ข่าวลึกปมลับ : “อนาคตใหม่”รูดลงเร็ว ส.ส.โดดหนียุบพรรค

รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2562 ตอน “อนาคตใหม่”รูดลงเร็ว ส.ส.โดดหนียุบพรรค



สถานการณ์พรรคอนาคตใหม่รูดลงอย่างเดียว ไม่มีข่าวดี แถมมีแต่ข่าวร้ายๆ ตั้งแต่ก่อนจะรู้ผลการเลือกตั้งซ่อม เขต 5 จ.นครปฐม เสียอีกโดยเฉพาะกรณี “งูเห่าสีส้ม” ที่โหวตสวนมติพรรค

ขณะที่ยังเคลียร์ปัญหาไม่จบ ต้องมารับข่าวร้าย หลังตกเป็นฝ่ายปราชัยในสนามเลือกตั้งซ่อมเขต 5 นครปฐม ให้แก่บ้านใหญ่สะสมทรัพย์ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ จากพรรคชาติไทยพัฒนา แพ้ไปเฉียดหมื่นคะแนน

ยิ่งใกล้วันพิพากษาชีวิตทางการเมืองของ “เสี่ยเอก “ธราธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคสีส้ม ฟังแล้วมีแต่ข่าวร้าย

จากกรณี “เสี่ยเอก” ธนาธร ถือครองหุ้นสื่อ บริษัท วีลัค มีเดีย จำกัด กับกรณีปล่อยกู้ให้พรรคจำนวน 191 ล้านบาท มีการประเมิน ว่าโอกาสรอดยาก พรรคอนาคตใหม่เสี่ยงถูกยุบสูงมาก

รออยู่ว่า จะช้าหรือจะเร็วเท่านั้น ลุ้นแรกคือ 20 พฤศจิกายนนี้ ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยในคดีถือครองหุ้นสื่อ ธนาธรจะตายเดี่ยว หรือพาหมู่คณะไปกันหมด

แต่หากโดนเดี่ยว ก็ไม่ใช่ว่าจะสบายใจได้ เพราะกรณีเงินกู้พรรค มันจะแจ้งในแง่ของกฎหมายว่าทำไม่ได้ ฝ่ายหนึ่งมองอย่างนี้ ดังนั้น รอดดาบแรกมาได้ แต่ดาบนี้รอดยาก

และหากเป็นเช่นนั้น ไม่ใช่แค่กรรมการบริหารพรรคจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่ ส.ส.บัญชีรายชื่ออีกร่วม 50 ชีวิต ที่ได้เข้าสภาผู้แทนราษฎร เพราะคะแนนป๊อปปูล่าจะหายวับในพริบตาเช่นกัน

บรรดา ส.ส.เขตต้องหาสังกัดใหม่ แน่นอนว่า โอกาสจะย้ายขั้วไปอยู่กับฝ่ายรัฐบาลมีสูง เพราะแรงเสียดทานจะไม่มากเท่ากับออกกลางคันระหว่างพรรคยังอยู่ เนื่องจาก มีข้ออ้างมากมายให้แก้ตัว

ซึ่งคะแนนที่หายไปของพรรคอนาคตใหม่จะถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นำไปคำนวณใหม่ ซึ่งยกเว้นพรรคเพื่อไทยที่เต็มโควต้า พรรคอื่นจะได้ ส.ส.เพิ่มลดหลั่นกันไปตามจำนวน ส.ส.พึงมี หากเป็นไปตามสูตรนี้ ฝ่ายรัฐบาลจะได้เปรียบพรรคฝ่ายค้าน

สถานการณ์ขณะนี้บอกได้ว่า ลมพัดใบไม้ไหว ส.ส.หลายคนในพรรคอนาคตใหม่ เริ่มดูลู่ทางกันไว้หมดแล้ว สายที่ยังจงรักภักดีกับพรรค จะออกไปตั้งพรรคใหม่ สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค

เหตุที่เขื่อได้ว่า ส.ส.แบบแบ่งเขต จะไหลเข้าฝั่งรัฐบาลค่อนข้างเยอะ เนื่องจากมีลิ่มความขัดแย้งฝังอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยเฉพาะความขัดแย้งกับผู้บริหารพรรค ที่มอง ส.ส.แบบแบ่งเขต เป็นพลเมืองชั้นสองของพรรค ที่อาศัยกระแสธนาธรเข้ามาสภา

ขณะเดียวกัน ช่วงที่ผ่านมา พรรคก็ไม่เคยให้ความช่วยเหลือและสนับสนุน ส.ส.ในพื้นที่เท่าที่ควร มัวแต่สนองตัณหาตนเองกับเกมการเมือง เน้นรื้อโครงสร้างใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และกฎหมายสำคัญๆ ที่ตัวเองต้องการเปลี่ยนแปลง

ส.ส.แบบแบ่งเขตหลายคนต้องการต่อยอดไปสู่การเลือกตั้งครั้งหน้า ต้องการปัจจัยมาทำพื้นที่ แต่เมื่อพรรคไม่ให้การสนับสนุน ก็เป็นช่องให้ต้องหันไปพึ่งใบบุญฝ่ายรัฐบาล จนถูกตราหน้าว่าเป็น “งูเห่าสีส้ม”

ความปั่นป่วนแตกร้าวในพรรคสีส้ม เนื่องจากส. ส. เขตตลาดล่างในพรรคไม่ได้รับความใส่ใจใยดี แต่โอบอุ้มแต่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ คือ กรณีของ ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ ที่แอบเข้าไปขอความช่วยเหลือจาก “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข อย่างล่าสุดคือ ของบประมาณให้โรงพยาบาลในเขตตัวเอง

หรือกรณีของ กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี พรรคอนาคตใหม่ ที่โหวตเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ซึ่งความขัดแย้งส่วนหนึ่งมาจากเรื่องตัวผู้สมัครนายก อบจ.ชลบุรี กับอีกปัจจัยคือ ไม่มีงบลงไปช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ เพราะเป็นฝ่ายค้าน และผู้บริหารพรรคไม่เคยเข้าไปใส่งบให้

อีกกลุ่มหนึ่งคือ ส.ส.แบบแบ่งเขต ที่ฟลุ๊คเข้าสภาผู้แทนราษฎรมาได้เพราะกระแสพรรค ซึ่งครั้งหน้าน่าจะไม่มีโอกาสได้เข้ามาเป็นผู้แทนแล้ว พวกนี้ย่อมต้องหาทางรอด และมีการเคลื่อนไหวแล้วคือ ย้ายไปอยู่ขั้วรัฐบาล

เลยพูดได้ว่า ต่อให้อนาคตใหม่ไม่ถูกยุบพรรค เรื่องความเป็นเอกภาพในพรรคอนาคตใหม่ก็น่าจะเป็นปัญหา บรรดา ส.ส.ที่ถูกมองว่า เป็นชนชั้นสอง เริ่มไม่เกรงกลัวแกนนำพรรค เพราะคิดแล้วว่า ถึงอย่างไรพรรคก็ทำอะไรไม่ได้

ตอนนี้การขับออกพรรคเป็นสิ่งที่ ส.ส.ส่วนหนึ่งต้องการให้เกิด เป็นสุดยอดปรารถนา เพราะเป็นการย้ายขั้วได้อย่างชอบธรรม ด้วยที่สถานะความเป็น ส.ส.ยังคงอยู่ ต่างจากการลาออกเองที่จะทำให้พ้นสมาชิกภาพ

การไล่ตะเพิดส. ส. เท่ากับเป็นการเพิ่มแต้มให้กับฝ่ายรัฐบาล แต่การปล่อยให้อยู่ในพรรคต่อไปก็คอนโทรลไม่ได้แล้ว มันจึงอยู่ในสภาวะจำยอม กลืนไม่เข้าคายไม่ออก นับว่าพรรคสีส้มเข้าสู่ช่วงนับเวลาถอยหลัง เพราะปัญหานอกในรุมเร้า ยากจะคลี่คลายได้