ศาลเลื่อนไต่สวนมูลฟ้องคดี “เสรีพิศุทธ์” ฟ้องหมิ่น “สิระ” กับพวก เหตุทนายความจำเลยขอเลื่อน ระบุ มีอาการป่วย เป็นหวัด มีใบรับรองแพทย์-ติดว่าความคดีแพ่งในศาลอื่น นัดอีกครั้ง 12 ต.ค.นี้
เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 801 ศาลอาญา วันนี้ (1 มิ.ย.) ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องคดี อ.504/2563 ที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย และ ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันเเละปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสิริ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ และ นสพ.คมชัดลึก มีเดีย จำกัด เป็นจำเลย ที่ 1-2 ในความผิดฐาน ร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2562 จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันหมิ่นประมาทโจทก์ โดย นายสิริ จำเลยที่ 1 เป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และเป็นคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า “ในฐานะที่เป็นหนึ่งในกรรมาธิการชุดนี้ ไม่เคยทราบเรื่องที่จะเชิญอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ มาให้ข้อมูลแต่อย่างใด เพราะที่ประชุมไม่เคยมีมติในเรื่องดังกล่าว อีกทั้งเห็นว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ควรหยุดใช้กรรมาธิการ เป็นเครื่องมือแก้แต้มส่วนตัวได้แล้ว...” จำเลยที่ 1 นำเอาข้อความดังกล่าวไปเผยแพร่ทางเว็บไซต์ โดยระบุหัวข้อว่า “สิระ” จวก “เสรีพิศุทธ์” มั่วมติ กมธ.ป.ป.ช. ปมเชิญ “มาร์ค” ให้ข้อมูลถวายสัตย์ฯไม่ครบ..” มีลักษณะเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ซ้ำเติมอีก เป็นการร่วมกันหมิ่นประมาทโจทก์โดยการโฆษณา ทำให้เสียหายต่อชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี ขาดความเชื่อถือศรัทธา ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เหตุเกิดที่ กทม.และทั่วราชอาณาจักร
ในวันนี้ เสมียนทนายความโจทก์และเสมียนทนายความจำเลยทั้ง 2 มาศาล
เมื่อถึงเวลานัดปรากฏว่า ทนายความนายสิระ จำเลยที่ 1 ได้มอบฉันทะให้เสมียนทนายความยื่นคำร้องต่อศาลขอเลื่อนการไต่สวนอ้างว่า ทนายความจำเลยที่ 1 มีอาการป่วย เป็นหวัด ไอ เจ็บคอ จึงไม่สามารถซักค้านการไต่สวนของโจทก์ในวันนี้ได้ พร้อมแนบใบรับรองแพทย์ ขณะที่ทนายความจำเลยที่ 2 มอบฉันทะให้เสมียนทนายความยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี อ้างว่า ทนายความจำเลยที่ 2 ติดว่าความคดีแพ่งของศาลพระโขนง ซึ่งนัดไว้ก่อนแล้ว ส่วนทนายความโจทก์ไม่คัดค้าน
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า กรณีมีเหตุสมควรจึงอนุญาตให้เลื่อนคดี เพื่อนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในวันที่ 12 ต.ค.นี้ เวลา 09.30 น.