MGR Online - ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ จำคุก “ชาย-อานันท์ทวีป” และ “วู้ดดี้” ผู้ดำเนินรายการทีวีดัง คนละ 12 เดือน ปรับคนละ 1 หมื่น คดีหมิ่นไฮโซแชมป์ เบี้ยวค่าจัดคอนเสิร์ตปี 56 แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี “แจ็ค แฟนฉัน” โดนด้วย คุก 6 เดือน รอลงอาญาเช่นกัน
วันนี้ (26 ธ.ค.) ที่ห้องพิจารณา 913 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.1229/2556 ที่บริษัท ไซดิคทิฟ อีเลเมนท์ จำกัด และนายจิรัฏฐ์ หรือแชมป์ เพชรนันวงศ์ เป็นโจทก์ที่ 1-2 ยื่นฟ้อง นายอานันท์ทวีป หรือชาย ชยางกูร ณ อยุธยาประธานกรรมการบริหาร บริษัท อานันท์ทวีป อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด บริษัทจัดงานประชาสัมพันธ์ ,น.ส.สิริลดา ชยางกูร ณ อยุธยา น้องสาว , น.ส.เจฌิญา อภิชาตมณี , นางเพ็ญ สุขสมบูรณ์วงศ์ , นายวุฒิธร หรือวู๊ดดี้ มิลินทจินดา ผู้ดำเนินรายการ “เช้าดูวู๊ดดี้” ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ทีวี และนายเฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์ หรือ “ แจ๊ค แฟนฉัน” ผู้ดำเนินรายการร่วม เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 และ 332
โจทก์ฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 1- 6 มี.ค.2556 จำเลยที่ 1-4 ได้ส่งจดหมายเชิญสื่อมวลชนมาทำข่าว ที่จำเลยที่1 และพวกได้เข้าแจ้งความโจทก์ที่กองบังคับการกองปราบปราม โดยจำเลยทั้งสี่ ร่วมกันหมิ่นประมาทโจทก์ กล่าวหาว่า บริษัทโจทก์ที่1 จัดงานแสดงคอนเสิร์ตไม่เป็นไปตามที่โฆษณา และกล่าวหาว่า นายจิรัฎฐ์ โจทก์ที่ 2 โกงเงินค่าจ้างจัดออแกไนซ์ และประชาสัมพันธ์คอนเสิร์ต เมื่อ เดือน ธ.ค.55 และเมื่อวันที่ 8 มี.ค.56 จำเลยที่ 1 ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “เช้าดูวู๊ดดี้” โดยมีจำเลยที่ 5-6 เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งใส่ความโจทก์เบี้ยวค่าจ้างการทำประชาสัมพันธ์งานคอนเสิร์ต รวมทั้งพาดพิงน้องสาวและบิดาโจทก์ ในทางที่เสื่อมเสีย ซึ่งการกระทำของพวกจำเลยทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่น จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายและให้โฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์รายวันด้วย ชั้นพิจารณาจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธต่อสู้คดี
คดีนี้ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 23 มีมาคม 2558 ว่า การกระทำของจำเลยที่ 1-6 เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตาม ม.328 การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกระทงความผิด ให้จำคุกนายอานันท์ทวีป หรือชาย จำเลยที่ 1 รวมทั้งสิ้น 3 ปี และนายวุฒิธร หรือ วู๊ดดี้ ,นายเฉลิมพล หรือแจ๊ค จำเลยที่ 5- 6 ให้จำคุกคนละ 1 ปี โดยไม่รอการลงโทษ ส่วนจำเลยที่ 2 - 4 รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิด ให้จำคุกคนละ 1 ปี และปรับคนละ 100,000 บาท แต่เมื่อพิจารณาถึงพฤติการณ์ เป็นเพียงการรู้เห็นเป็นใจ จึงให้รอการลงโทษมีกำหนด 2 ปี นอกจากนี้ ให้จำเลยที่ 1-6 ร่วมกันโฆษณาคำพิพากษาย่อใน นสพ. เอเอสผู้จัดการรายวัน , ไทยรัฐ , เดลินิวส์และมติชน เป็นเวลา 7 วันติดต่อกันด้วย
ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลลงโทษสถานหนักโดยไม่ให้รอการลงโทษ ขณะที่จำเลยขอให้ศาลลงโทษสถานเบา
โดยในวันนี้จำเลยทั้งหมดเดินทางมาศาล ส่วนฝ่ายโจทก์มีเพียงทนายความผู้รับมอบอำนาจเดินทางมาฟังคำพิพากษา
ศาลอุทธรณ์ ตรวจสำนวนประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า โจทก์ได้จัดงานเทศกาลดนตรี มีการแสดงคอนเสิร์ต โดยว่าจ้างบริษัทของจำเลยที่ 1 เป็นผู้ร่วมจัดงาน และมีการจ่ายค่าจ้างไม่ครบตามที่ตกลงกัน จำเลย 1-4 ได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่กองบังคับการกองปราบปราม โดยมีการชูป้ายซึ่งมีรูปเป็นภาพถ่าย และตัวอักษรที่มีลักษณะชวนเชื่อว่าฝ่ายโจทก์มีการทำธุรกิจที่ไม่สุจริตและมีการฉ้อโกง พร้อมทั้งนัดสื่อมวลชนให้ไปทำข่าว เผยแพร่ไปสู่สาธารณชน อีกทั้งหลังจากนั้น นาย อานันท์ทวีป จำเลยที่ 1 ยังได้ไปออกรายการที่มี นายวุฒิธร จำเลย 5 เป็นพิธีกร และนายเฉลิมพล จำเลยที่ 5 เป็นผู้ช่วย พิธีกร และมีการพูดออกรายการที่มีลักษณะหมิ่นประมาทโดยทำเป็นกระบวนการ และใส่ความโจทก์ทำนองว่าโจทก์มีพฤติการณ์ฉ้อโกงค่าจ้างจำเลย และทำธุรกิจไม่สุจริต การกระทำของพวกจำเลยทั้งหมดเป็นการกระทำที่มีลักษณะใส่ความโจทก์ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าโจทก์มีความประพฤติที่ไม่สุจริต ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ส่วนที่จำเลยอ้างว่าเป็นการวิจารณ์โดยสุจริตนั้นศาลเห็นว่า ข้อเท็จจริงที่มีการอัดเทปบันทึกออกรายการเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่การติชมเพื่อปกป้องตัวเองหรือผลประโยชน์สาธารณะ ที่จะพ้นความรับผิดตามกฎหมาย ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่า จำเลย ทั้งหมดกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
ส่วนที่โจทก์อุทธรณ์ให้ขอลงโทษสถานหนักนั้น ศาลมองว่าแม้จำเลยจะมีความผิดฐานหมิ่นประมาทโจทก์จริง แต่ถ้าพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ที่ไม่ร้ายแรง และยังสามารถแก้ไขกลับตัวได้
อีกทั้งจำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงเห็นควรแก้โทษให้เหมาะสมกับพฤติการณ์ และให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นคนดี จึงให้จำคุกจำเลยที่ 1 รวม 2 กระทงๆ 6 เดือน และปรับกระทงละ 5,000 บาท รวมจำคุก 12 เดือน และปรับ 10,000 บาท จากเดิมศาลชั้นต้น จำคุก 3 ปีไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยที่ 2-6 ให้จำคุกคนละ 6 เดือน ปรับคนละ 5,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาคนละ 2 ปี และให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือนเป็นเวลา 4 ครั้ง และทำงานบริการสังคม 12 ชั่วโมง ส่วนที่เหลือให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ขณะที่ "ชาย" อานันท์ทวีป จำเลยที่ 1 กล่าวสั้นๆ ว่า จะฎีกาคดีอีกหรือไม่ ต้องรอปรึกษาทนายความก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ นายจิรัฏฐ์ หรือ"ไฮโซแชมป์" โจทก์ ไม่ได้เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาแต่อย่างใด คงมีเพียงทนายความรับมอบอำนาจมาศาล ขณะที่จำเลยทั้งหมดมาศาลพร้อมผู้ใกล้ชิดจำนวนหนึ่ง ซึ่งวันนี้ "หนิง" ปณิตา ธรรมวัฒนะ ดาราสาวเดินทางมาให้กำลังใจพวกจำเลยด้วย