กลุ่มเพื่อน “ตัน-สุรนาถ” ผู้ต้องหาคดีประทุษร้ายพระราชินี ชุมนุมหน้าศาลเรียกร้องให้ปล่อยตัว ด้านทนายความอ้างถูกย้ายไปขังเรือนจำบางขวาง
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (28 ต.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นางน้ำทิพย์ และนายอำนาจ แป้นประเสริฐ แม่และพี่ชายนายสุรนาถ แป้นประเสริฐ หรือตัน ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง หนึ่งในผู้ต้องหาคดีอาญา มาตรา 110 ประทุษร้ายต่อเสรีภาพพระราชินี หรือองค์รัชทายาท กรณีผู้ชุมนุมกับขบวนเสด็จฯ บนถนนพิษณุโลก เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2563 พร้อมกลุ่ม “เพื่อนตัน” ประมาณ 30 คน เดินทางมาศาลเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายสุรนาถ โดยทางกลุ่มได้พากันชูป้ายกระดาษเขียนข้อความ อาทิ #saveสุรนาถ #กอดตัน #หยุดคุกคามประชาชน #ปล่อยเพื่อนเรา ก่อนจัดกิจกรรมผูกข้อมือรับขวัญนางน้ำทิพย์
น.ส.รัตนาภรณ์ เจือแก้ว ตัวแทนกลุ่มดีจัง Young Team กล่าวว่า นายสุรนาถถูกดำเนินคดีและฝากขังผัดแรกครบ 7 วันแล้ว วันนี้ทนายจึงจะมาทำเรื่องขอประกันตัวอีกครั้ง พวกเราเชื่อในความบริสุทธิ์ใจของนายสุรนาถ จึงมารวมตัวแสดงพลังให้ศาลเห็นใจ เพราะเจ้าตัวเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหาเท่านั้น อยากให้ประกันตัวออกมาสู้คดีข้างนอก ที่ผ่านมาเจ้าตัวเป็นนักกิจกรรมชุมชนที่หว่านเมล็ดพันธุ์ตามรอยพ่อเพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ในชุมชนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งยังสนับสนุนโครงการทางสังคมมาตลอด อีกทั้งเจ้าตัวไม่มีพฤติกรรมจะหลบหนี เพราะหลังทราบข่าวว่าถูกหมายจับก็ยังประสานไปยัง สน.ดุสิต ทันที
ด้านนายอำนาจ พี่ชายของนายสุรนาถ กล่าวว่า ก่อนหน้าที่น้องชายจะถูกจับ เจ้าตัวก็เพิ่งแต่งงานไม่นาน จึงเป็นเสาหลักของครอบครัว เพราะพ่อก็เพิ่งเสียชีวิต เหลือเพียงแม่คนเดียว อีกทั้งตั้งแต่วันที่น้องชายถูกจับจนวันนี้ก็ยังไม่พบหน้าหรือทราบข่าวคราวใดเลย ทราบเพียงว่าในวันชุมนุมนั้นน้องชายได้ไปร่วมชุมนุมกับประชาชนตามปกติ ไม่มีเจตนาขวางขบวนเสด็จฯ เพราะไม่ทราบล่วงหน้าว่าจะมีขบวนเสด็จฯ ผ่านมา ทุกคนก็รักสถาบันฯ เหมือนกันหมด เรายืนยันได้ จึงอยากขอความเป็นธรรมให้น้องได้ออกมาสู้คดีข้างนอก ขณะเดียวกัน ตนก็ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมจึงย้ายน้องชายไปเรือนจำบางขวาง ขณะที่คนอื่นยังอยู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ก็จะให้ทนายทำเรื่องขอคำชี้แจงจากเรือนจำ
นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวถึงกรณีการฝากขังนายสุรนาถ แป้นประเสริฐ ผู้ต้องหาคดี ม.110 ที่อ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ย้ายจากคุมขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไปยังเรือนจำกลางบางขวาง เรือนจำสำหรับนักโทษเด็ดขาดคดีร้ายแรง โดยไม่แจ้งให้ครอบครัวทราบว่า ได้นำเรื่องนี้แจ้งต่อศาล ซึ่งศาลก็ได้รับเรื่องและจะไปตรวจสอบให้ ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าการกระทำลักษณะนี้จะเป็นการละเมิดคำสั่งศาลหรือไม่นั้น ตนมองว่าเรื่องดังกล่าวอาจเป็นละเมิดคำสั่งศาลได้เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่มีอำนาจในการย้ายผู้ต้องขัง
นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงคดีไต่สวนละเมิดอำนาจศาลของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำกลุ่มประชาชนปลดแอก จากกรณีเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา นายเพนกวินได้ปราศรัยหน้าอาคารศาลอาญาเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายอานนท์ นำภา และนายภานุพงศ์ จาดนอก ว่านายพริษฐ์ได้แถลงต่อศาลว่าเสียใจ และขอโทษที่ได้กล่าวถ้อยคำรุนแรง และได้ขอโทษศาล ซึ่งศาลได้เมตตาเพราะเห็นว่าเป็นเยาวชน จึงให้โอกาสในการปรับตัว แต่ให้สัญญาว่าจะไม่กระทำการละเมิดอำนาจศาลอีก เบื้องต้นศาลจึงจำหน่ายคดี ทั้งนี้ ศาลได้อธิบายความถึงหน้าที่ของศาลว่าศาลอาญาต้องคงไว้ซึ่งความยุติธรรม
ส่วนวันนี้ศาลอาญาได้เบิกนายอานนท์ นำภา มาเป็นทนายร่วมในการไต่สวนด้วยทั่งนี้ นายอานนท์บอกว่า ตอนนี้เป็นห่วงคดีของลูกความเพราะขาดทนายความช่วยดูแลเรื่องคดีให้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันนี้นางน้ำทิพย์ แป้นประเสริฐ มารดาของนายสุรนาถ แป้นประเสริฐ หรือตัน ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวนายสุรนาถต่อศาลอาญา กระทั่งเวลา 17.00 น. มีรายงานว่า ศาลอาญาได้มีคำสั่งยกคำร้อง โดยพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา ประกอบคำคัดค้านของพนักงานสอบสวนแล้ว เห็นว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง อีกทั้งความผิดตามข้อกล่าวหามีอัตราโทษสูง กรณีมีเหตุอันสมควรเชื่อว่าหากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหาจะหลบหนี หรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นอีก จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในชั้นนี้ โดยให้แจ้งคำสั่งนี้ให้ผู้ต้องหาทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายสุรนาถ ผู้ต้องหาได้ยื่นประกันตัวมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกยื่นต่อศาลอาญาซึ่งเป็นศาลชั้นต้นในชั้นฝากขัง และต่อมายื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลอุทธรณ์ ซึ่งไม่ได้รับการประกันตัวทั้ง 2 ครั้ง ทำให้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ โดยครั้งที่ 3 (ครั้งนี้) เป็นการยื่นคำร้องใหม่ต่อศาลชั้นต้น