[ชมคลิป] ย้อนรอย “แม่ประนอม” กับ “ลูกสาวคนโต” หวานชื่น ก่อนวันนี้ขื่นขม

MGR Online - เผยภาพในวันที่ “ประนอม - ศิริพร” แม่กับลูกสาวคนโตยังหวานชื่น ให้สัมภาษณ์ออกโทรทัศน์ถึงกิจการยอดขายพันล้านต่อปี เผย ลูกสาวคนโต - สามี - หลานสาว คุมด้านการตลาดและการเงิน ส่วนน้องสาวดูสูตร ก่อนวันนี้ถึงขั้นแม่ลูกแตกหัก โร่ร้องนายกฯ - สื่อ ถูกฮุบกิจการ

ข่าวศึกสายเลือดสะเทือนขวัญสถาบันครอบครัวขั้นสุด และคงยืดเยื้อต่อไป สำหรับ แม่ประนอม ตำนานน้ำพริกใส่กระปุกเจ้าแรก ๆ ของประเทศไทย ที่ออกมาร้องขอความเป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรี และศาล หลังถูกลูกสาวคนโตแท้ ๆ หลอกให้เซ็นเอกสาร และฮุบกิจการทรัพย์สินทั้งหมด กดดันจนแม่ผู้ให้กำเนิดต้องออกจากบ้าน

MGR Online พาย้อนชมอดีตที่ครอบครัว “แดงสุภา - ภาษาประเทศ” สมัยยังหวานชื่นให้สัมภาษณ์ออกรายการคัมภีร์ วิถีรวย ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2557 ทางช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ทีวี ดำเนินรายการโดย รัชนีย์ สุทธิธรรม และ กำภู ภูริภูวดล ซึ่งไปถ่ายทำถึงบริษัท พิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด

นางศิริพร แดงสุภา กรรมการผู้จัดการ ซึ่งเป็นบุตรสาวคนโต กล่าวกับผู้ดำเนินรายการว่า ตนรับช่วงดูแลกิจการด้านการตลาดและการเงินจากมารดา คือ นางประนอม แดงสุภา ขณะที่ นางประนอม ระบุว่า ขณะที่ตนถ่ายรูปลงบนฉลากน้ำพริกนั้นตนอายุ 22 ปี ขณะที่ปัจจุบันอายุเจ็บสิบกว่าปีแล้ว

“มั่นใจว่า อาชีพนี้จะต้องเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานได้ เพราะว่าคนทานแล้วมีแต่โทร.สั่งมาชม สมัยโทรศัพท์ยังหกตัวอยู่ เพราะว่าทำครั้งแรกก็ใส่ขวดเลย แล้วแม่ก็ไม่มีรถ ก็หิ้วตะกร้าไปขายตามบ้าน เริ่มด้วยเงินพันสองพันบาท เพราะว่าหอมกิโลละ 8 บาท กุ้งแห้งก็กิโลละ 10 บาท เดี๋ยวนี้กุ้งแห้งกิโลละ 600 - 700 บาท” นางประนอมกล่าว

“เริ่มแรกไปจดทะเบียนการค้าที่กระทรวงพาณิชย์ คุณพ่อมีความตั้งใจเลยว่าฉันต้องจดคำว่าตราแม่ประนอม เพราะว่าหนึ่งคุณแม่มีฝีมือทางด้านการทำอาหาร แล้วส่วนใหญ่ประเภทน้ำพริกคุณแม่จะถนัดมาก ต้องการจะสื่อให้กับผู้บริโภคได้ทราบว่า ถ้าเราผลิตสินค้าที่เป็นสินค้าประจำชาติเราแล้วต้องสื่อยังไง รู้ว่านี่มาจากฝีมือคุณแม่ประนอมนะ” นางศิริพร กล่าว พร้อมยืนยันว่า เริ่มผลิตมาตั้งแต่ พ.ศ. 2502 จนถึงปัจจุบันตราแม่ประนอมผลิตสินค้าประเภทต่าง ๆ ออกมา 60 กว่าชนิดแล้ว

“ยุคปัจจุบันจะมีการเซอร์เวย์ตลาดด้วยว่า ผู้บริโภคต้องการอะไร” นางศิริพร เสริม ขณะที่แม่ประนอมเสริมว่า ตอนนี้ให้ “อ้อย” ลูกสาวอีกคนมาช่วยดูแล พร้อมกันนั้น ยังเปิดเผยด้วยว่า (ปี 2557) ต้องผลิตน้ำพริกเผาและน้ำจิ้มไก่วันละประมาณ 10 กว่าตัน โดย น้ำพริกเผา น้ำจิ้มไก่ น้ำพริกต้มยำ สุกี้กวางตุ้ง และน้ำผัดไทยถือเป็นสินค้าขายดี 5 อันดับแรก โดยทำรายได้หลักพันล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยว่า บุตรสาวของนางศิริพรทั้ง 3 คนนั้น คนโตช่วยดูแลตลาดในประเทศ โมเดิร์นเทรด ส่วนคนกลางช่วยดูแลเรื่องตลาดต่างประเทศ ขณะที่คนเล็กยังเรียนไม่จบ ขณะที่ลูกเขยตนโต (นายสุชาติ ภาษาประเทศ) ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหาร

“เคล็ดลับของน้ำพริกแม่ประนอม คือ รสชาติที่เราเลือกของที่มีคุณภาพ สิ่งไหนที่เราทำออกไป ตัวเราเองก็ต้องทานได้ ตอนเริ่มธุรกิจ เราก็เคยท้อตอนหิ้วขาย หิ้วขายตามบ้าน กว่าจะได้ ขายจนซื้อรถได้คันนึง จ้างเด็กให้หิ้วตะกร้าไปด้วย แม่จะเดินนำ ตอนนั้นลูก ๆ ก็ยังเรียนหนังสืออยู่ เรียกได้ว่าขายน้ำพริกนี่แหละส่งลูกเรียนหนังสือ” แม่ประนอมเผย

เมื่อพิธีกรถามว่ามีแผนที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์หรือไม่ นางศิริพร กล่าวว่า เรื่องนี้มีข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือ อาจจะทำให้เป็นสากลมากขึ้น แต่การไม่เข้าก็จะยังคงความเป็นกิจการในครอบครัวไว้ได้ เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สร้างมา ซึ่งพวกตนก็อยากจะเก็บรักษาเอาไว้ ในอนาคตโลกอาจจะเปลี่ยนแปลงไปแต่ทั้งนี้ ณ ตอนนี้ (ปี 2557) ยังไม่เข้าตลาดฯ (แม่ประนอมพยักหน้า)

เมื่อเปิดเออีซีเราได้ผลประโยชน์แน่นอน โดยตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเออีซี คือ ประเทศมาเลเซีย นางศิริพร เสริม ขณะที่ แม่ประนอม ระบุว่า ตอนนี้ตนอยู่สบายแล้ว เพียงดูลูกหลานทำกิจการต่อ