MGR Online - อุทธรณ์ยืนยกฟ้องตามศาลชั้นต้น “สรยุทธ-ไร่ส้ม-อดีต จนท.ทำคิวโฆษณา อสมท” ปลอมเอกสารใบคิวโฆษณารายการคุยคุ้ยข่าว ชี้อัยการฟ้องซ้ำคดีดำที่ อ.313/2558 ที่สั่งจำคุกนายสรยุทธ์ 13 ปี 4 เดือน และปรับ บ.ไร่ส้ม จำเลยที่ 2 เป็นเงิน 80,000 บาทไปแล้วก่อนหน้านี้
วันนี้ (8 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องพิจารณา 709 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีหมายเลขดำที่ อ.1748/2559 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท ไร่ส้ม จำกัด โดยนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมการผู้จัดการฯ, นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อายุ 51 ปี อดีตพิธีกรรายการเล่าข่าวชื่อดัง, น.ส.มณฑา ธีระเดช อายุ 44 ปี เจ้าหน้าที่บริษัท ไร่ส้มฯ และนางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด หรือนางชนาภา บุญโต อายุ 48 ปี อดีตพนักงานจัดทำคิวโฆษณาของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และใช้หรืออ้างเอกสารสิทธิปลอม และร่วมกันทำให้เกิดความเสียหาย
คดีนี้อัยการโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2559 สรุปว่า ประมาณกลางเดือน ก.ค. 2549 จำเลยทั้งสี่ร่วมกันนำเอกสารใบคิวโฆษณารายการคุยคุ้ยข่าว ระหว่างเดือน ม.ค.-พ.ค. 2549 จำนวน 139 แผ่น ซึ่งเป็นเอกสารสิทธิที่จำเลยร่วมกันทำปลอมขึ้น ไปใช้ยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ บมจ.อสมท จำกัด เพื่อเป็นหลักฐานในการโฆษณา และคิดค่าโฆษณาส่วนเกินในรายการคุยคุ้ยข่าว ทำให้พนักงานเจ้าหน้าที่ บมจ.อสมท หลงเชื่อว่าเอกสารใบคิวโฆษณานั้นเป็นเอกสารจริง ทำให้ บจก.ไร่ส้ม จำเลยที่ 1 ไม่ต้องเสียค่าโฆษณา หรือเสียค่าโฆษณาส่วนเกินน้อยกว่าความเป็นจริง การกระทำดังกล่าวทำให้ บมจ.อสมท ได้รับความเสียหาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าการกระทำของจำเลยที่ 1-4 ในคดีนี้เป็นความผิดตามที่ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.313/2558 ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทแล้ว จึงเป็นการฟ้องซ้ำ และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ต่อมาอัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์
ในวันนี้ อัยการโจทก์ และนายสรยุทธ จำเลยที่ 2, น.ส.มณฑา จำเลยที่ 3 นางพิชชาภา จำเลยที่ 4 มาศาลพร้อมทนายความ
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปรึกษากันแล้วมีประเด็นวินิจฉัยว่าเป็นการฟ้องซ้ำจำเลยทั้งสี่ในคดีที่ศาลอาญาเคยมีคำพิพากษาแล้วหรือไม่ เห็นว่า อัยการโจทก์ฟ้องคดีนี้ว่าจำเลยได้ปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม เพื่อจุดประสงค์ไม่ให้ บ.ไร่ส้มฯ จำเลยที่ 1 เสียค่าโฆษณาส่วนเกินหรือเสียน้อยกว่าความเป็นจริงให้แก่ผู้เสียหายนั้น พฤติการณ์จำเลยที่ใช้เอกสารปลอมนั้น ถือเป็นการกระทำกรรมเดียวกัน เจตนาเดียวกันอันเป็นการทุจริต ซึ่งศาลอาญาได้เคยมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ อ.595/2559 หรือคดีดำที่ อ.313/2558 เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2559 ให้ลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสี่แล้ว และเมื่อศาลอาญาได้มีคำพิพากษาแล้ว สิทธิในการนำคดีมาฟ้องของอัยการโจทก์ จึงระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39 (4) จึงพิพากษาให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นว่า คดีพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท ไร่ส้ม จำกัด โดยนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมการผู้จัดการฯ, นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อายุ 50 ปี อดีตพิธีกรรายการเล่าข่าวชื่อดัง, น.ส.มณฑา ธีระเดช อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่บริษัทไร่ส้มฯ และนางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด หรือนางชนาภา บุญโต อายุ 47 ปี อดีตพนักงานจัดทำคิวโฆษณาของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลยที่ 1-4 คดีที่ 2 ในความผิดฐานร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และใช้หรืออ้างเอกสารสิทธิปลอม และร่วมกันทำให้เกิดความเสียหายนั้น เป็นการฟ้องซ้ำจำเลยทั้งสี่ในคดีที่ศาลอาญา มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.313/2558 แล้ว จึงไม่รับพิจารณาคดี อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น
ขณะที่วันนี้นายสรยุทธเดินทางมาฟังคำสั่งพร้อมจำเลยอื่น โดยคดีหลักความผิด เรียก รับทรัพย์สินฯโดยมิชอบ, ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์กร, เป็นพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และสนับสนุนพนักงานกระทำผิด อันเป็นความผิด พ.ร.บ.ว่า ด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 ม.6, 8 และ 11 จากกรณีเดียวกันที่ไม่ชำระค่าโฆษณาส่วนเกินนั้น ที่ศาลชั้นต้นให้จำคุกนายสรยุทธ 13 ปี 4 เดือนนั้น คดีอยู่ระหว่างการอุทธรณ์
ด้านนายสรยุทธให้สัมภาษณ์ว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะมีเจ้าหน้าที่ อสมท ไปแก้ไขใบคิวโฆษณา และเมื่อบริษัท อสมท ขอให้บริษัท ไร่ส้ม ส่งเอกสารไปให้ตรวจสอบ ทางบริษัทฯ ก็ส่งเอกสารจริงที่ไม่ได้มีรอยลบ เป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ โดยไม่ทราบเลยว่าเจ้าหน้าที่คนนั้นมีการแก้ไขสำเนาเอกสารที่เคยส่งไปในอดีต ทั้งนี้ ยืนยันว่าการลบสำเนาดังกล่าวไม่สามารถปกปิดอะไรเลย เพราะในระบบมีเอกสารตัวจริงยืนยันอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการโฆษณาเกินนั้นขอไม่ออกความเห็นเพราะยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี
สำหรับคดีหลักฐานกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กร ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ นอกจากนี้ นายสรยุทธยังกล่าวอีกว่า ยืนยันจะมาฟังคำพิพากษา ตอนนี้ไม่ได้ทำอะไร กลับมาอยู่ กทม. ส่วนบ้านเขาใหญ่ปลูกให้แม่พัก โดยตนก็ยอมรับว่าคนติดคดีก็มีความเครียด เพราะจากแต่ก่อนเคยทำงานทุกวันปกติโดยไม่ต้องคิดอะไร แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้วก็เครียดเป็นธรรมดา
ด้านนายมนต์อนันต์ เรืองจรัส ทนายความส่วนตัว กล่าวว่า เมื่อคดีปลอมเอกสาร ศาลชั้นต้นและศาลอุธทรณ์ มีคำพิพากษายืนให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความเพราะเป็นการฟ้องซ้ำ ในทางกฎหมายก็ไม่สามารถที่จะฎีกาได้อีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางพิชชาภา อดีตพนักงานจัดทำคิวโฆษณาของ บ.อสมท, บ.ไร่ส้มฯ โดย น.ส.อังคนา วัฒนมงคลศิลป์ และ น.ส.สุกัญญา แซ่ลิ่ม ในฐานะ กก.ผจก.บจก.ไร่ส้ม, นายสรยุทธ อดีตผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง และน.ส.มณฑา เจ้าหน้าที่ บ.ไร่ส้มฯ เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานเรียก รับทรัพย์สินฯ โดยมิชอบ, ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์กร, เป็นพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และสนับสนุนพนักงานกระทำผิด อันเป็นความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 ม.6, 8 และ 11 จากกรณีเดียวกันที่ไม่ชำระค่าโฆษณาส่วนเกินนั้น ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ก.พ.59 ที่ผ่านมา ให้จำคุกนางพิชชาภา อดีตเจ้าหน้าที่ อสมท จำเลยที่ 1 รวม 6 กระทงๆ ละ 5 ปี จำคุกทั้งสิ้น 30 ปี, ปรับ บ.ไร่ส้มฯจำเลยที่ 2 รวม 6 กระทงๆ ละ 20,000 บาท จึงปรับเป็นเงิน 120,000 บาท ส่วนนายสรยุทธ อดีตผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง จำเลยที่ 3 และ น.ส.มณฑา เจ้าหน้าที่ บ.ไร่ส้มฯ จำเลยที่ 4 จำคุก 6 กระทงๆ ละ 3 ปี 4 เดือน รวมจำคุกทั้งสองคนละ 20 ปี แต่ทางนำสืบเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา เห็นควรลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกนางพิชชาภา จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 20 ปี ส่วนนายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา จำเลยที่ 3-4 จำคุกคนละ 13 ปี 4 เดือน และปรับ บ.ไร่ส้ม จำเลยที่ 2 เป็นเงิน 80,000 บาท
โดยจำเลยทั้งหมดได้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์สู้คดีคนละ 2 ล้านบาท คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาชั้นศาลอุทธรณ์