**เรื่องคดีทุจริตยังไม่จบ หลังจากศาลพิพากษาจำคุกจำเลยคดีทุจริตระบายข้าวจีทูจีเก๊ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ 42 ปี และนายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์36 ปี รวมทั้งสั่งจำคุกพวกแก๊งเสี่ยเปี๋ยง อภิชาติ จันทร์สกุลพร เกือบ20 คน
แต่สำหรับคดียิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ปล่อยให้มีการทุจริต จำเลยหนีฟังคำพิพากษา อ้างน้ำในหู ไม่เท่ากัน ศาลยังไม่อ่าน ออกหมายจับยิ่งลักษณ์ และนัดใหม่วันที่ 27 กันยายน ในวันนั้นจะจับตัวยิ่งลักษณ์ได้หรือไม่ได้ ศาลจะอ่านคำพิพากษาอย่างแน่นอน
ทีนี้ก็จะชัดเจนว่า นโยบายจำนำข้าวที่อ้างเป็นนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ คิดขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือชาวนาและเกษตรกร หรือแท้จริงแล้วเป็นโยบายที่คิดขึ้นเพื่อหารับประทาน ของพวกอ้างตัวเป็นผู้นิยมและเชื่อมั่นในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย
แท้จริงแล้วคือเป็นพวกประชาธิปไตยจอมปลอม หรือว่าเป็นพวก "ลัทธิฉวยโอกาส"กันแน่ ด้วยการหลอกลวงประชาชนผ่านการเลือกตั้ง ชนะเข้ามาเป็นรัฐบาล แล้วใช้อำนาจหาประโยชน์ให้กับตัวเอง ทั้งการฉ้อโกงทุจริตตามน้ำและคอร์รัปชันเชิงนโยบาย
อย่างไรก็ตาม เดือนนี้ถือว่าเป็นเดือนแแห่งการจับคนโกงเข้าคุก เหลืออีก 4 วัน จะสิ้นสุดเดือนสิงหาคม แต่คดีความที่เกี่ยวกับการทุจริต การใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ยังมีทยอยให้ลุ้นต่อในช่วง 4 วันสุดท้าย ก่อนสิ้นเดือน และล้วนเป็นคดีน่าสนใจด้วย
**คดีแรกคือ คดีของ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีต รมว.มหาดไทย และ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องจากที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ซึ่งถือเป็นมหากาพย์คดีความกันมาหลายปี
ในวันนี้ (29 สิงหาคม) ศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้นัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ จากกรณีสมัยเป็น รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อปี 2544
ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 157
สืบเนื่องจากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด กรณีเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินให้ยกเลิกโฉนดที่ดินที่จดทะเบียนในนาม ‘สนามกอล์ฟอัลไพน์’ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมิชอบ
จากการที่ ยงยุทธ ขณะเป็นรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย ในยุค ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาไทย ใช้อำนาจทางปกครองดังกล่าว จนทำให้ ไม่มีการเพิกถอนสิทธิที่ดินดังกล่าว ทำให้การฟ้องร้องอะไรต่างๆ ต้องยุติลง
ผลที่ตามมาของการเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินครั้งนั้น ก็คือ ยงยุทธ ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการในอีกไม่กี่วัน ก็ได้เก้าอี้ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตอบแทนก่อนเกษียณอายุราชการ
** และด้วยการทำงานและผลงานเข้าตา ทักษิณ ชินวัตร ทำให้หลังจากยงยุทธ เกษียณอายุราชการ ก็ไม่ต้องอยู่บ้านเหงาๆ เพราะทักษิณ และคนในตระกูลชินวัตร ไว้วางใจ มอบตำแหน่งสำคัญๆ ให้ตลอด ทั้งงานรัฐวิสาหกิจ งานที่ปรึกษา และให้เป็นรัฐมนตรี
**จนดึงเข้ามาทำงานการเมืองเต็มตัว ชนิดส้มหล่น ได้ทั้งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย รองนายกฯ รมว.มหาดไทย แต่สุดท้าย ก็ถูกเฉดหัวทิ้ง หลังโดนป ป ช.ชี้มูลในคดีดังกล่าว จนต้องถูกบีบให้ทิ้งเก้าอี้ ทั้งหมด
นายยงยุทธ เป็นอดีตข้าราชการและนักการเมืองอีกคนหนึ่ง ทีมีบทบาทสำคัญของระบอบทักษิณ และพรรคเพื่อไทย จะมีชะตากรรมอย่างไร ต้องรอฟังผลคำพิพากษาที่จะออกมา แต่การตัดสินคดีดังกล่าว ยังเป็นแค่ศาลชั้นต้นเท่านั้น ยังมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ และฎีกาได้อีก
** ในวันเดียวกันนี้ (29 สิงหาคม) คดีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง อดีตนักเล่าข่าว ที่ตกเป็นจำเลยคดีร่วมทุจริตกับพนักงานอสมท. ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เวลา 09.00 น.
คดีนี้คือ คดีที่ศาลอาญาเคยมีคำพิพากษาก่อนหน้านี้ เมื่อ29 ก.พ.59 เป็นคดีที่ อัยการฟ้อง สรยุทธ และเจ้าหน้าที่ อสมท. รวมถึงเจ้าหน้าที่บริษัทไร่ส้มฯ เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันทุจริต จากกรณีไม่ชำระค่าโฆษณาส่วนเกินของ อสมท.
สรยุทธ ถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก13 ปี 4 เดือน และได้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์สู้คดี สุดท้ายหากศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น สรยุทธ อาจจะขอประกันตัวยากขึ้น
**สองยุทธผู้ยิ่งใหญ่เมื่อวันวาน อาจจะมาเบ๊นซ์ แต่กลับบัสหรือไม่ ก็ได้เห็นกันในวันนี้
แต่สำหรับคดียิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ปล่อยให้มีการทุจริต จำเลยหนีฟังคำพิพากษา อ้างน้ำในหู ไม่เท่ากัน ศาลยังไม่อ่าน ออกหมายจับยิ่งลักษณ์ และนัดใหม่วันที่ 27 กันยายน ในวันนั้นจะจับตัวยิ่งลักษณ์ได้หรือไม่ได้ ศาลจะอ่านคำพิพากษาอย่างแน่นอน
ทีนี้ก็จะชัดเจนว่า นโยบายจำนำข้าวที่อ้างเป็นนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ คิดขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือชาวนาและเกษตรกร หรือแท้จริงแล้วเป็นโยบายที่คิดขึ้นเพื่อหารับประทาน ของพวกอ้างตัวเป็นผู้นิยมและเชื่อมั่นในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย
แท้จริงแล้วคือเป็นพวกประชาธิปไตยจอมปลอม หรือว่าเป็นพวก "ลัทธิฉวยโอกาส"กันแน่ ด้วยการหลอกลวงประชาชนผ่านการเลือกตั้ง ชนะเข้ามาเป็นรัฐบาล แล้วใช้อำนาจหาประโยชน์ให้กับตัวเอง ทั้งการฉ้อโกงทุจริตตามน้ำและคอร์รัปชันเชิงนโยบาย
อย่างไรก็ตาม เดือนนี้ถือว่าเป็นเดือนแแห่งการจับคนโกงเข้าคุก เหลืออีก 4 วัน จะสิ้นสุดเดือนสิงหาคม แต่คดีความที่เกี่ยวกับการทุจริต การใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ยังมีทยอยให้ลุ้นต่อในช่วง 4 วันสุดท้าย ก่อนสิ้นเดือน และล้วนเป็นคดีน่าสนใจด้วย
**คดีแรกคือ คดีของ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีต รมว.มหาดไทย และ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องจากที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ซึ่งถือเป็นมหากาพย์คดีความกันมาหลายปี
ในวันนี้ (29 สิงหาคม) ศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้นัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ จากกรณีสมัยเป็น รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อปี 2544
ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 157
สืบเนื่องจากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด กรณีเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินให้ยกเลิกโฉนดที่ดินที่จดทะเบียนในนาม ‘สนามกอล์ฟอัลไพน์’ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมิชอบ
จากการที่ ยงยุทธ ขณะเป็นรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย ในยุค ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาไทย ใช้อำนาจทางปกครองดังกล่าว จนทำให้ ไม่มีการเพิกถอนสิทธิที่ดินดังกล่าว ทำให้การฟ้องร้องอะไรต่างๆ ต้องยุติลง
ผลที่ตามมาของการเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินครั้งนั้น ก็คือ ยงยุทธ ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการในอีกไม่กี่วัน ก็ได้เก้าอี้ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตอบแทนก่อนเกษียณอายุราชการ
** และด้วยการทำงานและผลงานเข้าตา ทักษิณ ชินวัตร ทำให้หลังจากยงยุทธ เกษียณอายุราชการ ก็ไม่ต้องอยู่บ้านเหงาๆ เพราะทักษิณ และคนในตระกูลชินวัตร ไว้วางใจ มอบตำแหน่งสำคัญๆ ให้ตลอด ทั้งงานรัฐวิสาหกิจ งานที่ปรึกษา และให้เป็นรัฐมนตรี
**จนดึงเข้ามาทำงานการเมืองเต็มตัว ชนิดส้มหล่น ได้ทั้งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย รองนายกฯ รมว.มหาดไทย แต่สุดท้าย ก็ถูกเฉดหัวทิ้ง หลังโดนป ป ช.ชี้มูลในคดีดังกล่าว จนต้องถูกบีบให้ทิ้งเก้าอี้ ทั้งหมด
นายยงยุทธ เป็นอดีตข้าราชการและนักการเมืองอีกคนหนึ่ง ทีมีบทบาทสำคัญของระบอบทักษิณ และพรรคเพื่อไทย จะมีชะตากรรมอย่างไร ต้องรอฟังผลคำพิพากษาที่จะออกมา แต่การตัดสินคดีดังกล่าว ยังเป็นแค่ศาลชั้นต้นเท่านั้น ยังมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ และฎีกาได้อีก
** ในวันเดียวกันนี้ (29 สิงหาคม) คดีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง อดีตนักเล่าข่าว ที่ตกเป็นจำเลยคดีร่วมทุจริตกับพนักงานอสมท. ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เวลา 09.00 น.
คดีนี้คือ คดีที่ศาลอาญาเคยมีคำพิพากษาก่อนหน้านี้ เมื่อ29 ก.พ.59 เป็นคดีที่ อัยการฟ้อง สรยุทธ และเจ้าหน้าที่ อสมท. รวมถึงเจ้าหน้าที่บริษัทไร่ส้มฯ เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันทุจริต จากกรณีไม่ชำระค่าโฆษณาส่วนเกินของ อสมท.
สรยุทธ ถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก13 ปี 4 เดือน และได้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์สู้คดี สุดท้ายหากศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น สรยุทธ อาจจะขอประกันตัวยากขึ้น
**สองยุทธผู้ยิ่งใหญ่เมื่อวันวาน อาจจะมาเบ๊นซ์ แต่กลับบัสหรือไม่ ก็ได้เห็นกันในวันนี้