xs
xsm
sm
md
lg

“วัชระ” ร้องอัยการตั้งคณะทำงานตรวจสอบคดี “โอ๊ค-พานทองแท้” เหมือนคดี “บอส” ไม่อยากให้เป็นสองมาตรฐาน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“วัชระ เพชรทอง ร้องอัยการตั้งคณะทำงานตรวจสอบคดีโอ๊ค-พานทองแท้ เหมือนตั้งคณะทำงานคดีบอส-วรยุทธ” ชี้สังคมและประชาชนเคลือบแคลงสงสัยเช่นกัน ไม่อยากให้ถูกตำหนิเป็นสองมาตรฐาน


เมื่อเวลา 11.45 น. วันนี้ (29 ก.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด ขอให้ดำเนินการรื้อฟื้นคดีฟอกเงินนายพานทองแท้ ชินวัตร หรือโอ๊ค บุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เช่นเดียวกับคดีขับรถชนตำรวจของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทตระกูลธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง

โดยก่อนยื่นหนังสือ นายวัชระได้ชูป้ายข้อความว่า “เพื่อความยุติธรรม ขอให้รื้อฟื้นคดีนายพานทองแท้ เช่นเดียวกับคดีนายวรยุทธ” และป้ายข้อความว่า “ไว้อาลัยกระบวนการยุติธรรมไทย” โดยมีนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้แทนรับเรื่อง

นายวัชระกล่าวว่า เนื่องจากกรณีสำนักงานอัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีต่อนายวรยุทธในทุกข้อกล่าวหา และสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่แย้งคำสั่งของอัยการนั้น ปรากฏสร้างความไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศอย่างกว้างขวาง และนานาประเทศไม่เชื่อถือระบบความยุติธรรมของประเทศไทย อัยการสูงสุดมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานตรวจรายการพิจารณาคดี โดยมีนายสมศักดิ์ ติยะวานิช รองอัยการสูงสุด เป็นหัวหน้าคณะทำงานนั้น

เพื่อให้เป็นกรณีบรรทัดฐานเดียวกัน เพราะเป็นเรื่องทำนองเดียวกันและเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของนายเนตร นาคสุข อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูง รักษาการในตำแหน่งรองอัยการสูงสุด ปฏิบัติหน้าที่แทนอัยการสูงสุดเหมือนกัน และสังคมเกิดความคลางแคลงใจสงสัยในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐเช่นกัน นั่นคือคดีหมายเลขดำที่ อท.245/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายพานทองแท้ ชินวัตร ในคดีร่วมกันฟอกเงินทุจริตเงินปล่อยกู้แบงก์กรุงไทย จำนวน 10 ล้านบาท ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5, 9, 60 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2558 มาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 91

การที่นายเนตร รองอธิบดีอัยการปฏิบัติหน้าที่แทนอัยการสูงสุด สั่งไม่อุทธรณ์คดีนายพานทองแท้แทนอัยการสูงสุด จึงเป็นการสั่งตัดตอนความยุติธรรมไม่ให้เข้าสู่การพิจารณาของศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบในชั้นอุทธรณ์ และสร้างความคลางแคลงใจต่อสังคมเป็นอย่างมาก เพราะคำพิพากษาศาลชั้นต้นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะมีความเห็นแย้งให้ลงโทษจำคุกนายพานทองแท้ 4 ปี จึงขอให้อัยการสูงสุดสั่งดำเนินการรื้อฟื้นคดีนายพานทองแท้เป็นการด่วนที่สุด เช่นเดียวกับคดีของนายวรยุทธ

นอกจากนี้ นายวัชระได้ยื่นหนังสืออีกฉบับถึงนายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เพื่อขอให้ ก.อ.พิจารณาทบทวนการสั่งไม่ฟ้องของสำนักงานคดีพิเศษที่ผ่านมาว่ามีคดีอะไรบ้างกระทบต่อความยุติธรรมและภาพลักษณ์ขององค์กรหรือไม่ เพื่อแก้ไขฟื้นฟูสร้างความเชื่อมั่นให้กับกระบวนการยุติธรรมไทย และพิจารณาให้ความเห็นคดีนายพานทองแท้เป็นการด่วนที่สุด เช่นเดียวกับคดีของนายวรยุทธ

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเรียกร้องให้รื้อฟื้นคดีนายพานทองแท้ จะต่างจากการที่อัยการตั้งคณะทำงานตรวจสอบสำนวนคดีนายวรยุทธหรือไม่ นายวัชระกล่าวว่า ถ้าเราไม่ขอรื้อฟื้นคดี โดยทางกฎหมายจบไปแล้ว ทาง ผบ.ตร.ไม่แย้งอัยการสูงสุด จึงขอให้รื้อฟื้นคดีนายพานทองแท้ทำนองเดียวกับนายวรยุทธ เพื่อเป็นบรรทัดฐานเดียวกัน ตั้งคณะทำงานตรวจสอบคดีของนายวรยุทธได้ ควรตั้งกรรมการรื้อฟื้นคดีของนายพานทองแท้เพื่อเป็นมาตรฐานเดียวกัน

เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรถึงนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุดหรือไม่ นายวัชระกล่าวว่า ท่านเป็นรองอัยการสูงสุดที่พี่น้องประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ อยากให้ท่านชี้แจงแต่ละคดีว่าเหตุใดจึงสั่งไม่ฟ้องคดีสำคัญซึ่งเป็นคดีพิเศษของสำนักงานอัยการสูงสุด






กำลังโหลดความคิดเห็น