของ” อีก เพราะยังคง “เยี่ยวไม่สุด” เช่นเดียวกัน
“บิ๊กตู่” ที่อยู่ในอำนาจมาอย่างยาวนานเกือบ 7 ปี ก็ “ทำผิดคำพูด” เพราะไม่ได้ปราบคนโกงชาติจริงจัง! ไม่ได้ลดความเหลื่อมล้ำให้กับสังคม! ไม่ได้ปฏิรูปชาติทุกภาคส่วนก่อนเลือกตั้ง ฯลฯ ทำให้ประชาชนทั้งชาติผิดหวังอย่างรุนแรงกับ “นายกฯ บิ๊กตู่”
เพราะ “บิ๊กตู่” ไม่แก้ต้นเหตุปัญหาให้ชาติ จึงทำให้พลพรรคเครือข่าย “บิ๊กเหลี่ยม” ยังมีเงินทองกับผลประโยชน์มหาศาลเช่นเดิม รวมทั้งยังคงมีอิทธิพลทั้งลับและแจ้ง ต่อประชาชนชาวไทยอย่างกว้างขวาง ถึงขนาดการเลือกตั้งครั้งล่าสุด ผู้สมัครพรรค “บิ๊กเหลี่ยม” ได้ “ส.ส.เขต” ชนะพรรคหนุน “บิ๊กตู่” ให้สืบทอดอำนาจ แถมพรรคใหม่ป้ายแดงของ “บิ๊กทอน” ก็ยังได้ “ส.ส.” ถึงกว่า 80 เสียงด้วย!
โชคดี! ท่ามกลางสถานการณ์อันเลวร้ายในปัจจุบัน “บิ๊กตู่” มีเสียง “ส.ว. 250 คน” อยู่ในกำมือ จึงทำให้พรรคการเมืองอื่นๆ จำใจต้องเลือก “บิ๊กตู่” เป็น “นายกฯ เลือกตั้ง”
ด้วย “สองมหาเศรษฐีมหาภัย” นาม “เหลี่ยม-แอนด์-ทอน” ได้แอบสมคบกันอย่างลับๆ ล่อๆ มาตลอด แถมทั้งคู่ยังใช้ยุทธวิธี “ชักน้ำเข้าลึก-ชักศึกเข้าบ้าน” ด้วยการเป็น “ไส้ศึก” ให้กับ “กลุ่มชาติตะวันตก” ที่ต้องการจะครอบงำบงการชาติไทย
โดย “เหลี่ยม-ทอน” ได้ใช้ “แกนนำ” หลายคน รวมทั้ง “แกนนำเยาวชน” ในเครือข่าย ให้ชักนำ “เยาวชน” ที่ไม่รู้เท่าทัน ถึงเบื้องหลังเล่ห์ร้ายของการแย่งชิงอำนาจรัฐ ให้ออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวยื่นข้อเรียกร้อง หนึ่ง-“นายกฯ บิ๊กตู่” ต้องออกไป! สอง-ต้องแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ! สาม-ต้อง “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์!”
แต่จุดหมายที่แท้จริงได้ถูกแกนนำ “อานนท์ นำภา” เปิดเผยสู่สาธารณชนแล้วว่า เป้าหมายมุ่งจะเปลี่ยน “ราชอาณาจักรไทย” เป็น “สาธารณรัฐไทย” ซึ่งหมายถึงเปลี่ยน “พระมหากษัตริย์” เป็นประมุข ให้ “ประธานาธิบดี” เป็นประมุขนั่นเอง
“อานนท์ นำภา” ยังประกาศโต้งๆ ว่า ข้อเรียกร้อง “หนึ่ง” กับ “สอง” นั้น จะข้ามไปก็ได้ แต่ข้อ “สาม” เป็นหลักสำคัญที่สุด ถ้าไม่ยอม “ปฏิรูป” ก็ต้องถูก “ราษฎรปฏิวัติ” โค่นล้มลงทั้งสถาบันเลยนะเว้ยเฮ้ย...!!!
ม็อบที่ต้องการจะ “ปฏิวัติล้มเจ้า” แต่กลับอ้าง “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” บังหน้า โดยมี “อีแอบขาโจ๋” ทั้งไทยและต่างชาติ ซึ่งหลอกใช้ “เยาวชน” ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ให้ต้องทำผิด “เสี่ยงคุก-เสี่ยงเจ็บ-เสี่ยงตาย” ...อ้อ! ต้อง “เสี่ยงหลบหนีลี้ภัย” ไปอยู่ต่างแดนอีกด้วย
เฉกเช่น “นักเคลื่อนไหว” หลายคนในยุค “บิ๊กเหลี่ยม” ที่ต้องบาดเจ็บล้มตายไปมากมาย หลายคนต้องลี้ภัยไปลำบากในต่างแดน ขณะที่ “บิ๊กเหลี่ยม-บิ๊กปู” ยังมีเงินทองมหาศาล ใช้ชีวิตสุดหรูสุขสบายอยู่ทุกวันนี้(ว่ะ)!
“ฮ่องกงโมเดล” ทำให้บ้านเมืองฮ่องกงวินาศสันตะโร แกนนำหลายคนได้ลี้ภัยไปแล้ว แต่ “โจชัว หว่อง” กับพวกต้องเดินคอตกเข้าคุก
ม็อบไทยได้ยื่นข้อเรียกร้องที่ “เพ้อฝัน” เพราะ “อีแอบขาโจ๋” ต้องการให้เกิดความรุนแรง เพื่อให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงชาติไทย ทำให้แกนนำไม่ฟังใครติเตือน แถมเหิมเกริมและใช้คำหยาบช้าสามานย์ หยามหมิ่นเกียรติของ “สถาบันพระมหากษัตริย์” อันเป็นการย่ำเหยียบหัวใจคนไทยส่วนใหญ่ ที่เคารพ เทิดทูน “สถาบันพระมหากษัตริย์” มาตลอด จึงต้องจำทนต่อพฤติกรรมชั่วช้าของม็อบ “อนาธิปไตย” เอาแต่ใจตัว ฯลฯ
เฮ้อ... “คนรักสถาบันพระมหากษัตริย์” ที่รักสันติ จึงเปิดเพลง “หนักแผ่นดิน” กระหึ่มไปทั่วไทย เพื่อไล่ “ทอน” กับ “ใครหลายคน” ที่เหิมเกริม บังอาจจาบจ้วง “สถาบันพระมหากษัตริย์” อันเป็นการต่อสู้เยี่ยง “ปัญญาชน!!!”