ศาลให้ประกัน 9 แกนนำม็อบปลดแอกแล้ว ไม่ต้องมีหลักประกัน พร้อมเงื่อนไขห้ามกระทำซ้ำ ถือว่าผิดสัญญาประกัน
เมื่อเวลา 18.29 น. วันที่ 20 ส.ค. 2563 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอาญาเผยแพร่เอกสารข่าวกรณีฝากขัง 9 ผู้ต้องหา แกนนำคณะประชาชนปลดแอกในวันนี้ ว่า พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอหมายขัง นายบารมี ชัยรัตน์ นางสาวสุวรรณา ตาลเหล็ก นายกรกช แสงเย็นพันธ์ นายธานี สะสม นายเดชาธร บำรุงเมือง นายณัฐวุฒิ สมบูรณ์ทรัพย์ นายทศพร หรือ ทศ สินสมบุญ นายธนายุทธ ณ อยุธยา และ นายอานนท์ นำภา ผู้ต้องหา เพื่อทำการสอบสวน ทนายความของผู้ต้องหาทั้งหมดยื่นคำคัดค้านคำร้องขอหมายขังดังกล่าว ศาลลงนั่งพิจารณาไต่สวนคำร้องขอหมายขัง โดยมีทนายความของผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าร่วมฟังการไต่สวนในห้องพิจารณา ก่อนการไต่สวนศาลได้อธิบายคำร้องขอฝากขังของพนักงานสอบสวนและแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ผู้ต้องหาทั้งหมดทราบ แล้วไต่สวนพนักงานสอบสวนผู้ร้อง
ต่อมา ศาลได้อ่านคำสั่งคำร้องดังกล่าวให้พนักงานสอบสวน ผู้ร้อง ผู้คัดค้านทั้งหมด และทนายความของผู้ต้องหาทั้งหมดฟัง และมีคำสั่งว่า พิเคราะห์พยานหลักฐานในชั้นไต่สวนคำร้องและข้อคัดค้านแล้วเห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 87 ได้วางหลักเกณฑ์การควบคุมตัวไว้เป็นขั้นตอนเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน เมื่อคดีนี้พนักงานสอบสวนรับตัวผู้ต้องหา ในวันที่ 19 สิงหาคม 2563 และวันที่ 20 สิงหาคม 2563 วันนี้พนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด มายื่นคำร้องขอฝากขังในวันนี้ ยังอยู่ในระยะเวลาที่พนักงานสอบสวนสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 87 วรรคสาม
ส่วนที่ผู้ต้องหาคัดค้านว่า ผู้ต้องหามีถิ่นที่อยู่และประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่ง คดีนี้เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับซึ่งมีข้อหาอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปี ซึ่งตามกฎหมาย เมื่อเป็นกรณีที่ผู้ถูกจับไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวและมีเหตุจำเป็นการเพื่อการสอบสวน พนักงานสอบสวนชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ออกหมายขังได้ โดยที่พนักงานสอบสวนอ้างเหตุขออนุญาตฝากขังว่า การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบสวนพยานเพิ่มเติมอีก และรอผลการตรวจพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือและผลการตรวจประวัติการต้องโทษ
ดังนั้น พนักงานสอบสวนจึงมีอำนาจขอสอบสวนพยานดังกล่าวได้ เมื่อเป็นการร้องฝากขังครั้งที่ 1 ซึ่งพนักงานสอบสวนมีเวลาสอบสวนเพียง 48 ชั่วโมง กรณีจึงมีเหตุจำเป็นเพื่อการสอบสวนต่อไป ส่วนข้อคัดค้านอื่นไม่มีน้ำหนักให้รับฟัง จึงอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาให้ตามขอ นอกจากนี้ศาลได้แจ้งสิทธิการขอประกันตัวหรือขอปล่อยตัวชั่วคราวให้ผู้ต้องหาทราบแล้วว่า ผู้ต้องหาสามารถยื่นคำร้องขอประกันตัวหรือขอปล่อยตัวชั่วคราวได้ทันทีหรือสามารถยื่นคำร้องขอประกันตัวได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
หลังจากศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาทั้งหมด ผู้ขอประกันได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวให้ผู้ต้องหาทั้งหมด ศาลพิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวดังกล่าวแล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งหมดระหว่างสอบสวนตลอดจนถึงชั้นพิจารณาชั่วคราว โดยมีประกันในวงเงินคนละ 100,000 บาท โดยไม่ต้องมีหลักประกัน แต่มีเงื่อนไขห้ามกระทำการใดๆ ในลักษณะเดียวกับการกระทำที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้อีก มิฉะนั้น ถือว่าผิดสัญญาประกัน ศาลได้แจ้งคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวดังกล่าวและปล่อยตัวผู้ต้องหาแล้ว
ต่อมาเวลา 18.40 น. นายอานนท์ นำภา ทนายความและแกนนำประชาชนปลดแอก นายเดชาธร บำรุงเมือง หรือ ฮอกกี้ Hockhacker ศิลปินวง Rap Against Dictatorship RAD เจ้าของเพลงประเทศกูมี พร้อมด้วยแกนนำและนักศึกษาที่เป็นผู้ต้องหารวม 9 คน ได้พากันเดินออกมาจากศาลอาญา
ภายหลังได้รับการปล่อยตัว นายเดชาธร หรือ ฮอกกี้ กล่าวว่า ขอขอบคุณศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทุกๆ คนที่มาให้กำลังใจ ซึ่งส่วนตัวรู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่เราก็ยังยืนยันอุดมการณ์เดิมว่าเราจะสู้ต่อไป และพร้อมที่จะไปขึ้นเวทีต่างๆ ที่ถูกเชิญ เพราะมันเป็นสิทธิที่เราทำได้ ส่วนเรื่องเหตุการณ์นี้จะทำให้มีเพลงใหม่หรือไม่ ตนขอไปนั่งคิดดูก่อน เพราะเหตุการณ์วันนี้มันเกิดขึ้นเร็วมากจริงๆ ตนยังรู้สึกงงๆ อยู่เลย จึงขอไปนั่งคิดดูก่อนว่าจะสามารถเอามาแต่งอะไรได้บ้างก็ให้ขอติดตาม
ทั้งนี้ นายเดชาธร ยังกล่าวทิ้งท้ายติดตลกว่า “RAD ลืมเนื้อยังถูกจับเลย ถ้าจำเนื้อได้หมดนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร”
ด้าน นายบารมี ชัยรัตน์ แกนนำสมัชชาคนจน กล่าวว่า การที่ตนไปร่วมชุมนุมในวันนั้นมันเป็นสิทธิ์ ที่ตนเห็นว่า สามารถทำได้ ตนก็ได้บอกต่อศาลว่าศาลไม่ควรออกหมายจับ หรือรับคำร้องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะสิ่งที่เราทำเป็นสิทธิที่เราทำได้ ซึ่งเรายืนยันว่าเราจะเดินหน้ากิจกรรมต่อไป
นายธนายุทธ ณ อยุธยา แร็ปเปอร์น้องใหม่อีกราย กล่าวว่า นักเรียนนักศึกษาที่จะออกมา อย่าเพิ่งท้อ เรามีสิทธิเสรีภาพเหมือนกัน เท่าเที่ยมกัน และเราจะเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ไปด้วยกัน
นายอานนท์ นำภา ทนายความและแกนนำประชาชนปลดแอก กล่าวว่า สำหรับการปล่อยตัวในครั้งนี้ ก็มีเงื่อนไขเหมือนเดิม คือ อย่าไปกระทำผิดซ้ำ แต่เรายืนยันว่า สิ่งที่เราทำไม่ได้ผิดกฎหมาย และอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญทุกประการ เรามุ่งหวังว่าอย่างเห็นสังคมที่เป็นประชาธิปไตย ส่วนเรื่องการปราศรัย รวมไปถึงเนื้อหาที่ปราศรัยของตนก็ยังเหมือนเดิม ยิ่งในช่วงการตรากฎหมายและการร่างรัฐธรรมนูญให้เราต้องยิ่งปราศรัยให้เข้มข้นขึ้น
นายอานนท์ กล่าวอีกว่า วันนี้ศาลได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ควรนำตัวมาฝากขัง แต่ควรจะลงใช้วิธีออกหมายเรียกก่อน ปล่อยตัวในชั้นสอบสวน ซึ่งจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายขึ้น นอกจานี้ ศาลแจ้งว่าตำรวจไม่ควรเราเรื่องนี้มาทำให้ศาลเกิดความวุ่นวาย เพราะตำรวจสามารถออกหมายเรียกได้ก่อน และเราก็พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการอยู่แล้ว อย่าใช้กฎหมายมาคุกคามพวกเรา
ภายหลังจากสัมภาษณ์เสร็จแล้วจึงพากันแยกย้ายกลับ
