MGR Online - “อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน” แจ้งจับ แกนนำ-อาจารย์-ผู้ประกอบการ-ท่อน้ำเลี้ยง พบความผิดสำเร็จแล้ว ต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพื่อเป็นบรรทัดฐานสังคม
วันนี้ (14 ส.ค.) เวลา 14.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ดร.ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เดินทางเข้ายื่นหลักฐานต่อ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะโฆษก ปอท. เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกลุ่มแกนนำ ผู้บริหารมหาวิทยาลัย ผู้ประกอบการเวที ผู้ที่ให้การสนับสนุนเงินทุนในการจัดการชุมนุมที่เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14 และ กฏหมายอาญา ม.116 ฐานยุยง ปลุกปั่นฯ ณ ลานพญานาค ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา
ดร.ณฐพร กล่าวว่า การชุมนุมวันดังกล่าวมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ตนมองว่า การตัดสินความผิดต้องเป็นอำนาจของศาล จึงนำหลักฐานต่างๆ อาทิ ข้อมูลติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์ เส้นทางการเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผู้สนับสนุนอุปกรณ์การปราศรัย มามอบให้พนักงานสอบสวน ปอท. ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทุกคนรวมถึงผู้สนับสนุนเพราะเห็นว่าความผิดสำเร็จแล้ว โดยตนจะช่วย ปอท. รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเอาผิดให้ถึงที่สุดและติดตามเรื่องการสอบสวนให้เข้าสู่กระบวนศาลยุติธรรมโดยเร็ว เพื่อเป็นบรรทัดฐานทางสังคม ยืนยันไม่กล่าวหาใครลอยๆ ผู้ที่ถูกดำเนินคดีจะมีหลักฐานรองรับทั้งหมด
ดร.ณฐพร กล่าวอีกว่า การชุมนุมดังกล่าวเป็นการล่วงละเมิดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 และบทบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่า อาจจะมีพรรคการเมืองหนึ่งช่วยเหลือสนับสนุนการจัดกิจกรรมครั้งนี้ด้วย เป็นบุคคลหน้าเดิมๆ รวมถึงกรณีความเชื่อมโยงของม็อบนักศึกษาที่มีการชูสัญลักษณ์ 3 นิ้วคล้ายกับพรรคการเมืองหนึ่งด้วย โดยตนจะร่วมตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก่อนแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป แต่ทั้งนี้ ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดว่าเป็นกลุ่มนักการเมืองใด
“ส่วนกรณีที่ผมเข้ามาร้องต่อทุกข์ต่อ บก.ปอท. นั้น เพราะว่าเป็นหน่วยงานที่เชี่ยวชาญด้านการสืบสวนหาข้อมูลอาชญากรรมทางเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม มีผู้หวังดีจะร่วมสนับสนุนเอาผิดกลุ่มแกนนำด้วย แต่ยืนยันไม่รับเงินฝากใดๆ และอยากให้พนักงานสอบสวนทำงานให้ถึงที่สุดด้วยความโปร่งใส” ดร.ณฐพร กล่าว
ขณะที่ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ เปิดเผยว่า ในส่วนของการดำเนินคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตำรวจ ปอท. จะตรวจสอบทางสื่อออนไลน์เป็นหลักเกี่ยวกับการแสดงความคิดเห็นและต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายไม่ละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น สำหรับความผิดฐานอื่นๆ ตำรวจท้องที่พบการกระทำผิดสามารถดำเนินการตามขั้นตอนได้เช่นกัน
