จากกรณี คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นประธาน ออกหนังสือเชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไปชี้แจง กรณีเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ทั้งที่ คณะรัฐมนตรีเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญนั้น
วานนี้ (29 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ ว่าจะไปชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯ หรือไม่ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว และเดินออกจากการให้สัมภาษณ์ไปทันที
ทั้งนี้ นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ได้ส่งหนังสือไปปยังคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ 28ต.ค.ที่ผ่านมา เมื่อถามว่า ส่วนตัวมองว่า นายกฯ ต้องไปชี้แจงด้วยตัวเอง หรือไม่ นายดิสทัต กล่าวว่า ขอดูคำชี้แจงก่อน ตนคงตอบอะไรไม่ได้ ขอให้มีความชัดเจนของกมธ. ก่อน ส่วนพรรคฝ่ายค้านมีการหยิบยก พ.ร.บ.คำสั่งเรียก พ.ศ. 2554 ขึ้นมานั้น ตนไม่ทราบ แล้วแต่ทางนู้น เพราะเขาเป็นคนหยิบยกขึ้นมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือที่ นายดิสทัต ได้ส่งหนังสือกลับไปถามความชัดเจนจากกรรมาธิการนั้น มี 2 ประเด็น คือ 1. การเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ของนายกฯ เกี่ยวข้องกับการทุจริตที่อยู่ในหน้าที่ และอำนาจของกรรมาธิการอย่างไร และ 2. การที่อ้างว่า ครม.ยังไม่สามารถเข้ารับหน้าที่ได้ เนื่องจากการถวายสัตย์ฯ ไม่ถูกต้องครบถ้วนนั้น ศาลรธน.ได้มีคำสั่งแล้วว่า ไม่รับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณา และให้เหตุผลว่า การถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อพระมหากษัตริย์ เป็นการกระทำทางการเมืองของฝ่ายบริหารกับพระมหากษัตริย์ ซึ่งไม่อยู่ในอำนาจการตรวจสอบขององค์กรตามรัฐธรรมนูญใด
ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนที่นายกฯ จะเสนอ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2563 ได้มีการเสนอ ร่าง พระราชกำหนดโอนกำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. 2562 และ ร่าง พ.ร.บ.เหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ 10 รวมไปถึง ร่าง พ.ร.บ.เหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ 10 ซึ่งสภาผู้แทนราษฎร ก็พิจารณาให้ความเห็นชอบ ร่างกฏหมายดังกล่าวโดยไม่มีการทักท้วงการทำหน้าที่ของครม. แต่อย่างใด กรณีนี้จึงขอสอบถาม เพื่อความชัดเจนจากคณะกรรมาธิการอีกครั้ง เพื่อให้การดำเนินการถูกต้องตามธรรมนูญ ข้อบังคับการประชุมสภาฯ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ คณะกรรมาธิการบางชุดของสภาฯ จะเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มาชี้แจงว่า ตนสนับสนุนให้ใครที่ได้รับเชิญ แม้กระทั่งรัฐบาลให้ความร่วมมือในการทำงานของกรรมาธิการ แต่ผู้ที่เชิญ ก็ต้องมีวุฒิภาวะในการเชิญเขามา ต้องให้เกียรติผู้รับเชิญ เพราะเขาไม่ได้เป็นลูกน้อง ไม่ใช่เชิญมาข่มขู่ คุกคาม ต้องเชิญมาตามเงื่อนไขของกฎหมาย คือให้ข้อเท็จจริงและความเห็น เพราะระบบเป็นอย่างนี้ ก็ต้องเคารพ
"การเชิญบุคคลมาชี้แจง ต้องอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรรมาธิการแต่ละชุด ไม่ใช่เชิญเปะปะ ต้องอยู่ในอำนาจหน้าที่ตัวเอง ส่วนเชิญใครนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของผู้เชิญ ส่วนผู้รับเชิญ สำหรับผมแนะนำว่า ควรให้ความร่วมมือมาชี้แจง ซึ่งท่านนายกฯ และ ผบ.ทบ. ก็อยู่ในข่ายที่สามารถเชิญมาชี้แจงได้ เพราะผมเคยกราบเรียนนายกฯว่า เวลามีอะไรในสภาฯ ก็ให้ท่านมาสภาฯ เพราะเราอยู่ในระบบนี้ ก็ต้องเคารพระบบ แต่ถ้าหน้าที่ไม่เกี่ยวกับกรรมาธิการฯ ชุดนั้นๆ ก็ไปเชิญเขามาชี้แจงไม่ได้ เพราะแต่ละชุด กำหนดบทบาทเอาไว้ในกฎหมายชัดเจน " นายชวน กล่าว
วานนี้ (29 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ ว่าจะไปชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯ หรือไม่ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว และเดินออกจากการให้สัมภาษณ์ไปทันที
ทั้งนี้ นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ได้ส่งหนังสือไปปยังคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ 28ต.ค.ที่ผ่านมา เมื่อถามว่า ส่วนตัวมองว่า นายกฯ ต้องไปชี้แจงด้วยตัวเอง หรือไม่ นายดิสทัต กล่าวว่า ขอดูคำชี้แจงก่อน ตนคงตอบอะไรไม่ได้ ขอให้มีความชัดเจนของกมธ. ก่อน ส่วนพรรคฝ่ายค้านมีการหยิบยก พ.ร.บ.คำสั่งเรียก พ.ศ. 2554 ขึ้นมานั้น ตนไม่ทราบ แล้วแต่ทางนู้น เพราะเขาเป็นคนหยิบยกขึ้นมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือที่ นายดิสทัต ได้ส่งหนังสือกลับไปถามความชัดเจนจากกรรมาธิการนั้น มี 2 ประเด็น คือ 1. การเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ของนายกฯ เกี่ยวข้องกับการทุจริตที่อยู่ในหน้าที่ และอำนาจของกรรมาธิการอย่างไร และ 2. การที่อ้างว่า ครม.ยังไม่สามารถเข้ารับหน้าที่ได้ เนื่องจากการถวายสัตย์ฯ ไม่ถูกต้องครบถ้วนนั้น ศาลรธน.ได้มีคำสั่งแล้วว่า ไม่รับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณา และให้เหตุผลว่า การถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อพระมหากษัตริย์ เป็นการกระทำทางการเมืองของฝ่ายบริหารกับพระมหากษัตริย์ ซึ่งไม่อยู่ในอำนาจการตรวจสอบขององค์กรตามรัฐธรรมนูญใด
ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนที่นายกฯ จะเสนอ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2563 ได้มีการเสนอ ร่าง พระราชกำหนดโอนกำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. 2562 และ ร่าง พ.ร.บ.เหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ 10 รวมไปถึง ร่าง พ.ร.บ.เหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ 10 ซึ่งสภาผู้แทนราษฎร ก็พิจารณาให้ความเห็นชอบ ร่างกฏหมายดังกล่าวโดยไม่มีการทักท้วงการทำหน้าที่ของครม. แต่อย่างใด กรณีนี้จึงขอสอบถาม เพื่อความชัดเจนจากคณะกรรมาธิการอีกครั้ง เพื่อให้การดำเนินการถูกต้องตามธรรมนูญ ข้อบังคับการประชุมสภาฯ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ คณะกรรมาธิการบางชุดของสภาฯ จะเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มาชี้แจงว่า ตนสนับสนุนให้ใครที่ได้รับเชิญ แม้กระทั่งรัฐบาลให้ความร่วมมือในการทำงานของกรรมาธิการ แต่ผู้ที่เชิญ ก็ต้องมีวุฒิภาวะในการเชิญเขามา ต้องให้เกียรติผู้รับเชิญ เพราะเขาไม่ได้เป็นลูกน้อง ไม่ใช่เชิญมาข่มขู่ คุกคาม ต้องเชิญมาตามเงื่อนไขของกฎหมาย คือให้ข้อเท็จจริงและความเห็น เพราะระบบเป็นอย่างนี้ ก็ต้องเคารพ
"การเชิญบุคคลมาชี้แจง ต้องอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรรมาธิการแต่ละชุด ไม่ใช่เชิญเปะปะ ต้องอยู่ในอำนาจหน้าที่ตัวเอง ส่วนเชิญใครนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของผู้เชิญ ส่วนผู้รับเชิญ สำหรับผมแนะนำว่า ควรให้ความร่วมมือมาชี้แจง ซึ่งท่านนายกฯ และ ผบ.ทบ. ก็อยู่ในข่ายที่สามารถเชิญมาชี้แจงได้ เพราะผมเคยกราบเรียนนายกฯว่า เวลามีอะไรในสภาฯ ก็ให้ท่านมาสภาฯ เพราะเราอยู่ในระบบนี้ ก็ต้องเคารพระบบ แต่ถ้าหน้าที่ไม่เกี่ยวกับกรรมาธิการฯ ชุดนั้นๆ ก็ไปเชิญเขามาชี้แจงไม่ได้ เพราะแต่ละชุด กำหนดบทบาทเอาไว้ในกฎหมายชัดเจน " นายชวน กล่าว