xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : สภาฯ ร้อน เปิดฉากแก้ รธน.จองกฐินซักฟอกเดือนธันวาฯ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 29 ตุลาคม 2562 ตอน สภาฯ ร้อน เปิดฉากแก้ รธน.จองกฐินซักฟอกเดือนธันวาฯ



ความร้อนระอุของการเมือง จะกลับมาอีกครั้ง หลังการเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฏร ตั้งแต่  วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า 2563 รวมเวลาร่วมสี่เดือน

ช่วงก่อนสิ้นปีนี้ ประเด็นน่าสนใจที่ต่อคิวรออยู่แน่ๆ คือเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ตามปฏิทินของสภาฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฏร จะมีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยที่ ส.ส.ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านพร้อมใจกันร่วมลงชื่อเสนอญัตตินี้

คาดกันว่า หลังเปิดประชุมสภาฯ ไม่เกินสองสัปดาห์ ญัตติตั้งกรรมาธิการมาศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ประชุมสภาฯ ก็น่าจะพิจารณาญัตติดังกล่าวได้ เพราะก่อนหน้านี้ ที่ประชุมสภาฯ ลงมติด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ทั้ง ส.ส.รัฐบาลและฝ่ายค้าน

ให้เสนอญัตติดังกล่าวขึ้นมาเป็นญัตติที่อยู่ในระเบียบวาระการประชุมสภาฯเรื่องแรก

ที่หมายถึงพอถึงวันประชุมสภาฯจะอภิปรายถกเถียงและลงมติตั้งกรรมาธิการกันเลย เพื่อให้ไปศึกษามาว่าสมควรแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ และหากจะแก้ จะแก้อย่างไร และทำด้วยรูปแบบใด

ซึ่งดูแล้ว กุญแจดอกแรก ก็คือ การเสนอให้แก้มาตรา 256  ที่เป็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะเพื่อปลดล็อก ให้การแก้ไข รธน.ทำได้ง่ายขึ้น

ซึ่งการเคลื่อนไหวแก้รัฐธรรมนูญ จะเริ่มเคลื่อนไหวหนักมากขึ้น กว่าช่วงที่ผ่านมาอย่างแน่นอน เพราะงานนี้ฝ่ายค้านเอาจริง
 
โดยยุทธวิธีของกลุ่มฝ่ายค้าน คือต้องการสร้างแนวร่วมกับกลุ่มการเมืองนอกรัฐสภา เพื่อใช้พลังทางสังคมเป็นอีกหนึ่งแรงในการผลักดันและกดดันรัฐบาลและวุฒิสมาชิก ให้ต้องเอาด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสมัยประชุมสภาฯ รอบนี้

ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลเอง แม้จะเขียนเรื่องการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้เป็นนโยบายเร่งด่วน ที่รัฐบาลแถลงไว้ต่อรัฐสภา จำนวน  12 ข้อ แต่หลายฝ่ายพรรคยังไม่วางใจ ในท่าทีของพรรคพลังประชารัฐและแกนนำรัฐบาลว่า จะจริงจังและเอาด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
 
อย่างไรก็ตามขณะนี้ย่อมแสดงให้เห็นว่า ถึงเวลา ที่เรื่องแก้รัฐธรรมนูญไปถึงจุดได้/เสียแล้ว ทุกฝ่ายต้องแสดงจุดยืนเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขึ้นมาให้ชัดเจนจริงๆในสมัยประชุมสภาฯ รอบนี้  ต้องจับตาดูกันต่อไป

สำหรับประเด็นร้อนอีกหนึ่งเรื่องในช่วงสมัยประชุมสภาฯรอบนี้ ก็คือ ศึกซักฟอก การยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้าน 7 พรรค ได้หารือนอกรอบกันหลายครั้งแล้ว โดยมีการกางรัฐธรรมนูญขึ้นมา พิจารณาประกอบ พบว่า แม้สมัยประชุมสภาฯ รอบนี้ จะไปสิ้นสุดเอาช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า แต่เนื่องจากรัฐธรรมนูญ มาตรา154 เขียนล็อกไว้ว่า  การเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปให้กระทําได้ปีละหนึ่งครั้ง

จึงได้ข้อสรุปว่า หากฝ่ายค้านไม่ยื่นญัตติขอซักฟอกรัฐบาล ในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปีนี้ คือพฤศจิกายนและธันวาคม แล้วจะไปยื่นเอาช่วง มกราคม หรือกุมภาพันธ์ ปีหน้า

ก็เท่ากับ ตลอดทั้งปี  2563   ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติซักฟอก รัฐบาล ไม่ได้อีกเลยตลอดทั้งปี63 หรือหากจะไปยื่นเอาตอนสมัยประชุมถัดๆไป เช่นช่วง พ.ค.ถึง ส.ค.ปี2563 ก็กินเวลาเนิ่นนานเกินไป

ถึงตอนนั้นสถานการณ์การเมืองอาจมีอะไรพลิกผัน
และที่สำคัญ ทำให้ในปีนี้  2562 ฝ่ายค้านเสียโควต้า ที่จะอภิปรายซักฟอกรัฐบาลไปเปล่าๆ

ยิ่งตอนนี้เป็นจังหวะเหมาะที่สุด เพราะว่ารัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ การยื่นซักฟอก รัฐมนตรี ย่อมทำให้ รัฐบาล และรัฐมนตรีในรัฐบาลผวา ในการที่จะได้เสียงไว้วางใจ ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง  ก็จะต้องดิ้นกันทุกทาง

โดยเฉพาะต้องมีการต่อรองกันเต็มที่ เปิดช่องให้พรรคร่วมรัฐบาล สิบกว่าพรรค ต่อรองกันจนอาจทำให้รัฐบาลเกิดแรงกระเพื่อม

 ด้วยเหตุนี้ แกนนำฝ่ายค้าน  7พรรค เลยเห็นไปในทางเดียวกันว่า ควรต้องมีการยื่นซักฟอกรัฐบาล เพื่อรักษาสิทธินี้ไว้ เพื่อเป็นการแสดงผลงานของฝ่ายค้านในสภาฯ   และตอกฝาโลง เปิดแผลรัฐบาล ตีกินทางการเมืองไปเรื่อยๆ

 จึงเป็นที่มาของการเคาะปฏิทินไว้แล้วว่า จะมีการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาล เพื่อให้ประธานสภาฯ บรรจุระเบียบวาระการอภิปราย ให้มีการอภิปรายกัน 3วัน 3คืน คือในช่วง อังคารที่ 17  ถึง พฤหัสบดีที่  19 ธันวาคมและให้มีการลงมติ ในวันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม

 เพียงแต่มีบางเรื่องที่ยังไม่ตกผลึกในตอนนี้ คือจะยื่นซักฟอกแบบไหน จะยื่นอภิปรายโดยพุ่งเป้าไปที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นตัวหลักไปเลย หรือจะอภิปราย รัฐมนตรีในรัฐบาลบางคน ตามที่ฝ่ายค้านจองกฐินไว้

เช่น พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ฝ่ายค้าน กำลังไล่เก็บข้อมูลหลายเรื่องเช่น งบประมาณ ของกระทรวงมหาดไทย จำนวน 15,800 ล้านบาท ที่อยู่ในส่วนของงบ แก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม

หลังฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตุว่า การจัดสรรงบดังกล่าว มีความผิดปกติ เช่น มีการตั้งงบประมาณให้กับพื้นที่ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลมากเป็นพิเศษ รวมถึง มีความไม่ชอบพากลในการใช้งบประมาณ หลายพื้นที่ ซึ่งพบว่า ใช้วิธีพิเศษในการอนุมัติงบประมาณให้กับผู้รับเหมา เป็นต้น

ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่า นาย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ครมว.คมนาคม แกนนำพรรคภูมิใจไทย ก็มีชื่ออยู่ในโผอันดับต้นๆ ที่ฝ่ายค้าน จองกฐิน เกี่ยวกับการบริหารงานในกระทรวงคมนาคมหลายต่อหลายเรื่อง ที่จะโดนซักฟอกกลางสภาฯ

เปิดสภา รอบนี้ มีเรื่องใหญ่สองเรื่องควบ จุดประเด็นด้วยเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ และตามมาด้วยศึกซักฟอก รัฐบาล คงทำให้ อุณหภูมิการเมืองร้อนแรงแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น