ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีสรยุทธยักยอกเงินโฆษณา อสมท 138 ล้าน วันนี้ (29 ส.ค.) หลังศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 13 ปี 4 เดือน
รายงานข่าวแจ้งว่า เช้าวันนี้ (29 ส.ค.) ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีที่ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตผู้ดำเนินรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ร่วมกับ นางสาวมณฑา ธีระเดช เจ้าหน้าที่บริษัท ไร่ส้ม จำกัด และ นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด หรือ นางชนาภา บุญโต อดีตพนักงานจัดทำคิวโฆษณา บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ร่วมกันยักยอกเงินค่าโฆษณาเกินเวลาในรายการคุยคุ้ยข่าว ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี จำนวนกว่า 138 ล้านบาท ในเวลา 09.00 น. หลังศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก นายสรยุทธ พร้อม นางสาวมณฑา ธีระเดช ในฐานะผู้บริหารบริษัทไร่ส้ม คนละ 13 ปี 4 เดือน และนางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด อดีตพนักงานบริษัท อสมท 20 ปี แต่ นายสรยุทธ ใช้เงินสด 2 ล้านบาท ยื่นประกันตัวระหว่างรออุทธรณ์คดี และภายหลังมีการโอนสำนวนไปยังศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
สำหรับคดีนี้ สืบเนื่องจากบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้ทำสัญญาว่าจ้างนายสรยุทธให้ทำหน้าที่พิธีกรในรายการถึงลูกถึงคน เมื่อปี 2546 ต่อมาปี 2548 นายสรยุทธ ได้ตั้ง บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการและทำสัญญาร่วมผลิตรายการคุยคุ้ยข่าวกับ อสมท ตกลงแบ่งเวลาโฆษณาให้บริษัท ไร่ส้ม ครั้งละ 5 นาที หากโฆษณาเกินกว่ากำหนดจะต้องชำระค่าโฆษณาเกินเวลาในอัตรานาทีละไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท
ปี 2549 มีการตรวจสอบพบว่าบริษัท ไร่ส้ม โฆษณาเกินเวลา แต่ไม่ชำระค่าโฆษณา รวมมูลค่ากว่า 138 ล้านบาท อสมท จึงมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง จนพบว่า นางพิชชาภา ซึ่งเป็นผู้จัดคิวโฆษณาได้ลบคิวโฆษณาเกินเวลาเพื่อปกปิดความผิดให้ เนื่องจากได้รับค่าตอบแทนจากบริษัทไร่ส้ม เป็นผลให้บริษัทไร่ส้มต้องชำระเงินค่าโฆษณาส่วนเกินให้ อสมท กว่า 152 ล้านบาท จากนั้น ได้มีการยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้ามาตรวจสอบ
กระทั่งปี 2555 ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 ชี้มูลว่า นางพิชชาภา ทำผิดทางวินัยร้ายแรงและมีความผิดทางอาญา ส่วน นายสรยุทธ นางสาวมณฑา และ บริษัท ไร่ส้ม มีความผิดทางอาญา ฐานสนับสนุนพนักงานกระทำความผิด โดยอัยการโจทก์ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2558 และศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2559 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หลังศาลพิพากษาจำคุก สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยจับมือสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ยุติบทบาทนายสรยุทธชั่วคราวจนกว่าคดีจะถึงที่สุด เพื่อสร้างบรรทัดฐานด้านจริยธรรมให้กับวงการสื่อ ซึ่งนายสรยุทธได้ยุติจัดรายการโทรทัศน์ไปเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2559 เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับช่อง 3 และเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย
