xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : แรงกระเพื่อม ปรับ ครม."ตู่ 2/2" วุ่นไม่รู้จบ อาจได้ยุบสภา

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม 2563 ตอน แรงกระเพื่อม ปรับ ครม."ตู่ 2/2" วุ่นไม่รู้จบ อาจได้ยุบสภา

การปรับคณะรัฐมนตรี กำลังเกิดการกระเพื่อมแรงขึ้นทุกวัน ทำให้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไม่สามารถชักช้าได้อีกต่อไป ต้องเร่งลงมือ ให้เสร็จโดยเร็ว มิฉะนั้นจะป่วนหนัก จึงมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะเป็นในสัปดาห์นี้ คงจะจัดโผ ครม. ประยุทธ์ 2/2 ลงตัว เรียบร้อยโรงเรียนลุงตู่

จบเร็วเป็นผลดี เพื่อสยบการวิ่งเต้นต่อรองแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีของกลุ่มส. ส. ในพรรคพลังประชารัฐ ที่หมายปองกระทรวงเศรษฐกิจเกรดเอ ซึ่งแสดงออกมาว่า ในหนึ่งสองเก้าอี้คือกระทรวงการคลัง และพลังงาน ต้องเป็นของหัวก๊วนส. ส. ในพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น ไม่เช่นนั้นพรรคป่วนอีก

ทางด้าน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยรายชื่อขุนพลที่จะเข้ามาแทนที่ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ 3 รัฐมนตรีในกลุ่ม 4 กุมาร ที่ลาออกไป

มีนายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย โดย “บิ๊กตู่” ยอมรับว่า มีการทาบทามแล้ว คาดว่าคนนี้จะมาเป็นรัฐมนตรีว่ากระทรวงการคลัง เช่นเดียวกับชื่อของ “ไพรินทร์ ชูโชติถาวร” อดีต รมช.คมนาคม ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ในโควต้านายกรัฐมนตรี

ถึงตอนนี้ คนแรก ปรีดี ไม่น่ามีปัญหา เก้าอี้นี้เป็นของ ลุงตู่ แต่ กระทรวงพลังงาน ที่หมายมั่นปั้นมือจะส่งไพรินทร์ มายึด เจอแรงต้านรอบทิศ โดนตอบโต้อย่างหนัก ทั้งทางตรงและทางลับ เจอหักตรงๆจากรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นาย ไพบูลย์ นิติตะวัน

ว่าไพรินทร์นั่งว่าการพลังงานไม่ได้ เพราะจะเกิดปัญหา ผลประโยชน์ทับซ้อน เสียงนี้เสมือนเป็นการส่งสัญญาณถึงบิ๊กตู่ ให้ทบทวนถอนชื่อไพรินทร์ ออกจากโผครม. อย่างมีนัยนะสำคัญ

ว่าถึง ปัญหาการตัดโผครม. ประยุทธ์2/2 ไม่ได้มีปัญหาเก้าอี้ไม่พอนั่ง แต่มีปัญหาที่วุ่นวายอยู่ตอนนี้ คือจะเลือกคนของใครมานั่งที่กระทรวงพลังงาน ระหว่างคนนอกกับคนของพรรคพลังประชารัฐ

ขณะเดียวกันตำแหน่ง 4 ที่นั่งที่ว่างลงจากการลาออกของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และ 3 รัฐมนตรี ได้แก่ รองนายกรัฐมนตรี รมว.คลัง รมว.พลังงาน และรมว.การอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม

ก็ได้เพิ่มมาอีกหนึ่ง จากการลาออกของ “เทวัญ ลิปตพัลลภ” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทำให้มีที่นั่งมาเพิ่มรวมเป็น 5 ที่นั่ง โควต้าแบ่งได้ครบคน ไม่ทำให้เกิดปัญหาแย่งชิงกัน

แต่ทว่า ถูกดึงเป็นโควตานายกฯไปแล้ว 2 ที่นั่ง
คือ รมว.คลัง กับ รมว.พลังงาน 2 เก้าอี้ ซึ่งเป็นสองเก้าอี้ที่ “บิ๊กตู่” ไม่ไว้ใจให้นักการเมือง ในพรรคพลังประชารัฐ มากุมบังเหียน

เพราะแม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะเข้าใจสถานการณ์ทางการเมือง แต่วิกฤติเศรษฐกิจที่รออยู่เบื้องหน้าในครึ่งปีหลัง จำเป็นต้องมีมืออาชีพมาทำงาน ไม่สามารถปล่อยให้นักการเมืองบริหารแบบเบ็ดเสร็จได้

เท่ากับว่าโควตารัฐมนตรีที่ว่างลง 5 ที่นั่ง จะเหลือ 3 ที่นั่งเท่านั้น ที่ “บิ๊กตู่” จะคืนให้กับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งไม่ใช่การคืนทั้งหมด

3 ที่นั่งนี้ คนแรกที่การันตีเก้าอี้รัฐมนตรีแน่นอนคือ “อนุชา นาคาศัย” ส.ส.ชัยนาท ที่ได้สิทธิ์ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐก่อน
ส่วนอีก 1 ที่นั่ง คือ “สุชาติ ชมกลิ่น” ส.ส.ชลบุรี และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และอีกชื่อที่มาแรงกว่าใครคือ “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” โฆษกประจำสำนักนายกฯ

ส่วนเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคเหลือ ตำแหน่ง
รองนายกรัฐมนตรี ,รมว.การอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม และรมต.ประจำสำนักนายกฯ ได้สามเก้าอี้ สำหรับพรรคพลังประชารัฐ แน่นอนว่า บรรดา ส.ส.ในพรรคไม่แฮปปี้

ถ้าไม่ได้กระทรวงพลังงาน เพราะถือเป็นกระทรวงเกรดเอที่พรรคเหลืออยู่ แต่ “บิ๊กตู่” กลับนำไปมอบให้กับคนนอก เป็นการไม่ให้โอกาสคนในพรรค

สาเหตุนี้เองจึงยังมีความพยายามจะวัดใจ พล.อ.ประยุทธ์ โดยหยิบเอาคำพูดของนายกฯที่เคยระบุว่า พรรคจะเสนออะไรมาก็ได้ แต่สุดท้ายตัวนายกฯจะเป็นผู้ตัดสินใจเอง มาใช้ในการเสนอชื่อรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค

จึงทำให้ในโผ ครม.ของพรรคพลังประชารัฐ ที่ จัดทำ ยังมีความพยายามจะให้ คนพลังประชารัฐไปนั่งรมว.พลังงานเสนอให้ “บิ๊กตู่” พิจารณา
ทั้งที่รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ตัดสินใจจะให้ “ปรีดี” นั่ง รมว.คลัง และ “ไพรินทร์” นั่ง รมว.พลังงาน ไปแล้ว เสมือนการวัดใจได้เสียกันในคราวนี้

สำหรับรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจคนใหม่ เที่ยวนี้ คงไม่จำเป็นต้องมีรองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ ในเมื่อทุกวันนี้ “บิ๊กตู่” เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจอยู่แล้ว

อีกทั้งการแต่งตั้งรองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจไปก็ไม่มีอำนาจจริง ในเมื่อกระทรวงเศรษฐกิจต่างๆ กระจายกันอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาล ดูอย่าง “สมคิด” ที่ยังต้องขอให้ “บิ๊กตู่” เป็นหัวหน้าทีมเอง เพื่อพรรคร่วมรัฐบาลจะได้ให้ความร่วมมือมากขึ้นในฐานะนายกฯ

ดังนั้น ตำแหน่งรองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจอาจไม่มี แล้วเอากระทรวงต่างๆ ของพรรคพลังประชารัฐ ไปให้อยู่ใต้การกำกับดูแลของ “บิ๊กป้อม” พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค ที่คุมลูกพรรคได้แทน

เท่ากับว่า คนที่จะมาแทน สมคิด กับ 3 กุมาร และ “เทวัญ”จำนวน 5 คนนั้นครบแล้ว คือ ปรีดี อนุชา สุชาติ และ “นฤมล” ก่อนหน้านี้มีไพรินทร์อีกคน แต่ถ้างัดข้อกันจริงจัง น่าจะมีการสลับเป็นคนใหม่ ไพรินทร์คงอกหักไป

ขณะที่ตำแหน่งอื่นๆ ของพรรคพลังประชารัฐ จะสลับเพียงเล็กน้อย เนื่องจากต้องการลดแรงกระเพื่อมที่จะเกิดขึ้นหากปรับใหญ่

ว่ากันว่า ครม. ชุดนี้อาจจะไม่ได้อยู่ยาว
เพราะมีข่าวว่า หากร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ผ่านสภาฯแล้ว และสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศไม่ดี อาจมีรายการ “ยุบสภา”

เพราะหากไปดูความเคลื่อนไหวของ “บิ๊กป้อม” ในพรรคพลังประชารัฐ ที่จัดทีมเลือกตั้ง 9 ภาค 1 กทม. ตั้งแต่ไก่โห่ไว้แล้ว ก็เหมือนการเตรียมพร้อมลงเลือกตั้งไว้แต่เนิ่นๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น