xs
xsm
sm
md
lg

“ภิญโญ”เตือนอดีตผู้สมัคร อนค.หยุดคิดเล็กคิดน้อย ยันไม่มีการแบ่งชนชั้นในพรรค

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายภิญโญ ขันติยู สมาชิกพรรค และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ สกลนครเขต 1 โพสต์เฟซบุ๊ก “pinyo khandiyoo “ระบุว่า จากการที่มี อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ จะมีการลาออกในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ 50 คน ผมขอแสดงความคิดเห็นดังนี้ ประเด็นที่เพื่อนพ้องน้องพี่ หยิบยกมาเป็นเหตุผลในการยื่นใบลาออกคือ

1.พรรคไม่ได้จัดสรรตำแหน่ง ผู้ช่วย ส.ส. ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ ตามที่พรรคเคยสัญญาไว้

2.พรรคไม่เห็นหัวผู้แพ้ มีคำเหยียดหยาม มองผู้แพ้เป็นแค่ขยะ

3.ย่ำยีไม่รับฟังคนในพรรค แบ่งคนในพรรคออกเป็นชนชั้น

4.ความไม่พอใจในการคัดสรร ทีมลง นายก อบจ.

ผมขอชี้แจงสิ่งนี้กับสังคม จะปล่อยผ่านไปไม่ได้ จะทำให้สังคมเข้าใจผิดไปใหญ่ ในฐานะเป็นผมเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส. การที่เราก้าวเดินเข้ามาในพรรคตั้งแต่วันแรกทุกคนมีความต้องการเห็นบ้านเมืองของเราเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น การเมืองแบบใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชนเป็นหลัก เราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไว้ให้ลูกหลานเรา ที่ไม่อยากให้เขาโตมาแล้วเจอสังคมแบบที่เราเจอ

พวกเราทั้งหมดก็ผ่านขบวนการอบรม การหล่อหลอมทั้งอุดมการณ์ และวิธีการทำงานในพื้นที่เพื่อที่จะได้มาซึ่งคะแนนและชัยชนะ เราต้องการอำนาจเพื่อพัฒนาประเทศ เราไม่ได้ต้องการอำนาจ เพื่อใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกต้อง อดีตผู้สมัคร ทุกคนคงจำกันได้ ตลอดระยะเวลาของการรณรงค์หาเสียง พวกเราได้ให้กำลังใจซึ่งกันและกันมาโดยตลอดทั้งหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคคนอื่นๆ เราเหนื่อยมาด้วยกัน ลงพื้นที่หาเสียงเดินมากเป็นต้นๆ ของทุกพรรคหรืออาจจะมากกว่าทุกพรรค ด้วยทรัพยากรทีมีอยู่อย่างจำกัด จนเราได้คะแนน มา 6.3 ล้านเสียง ซึ่งหลายๆคนบอกว่าคาดไม่ถึง แต่พวกเราลงพื้นที่เราคาดการณ์ ถูกมาโดยตลอดว่าคะแนนเราเท่าไหร่ จากการที่ทำงานที่หนักหน่วงของพวกเรา ทำให้เราประสบความสำเร็จ ได้ ส.ส.เข้าสภา 81 คน (ถ้าไม่เจอการคำนวณแบบพิสดารก็คง 87 คน) เป็นพรรคที่มี ส.ส. เป็นอันดับ 3

หลังจากเสร็จศึกเลือกตั้ง 1 อาทิตย์ พรรคได้เรียกประชุมที่ชลบุรีอีกครั้ง ในวันนั้นเราได้สรุปผลการเลือกตั้งและงานที่พวกเราจะทำต่อกันอย่างไรในพื้นที่ ในวันนั้น อ.ปิยบุตร บอกว่า ถ้าใครจะทำงานกับพรรคต่อ พรรคของเรามีงานให้ทำเยอะตามความสามารถ และความถนัดของแต่ละคน ในวันนั้นได้แบ่งงานออกเป็น 3 ส่วน แล้วให้ อดีตผู้สมัครเราลงชื่อ

1 งานในสภา ซึ่งประกอบด้วย ส.ส.ที่สอบผ่าน และ ผู้สอบไม่ผ่านก็จะไปเป็น ผู้ช่วย ส.ส. ผู้ชำนาญการ และผู้เชียวชาญ

2 งานสร้างพรรคการเมือง ขยายอุดมการณ์ ทำพรรคให้เป็นสถาบันการเมืองให้ได้ และวิสาหกิจชุมชน เพื่อสร้างอาชีพต่างๆให้ชุมชน โดยผ่านทางคณะทำงานจังหวัด

3 งานการเมืองท้องถิ่น ถ้าจำกันได้พวกเราลงทั้ง 3 อย่างนี้เท่าๆ กัน หลังจากกลับลงพื้นที่ สภาเปิด ทางพรรคก็ได้มีการจัดตำแหน่ง ผู้ช่วย ผู้ชำนาญการ ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งส่วนหนึ่ง ส.ส.คัดเลือกเอง อีกส่วนหนึ่งพรรคช่วยคัด โดยเน้นที่การทำงานเป็นหลัก และพื้นที่ให้ครอบคลุมทุกจังหวัด เพื่อจะได้ทำงานให้พรรคได้ทุกพื้นที่ ตรงนี้เราเคารพการตัดสินใจ ของ ส.ส.และของพรรค ซึ่งเท่าที่ผมดูก็ตามความเหมาะสมจริงๆครับ คนที่ไม่ได้รับเลือกไม่ใช่คุณไม่มีความสามารถ แต่อาจจะไม่เหมาะสมในเวลาและพื้นที่ตรงนั้น แน่นอนครับมีทั้งคนผิดหวังและสมหวัง เพราะตำแหน่งที่เหลือให้พรรคจัดไม่ได้ครบกันทุกคน ยอมรับมติพรรค

คนที่ผิดหวังถ้ามีความตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงประเทศเราควรจะทำงานการเมืองต่องานในพื้นที่ต่อควบคู่กับการทำงานส่วนตัวของเรา ในเมื่อเรามี ส.ส.ในสภา มีผู้ช่วย ส.ส. มีประเด็นปัญหาอะไรในพื้นที่เราก็สามารถช่วยพี่น้องประชาชนได้ ด้วยการที่เราก็ส่งให้พรรคพวกเราในสภาทำหน้าที่ และที่สำคัญพรรคยังมีงานอีก 2 ส่วนที่ให้พวกเราทำ ทั้งงานสร้างพรรคให้เป็นสถาบันการเมือง และงานวิสาหกิจชุมชน งานท้องถิ่น มีให้เราทำเยอะ ถ้ามีความตั้งใจจริง

ส่วนอีกประเด็นเท่าที่ผมทำงานกับพรรค พรรคไม่เคยที่จะไม่เห็นหัวอดีตผู้สมัครและมองว่าเป็นขยะ อันนี้ยืนยันการแบ่งชนชั้นในพรรค ก็ไม่ได้เกิดขึ้น แต่จะเป็นการมอบหมายงานแบ่งงานกันทำตามความถนัดและความสามารถ แบ่งหน้าที่กันทำ ซึ่งอาจจะทำให้ อดีตผู้สมัครบางคนคิดว่านี่คือการแบ่งชนชั้น

ส่วนประเด็นความไม่พอใจในการคัดสรรคนลง นายก อบจ. ถ้าไปดูกติกา คะแนนไพรมารี่โหวต 25% และความคิดเห็นจากกรรมการพรรค 75% (ส่วนพรรคอื่นๆมติกรรมการพรรคจะ 100% เลย) พรรคจะดูความสามารถ และอุดมการณ์เป็นสำคัญ จะตระกูลใหญ่มาจากไหนอดีตจะมีคะแนนเสียงเท่าไหร่ พรรคไม่ได้คิดตรงนั้น พรรคมองว่าจะพัฒนาจังหวัดนั้นๆอย่างไร และแน่วแน่ตั้งใจแค่ไหน ผมเชื่อมั่นในการตัดสินของกรรมการบริหารพรรค ซึ่งที่ผ่านมาก็ตัดสินได้ถูกต้องมาโดยตลอด หลังจากเคาะบางจังหวัดแล้วทำให้คนที่ไม่ได้รับคัดเลือกออกมาเรียกร้องโวยวาย นั้นยิ่งตอกย้ำว่าพรรคคัดคนถูกต้องแล้ว

ผมขอยืนยันว่าหลักการและเหตุผลต่างๆของพรรคยึดโยงการทำให้ประเทศนี้ดีขึ้นเปลี่ยนแปลงสู่การพัฒนาเพื่อส่งมอบสังคมที่ดีกว่านี้ให้ลูกหลานเรา ไม่ได้เพื่อผลประโยชน์ต่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง อาจจะทำให้ไม่พอใจของคนในพรรคบางคนบ้าง แต่ก็เป็นเรื่องปกติ แต่หลักและแก่นของพรรคไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแน่นอน

กระแสที่เกิดขึ้นคือมุมบวกครับ การเวลาพิสูจน์คน คัดกรองคน จะยิ่งทำให้พรรคแข็งแกร่งขึ้น ยอมรับและเคารพการตัดสินใจของพวกเราบางคน ทุกคนมีเหตุผล นี่คือความสวยงามของประชาธิปไตย

ผมคนหนึ่งที่ไม่ได้ตำแหน่งอะไรในพรรค และไม่เคยเรียกร้อง เป้าหมายของเรายิ่งใหญ่กว่าการที่จะไปคิดเล็กคิดน้อยกับพรรค

“เพื่อลบรอยคราบน้ำตาประชาราษฎร์
สักพันชาติจักสู้ม้วยด้วยหฤหรรษ์
แม้นชีพใหม่มีเหมือนหวังอีกครั้งครัน
จักน้อมพลีชีพนั้นเพื่อมวลชน”