ศาลให้ประกัน “จุฑาทิพย์” ปธ.สนท. ร่วมประท้วงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย วันที่ 18 ก.ค. ด้านเจ้าตัวออกมาสาดสีใส่ตัวเองริมฟุตปาธ หน้าป้ายศาลอาญา อ้างสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรง
เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (1 ก.ย.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พ.ต.ท.หญิง จิตติมา ธงไชย พนักงานสอบสวน สน. สำราญราษฎร์ นำตัว น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ หรือ อั๋ว อายุ 22 ปี ประธานสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) มาฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-12 ก.ย. 2563 เนื่องจากต้องทำการสอบสวนพยานเพิ่มเติมอีก 2 ปาก รอผลตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือและผลตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา มาประกอบสำนวนการสอบสวน
คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2560 เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ กับพวก ได้จัดกิจกรรม “ใครไม่ทนให้ไปกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย” โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมได้ทยอยรวมตัวกันบนทางเท้าหน้าร้านแมคโดนัลด์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในระหว่างชุมนุม ผกก.สน.สำราญราษฎร์ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานและปฏิบัติหน้าที่ได้เข้าไปชี้แจงกับกลุ่มผู้ชุมนุม ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย แต่กลุ่มผู้ร่วมกิจกรรมไม่ปฏิบัติตาม โดย น.ส.จุฑาทิพย์ ผู้ต้องหา ได้ขึ้นเวทีปราศรัยจำนวน 3 ครั้ง ก่อนเกิดเหตุได้โพสต์เชิญประชาชนเข้าร่วมชุมนุมและปราศรัยว่า “รัฐบาลยัดคดีให้พวกเรา” และพูดชักชวนผู้ชุมนุมให้ทำกิจกรรมโดยอยู่ค้างคืน ว่า “มอบยาวๆ โอไม่โอ” และเป็นผู้สั่งให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนย้ายเวทีข้อความว่า “เราจะเคลื่อนเวทีค่ะดันพื้นที่ค่ะไปค่ะ” พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญา อนุมัติหมายจับ น.ส.จุฑาทิพย์ ผู้ต้องหานี้ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1173/2563 ลงวันที่ 6 ส.ค. 2563
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2563 เวลาประมาณ 09.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสามารถจับกุม น.ส. จุฑาทิพย์ ผู้ต้องหารายนี้ ได้ตามหมายจับดังกล่าวข้างต้นได้ที่บริเวณปากซอยราชปรารภ 14 แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.โดยแสดงหมายจับและผู้ต้องหารับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและไม่เคยถูกจับกุมมา ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เหตุเกิด แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2563 เวลาประมาณ 16.00-24.00 น.
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งความผิดฐาน “ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองโดยเป็นหัวหน้า หรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำความผิด, ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมกันหรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่ายชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัดหรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยหรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคกระทำการหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไปฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ, ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะจนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจรโดยวางหรือทอดทิ้งสิ่งของหรือโดยกระทำด้วยประการอื่นใด, ร่วมกันวางตั้งยื่นหรือแขวนสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือกระทำด้วยประการใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร, ร่วมกันตั้งวางหรือกองวัตถุใดๆ บนถนน, ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116(2) (3), 215 วรรคสาม, 385, 83, ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 9 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน (ฉบับที่ 1) ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคงเรื่องห้ามชุมนุมการทำกิจกรรมการมั่วสุมลง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 34(6), 51, พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 114, 148, พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบของบ้านเมือง พ.ร.บ.ควบคุมโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493
ชั้นสอบสวนผู้ต้องหา ไม่ประสงค์ให้การใดๆ ต่อพนักงานสอบสวน และท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านหากมีการขอปล่อยตัวชั่วคราว
ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาคัดค้าน ศาลได้ไต่สวนคำร้องคัดค้านแล้วจึงอนุญาตให้ฝากขังได้ตามคำขอ เนื่องจากคำคัดค้านของผู้ต้องหาฟังไม่ขึ้น
โดยภายหลังญาติและทนายของผู้ต้องหาได้ยื่นเรื่องขอปล่อยตัวชั่วคราว ศาลพิจารณาคำร้องแล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาในชั้นฝากขัง โดยทำสัญญาประกันวงเงิน 100,000 บาท โดยไม่ต้องมีหลักประกัน แต่มีเงื่อนไขห้ามกระทำการใดๆ ในลักษณะเดียวกับการกระทำที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้อีก มิฉะนั้น ถือว่าผิดสัญญาประกัน
ภายหลังได้รับประกัน น.ส.จุฑาทิพย์ หรือ อั๋ว ได้เดินออกมาทำกิจกรรมสาดสีใส่ตัวและสาดลงพื้น พร้อมกับให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่บริเวณด้านหน้าป้ายศาลอาญา ว่า ศาลได้ปล่อยชั่วคราว แต่กำหนดเงื่อนไขเหมือนกับแกนนำคนอื่นที่ถูกออกหมายจับ คือ ห้ามกระทำผิดในลักษณะเดิม แต่เราก็ยืนยันว่า ไม่ได้กระทำผิดและปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งตนเองจะไปชุมนุมทางการเมืองตามปกติ โดยจะไปทุกที่ ครั้งต่อไปก็จะชุมนุมกันที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ ก่อนหน้านั้น ก็มีการชุมนุมของนักเรียน และการชุมนุมอีกหลายที่ในทางจังหวัด
โดยการชุมนุมทางการเมืองนี้ เป็นสิ่งเราเรียกร้องมาโดยตลอดอยู่แล้ว ในเรื่องของประชาธิปไตย อย่างที่เห็นว่าเจ้าหน้าที่รัฐสาดคดีมาให้เรา เราก็สาดสีกลับไป ก็เป็นการย้อนว่าคุณไม่มีสิทธิมาทำแบบนี้กับเรา ซึ่งเราสามารถประท้วงด้วยการสาดสีได้ เพราะเป็นสันติวิธีมากๆ ไม่ได้ทำให้ใครบาดเจ็บ หรือเกิดความรุนแรง
“ตอนนี้ก็มีภารกิจทั้งการเรียนและการเรียกร้องประชาธิปไตย ควบคู่กันไป ก็พยายามแบ่งเวลา อย่างวันนี้ที่โดนจับก็คือกำลังนั่งรถไปเรียน ส่วนอาจารย์ก็เข้าใจ ซึ่งได้บอกอาจารย์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่าโดนหมายจับ ต้องวุ่นวายกับคดี ถ้าหากไปเรียนหรือส่งงานไม่ทันอาจารย์ก็เข้าใจ” น.ส.จุฑาทิพย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของ แกนนำเยาวชนปลดแอก ก่อนหน้านี้ ศาลอาญาได้ออกหมายเรียก นายอานนท์ นำพา และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ “ไมค์ ระยอง” ได้นัดไต่สวน ในวันที่ 3 ก.ย. เพื่อไต่สวนคำร้องขอเพิกถอนหมายจับ เนื่องจากหลังผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้รับประกันตัวแล้ว ได้ไปขึ้นเวทีปราศรัย จึงเชื่อได้ว่า มีพฤติการณ์ทำผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราว โดยศาลนัด นายอานนท์ เวลา 9.00 น. ห้องพิจารณา 714 และนัด นายภาณุพงศ์ เวลา 9.00 น. ที่ห้องพิจารณา 712