MGR Online - ศาลเลื่อนตรวจพยานหลักฐานคดี “สรยุทธ-บริษัท ไร่ส้ม” กับพวก ปลอมใบคิวโฆษณารายการ “คุยคุ้ยข่าว” เสียหายกว่า 138 ล้านบาท นัดอีกครั้ง 28 พ.ย.นี้
วันนี้ 29 ส.ค.ที่ห้องพิจารณา 709 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวรจพยานหลักฐานคดีดำ ที่ อ.1748/2559 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้องบริษัท ไร่ส้ม จำกัด โดยนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมการผู้จัดการฯ อดีตพิธีกรรายการเล่าข่าวชื่อดัง, น.ส.มณฑา ธีระเดช เจ้าหน้าที่บริษัท ไร่ส้มฯ และนางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด หรือนางชนาภา บุญโต อดีตพนักงานจัดทำคิวโฆษณาของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-4 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิและใช้หรืออ้างเอกสารสิทธิปลอม และร่วมกันทำให้เกิดความเสียหาย
กรณีเมื่อเดือน ก.ค. 2549 พวกจำเลยร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิใบคิวโฆษณารายการ “คุยคุ้ยข่าว” ที่ออกอากาศทางช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ ช่วงระหว่างเดือน ม.ค.-พ.ค. 2549 รวม 139 แผ่น เพื่อเป็นหลักฐานในการโฆษณา และคิดค่าโฆษณาส่วนเกิน เพื่อให้เจ้าพนักงาน อสมท หลงเชื่อ ส่งผลให้ อสมท เสียหายกว่า 138 ล้านบาท
เมื่อถึงเวลานัด จำเลยทั้งหมดเดินทางมาศาล อย่างไรก็ตาม ผู้รับมอบฉันทะจากทนายความของนางพิชชาภาจำเลยที่ 4 ได้ขอเลื่อนการตรวจพยานหลักฐานไปก่อน เนื่องจากทนายความติดภารกิจคดีความที่ศาลอื่น และทนายความของจำเลยที่ 1-3 ขออนุญาตศาลสืบพยานลับหลังจำเลยเนื่องจากพวกจำเลยมีภารกิจอื่น และต้องประกอบอาชีพด้วย นอกจากนี้ ทนายความของจำเลยยังได้แถลงต่อศาลเกี่ยวกับคำฟ้องของอัยการโจทก์ในคดีนี้จะเป็นการฟ้องซ้ำกับคดีก่อนหน้านี้หรือไม่ กรณีการทุจริตยักยอกทรัพย์ของ อสมท เพราะเป็นความผิดกรรมเดียวกัน ศาลพิจารณาแล้เห็นว่า กรณีมีเหตุสมควรเนื่องจากทนายความของจำลยที่ 4 ไม่ได้เดินทางมา ศาลจึงเลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานคดีนี้อีกครั้ง วันที่ 28 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
ส่วนกรณีที่ทนายความจำเลยที่ 1-3 ขอสืบพยานลับหลังเนื่องจากติดภารกิจ และประกอบอาชีพ ศาลเห็นว่า คดีนี้มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี จึงอนุญาตให้สืบพยานลับหลังจำเลยได้
สำหรับกรณีที่ทนายความจำเลยแถลงต่อศาลว่า อัยการโจทก์ฟ้องคดีนี้ต่อเนื่องจากคดีที่บริษัท ไร่ส้ม ยักยอกเงินค่าโฆษณาเกินเวลาในรายการ “คุยคุ้ยข่าว” และศาลได้มีคำพิพากษาให้จำคุกนายสรยุทธ และน.ส.มณฑา คนละ 13 ปี 4 เดือน และจำคุกนางพิชชาภา 20 ปี ไปก่อนหน้านี้แล้ว ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 และฐานสนับสนุนพนักงานกระทำความผิด เป็นการฟ้องซ้ำหรือไม่นั้น ศาลจะเป็นผู้วินิจฉัยเอง โดยให้คู่ความทั้งสองฝ่ายไปร่วมตรวจสอบว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวกันกับคดีนี้หรือไม่ พร้อมส่งให้ศาลพิจารณาก่อนวันนัด 7 วัน