xs
xsm
sm
md
lg

มองคน-มองโลก แบบ เปอร์-สุวิกรม อัมระนันทน์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เปอร์-สุวิกรม อัมระนันทน์ ดารา พิธีกร
 
เพราะเลือกที่จะเริ่มต้นด้วยการคิดดี เลือกเรียนรู้ชีวิตคนหลากหลายด้วยการนำสิ่งดีๆ มาปรับใช้ และนำสิ่งที่ไม่ใช่ เป็นอุทาหรณ์สอนชีวิต จึงไม่แปลกที่ เปอร์-สุวิกรม อัมระนันท์ สามารถยึดโยงสมองและหัวใจ ไปสู่เรื่องราวดีๆ ทำให้ทุกวินาทีของเขามีแต่ความสุขและสร้างสรรค์เรื่อยมา

 
หนุ่มหล่อหน้าใส เปอร์-สุวิกรม เป็นลูกชายคนกลางของ วุฒิพร กับ ดวงพร อัมระนันทน์ ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง ด้วยการรับบทเป็นนักแสดงนำในภาพยนตร์เรียลลิตี เรื่อง Final Score 365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์ ตั้งแต่นั้นมาชื่อของเขาก็เริ่มเป็นที่รู้จัก และโลดแล่นอยู่ในวงการมายามาโดยตลอด มีผลงานต่อเนื่อง ทั้ง แสดงภาพยนตร์, เอ็มวี และการเป็น ดีเจ ให้กับคลื่น 104.5 แฟต เรดิโอ เป็นที่ยอมรับของเด็กรุ่นใหม่

“เปอร์” เดินทางฝ่าสายฝนมาพูดคุยกับเรา ถึงมุมมองการใช้ชีวิตและความเป็นตัวตนของเขา พร้อมกับอัปเดตชีวิตการทำงานให้ฟัง โดยเริ่มต้นบอกว่า สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีวิศวกรรมโยธา จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี บางมด โดยใช้เวลาเรียนนานถึง 9 ปี กว่าจะนำมาเป็นของขวัญให้พ่อ-แม่ได้สำเร็จ ซึ่งเขาเองก็ยอมรับว่า ความรู้ตรงนั้นแม้ไม่ถูกนำใช้ในการทำงาน แต่วิศวกรรมศาสตร์ก็สอนให้เขามีกระบวนการคิดที่เป็นแบบแผนมากขึ้น

“ตอนเด็กอยากเป็นวิศวกรแบบคุณพ่อ ผมชอบกระบวนความคิดในแบบวิศวกรรม ที่เป็นระเบียบแบบแผนอย่างดี ก็เลยเลือกเรียนวิศวกรรมโยธา ไม่เคยคิดว่าจะเข้ามาในวงการบันเทิงเลยด้วยซ้ำ ไม่เคยอยากจะเป็นพิธีกร, ดีเจ แต่วันหนึ่งมีโอกาสได้เป็น ก็รู้ว่ามันใช่ตัวเรา ก็ดี เป็นประโยชน์สำหรับผม ในแง่งานพิธีกร ผมได้ประสบการณ์ คนดูก็ได้ความรู้จากผมกลับไป ผมมองว่าสื่อที่ดี คนดูก็ต้องได้รับสิ่งที่ดีตามด้วย”

 
หากจะมองการใช้ชีวิตของหนุ่มเปอร์เพียงผิวเผิน เขาก็ไม่ต่างไปจากดาราศิลปินวัยรุ่นคนอื่นๆ ที่ชื่นชอบในแฟชั่น ดนตรี และกีฬา แต่ลึกลงไปใครจะรู้ว่า หนุ่มร่างเล็กคนนี้ เป็นคนชอบค้นคว้าหาความรู้ พร้อมที่จะเก็บเกี่ยวสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะ การเรียนรู้และศึกษาคน เพื่อจะได้นำมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตที่ดีและมีคุณภาพ อย่างที่หลายคนยากจะเลียนแบบ

“ผมเชื่อว่าทุกคนมีช่วงชีวิตบนโลกใบนี้ได้เท่าๆ กัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัวเรามันเยอะมาก มีทั้งดีและไม่ดี ขึ้นอยู่ว่าเราจะมองอย่างไร ซึ่งผมมองทุกเรื่องดีหมด และพยายามตักตวงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมรู้สึกมีความสุขกับการได้ศึกษาค้นคว้าอยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นเวลาทำงาน หน้าที่ผมคือสะท้อนความคิดเห็นของแขกที่ผมเชิญมาสัมภาษณ์ เพื่อนำเสนอเรื่องราวของเขาสู่ผู้ชม ผมไม่เคยตัดสินว่าใครผิดใครถูก ผมมองทุกเรื่องเป็นข้อดีหมด และอยากให้คนดูเปิดใจในการรับรู้เรื่องราวของคนคนหนึ่งด้วยเช่นกัน ตรงนี้ผมมองว่าเป็นประโยชน์”

การสะท้อนความคิดของหนุ่มเปอร์ ทำให้เราอดรู้สึกว่า เขาเป็นผู้ใหญ่เกินตัว และมีความเป็นส่วนตัวสูงมาก ซึ่งเขาก็รีบอธิบายให้เราฟังด้วยรอยยิ้มว่า ตัวเองเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง เหมือนคนทั่วไป ไม่ได้โตไปกว่าอายุ 27 ปีที่มีอยู่ โดยทุกวันนี้เขายังไม่คิดว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ เพราะมีเรื่องราวให้ต้องศึกษาอีกมากมาย

และคงด้วยเหตุผลเหล่านี้นี่เอง ที่ทำให้วิถีชีวิตของ “เปอร์” ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังอายุน้อย

 
เมื่อถามถึงการทำงานในอนาคต เปอร์บอกว่า เวลานี้รักในงานที่ทำ โดยเฉพาะ อาชีพพิธีกร และยังไม่นึกอยากทำงานวิศวกรอย่างแน่นอน “ผมวางแผนทุกๆ ปี ทำให้ตัวเองพัฒนาขึ้น พยายามแก้ไขในจุดบกพร่อง ผมไม่ละเลยตรงนี้ จะได้ไม่ต้องมารู้สึกว่าทำไมถึงบกพร่อง วันนี้ผมพอใจในสิ่งที่ผมเป็นนะครับ งานตอนนี้ก็ลงตัวทุกอย่าง มีรายการของตัวเอง ชื่อ รายการเปอร์สเปคทีฟ เป็นรายการสัมภาษณ์เรื่องราวชีวิตของบุคคลต่างๆ ที่น่าสนใจ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ ทางช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ทีวี ออกอากาศเทปแรก 19 ก.ค.นี้ ผมไม่อาจพูดว่ารายการของผมดี แต่ผมเชื่อว่า อย่างน้อยตรงนี้จะเป็นประโยชน์กับคนดูครับ”

 
และในฐานะที่เป็นไอดอลของเด็กรุ่นใหม่หลายๆ คน ก่อนจากกัน หนุ่มเปอร์ยังฝากบอกถึงเด็กๆ ที่ชื่นชอบเขาว่า การจะทำอะไรขอให้จริงจังและมุ่งมั่น อยู่ในสังคมต้องเปิดใจรับรู้เรื่องราวต่างๆ ไม่ควรตัดสินการกระทำของใครคนใดคนหนึ่ง ว่าผิดหรือถูก ถ้าเรียนก็ต้องตั้งใจ ถามตัวเองให้ได้ว่าอยากเรียนอะไร อยากจะเป็นอะไร อยากเข้าไปอยู่ในสังคม หรือว่าไปยืนในชีวิตของตัวเอง ณ จุดไหน ถ้าคุณเข้าไปใกล้ในสิ่งที่คุณอยากเป็น ถือว่าสำเร็จแล้ว\
 
“ผมเชื่อว่าทุกการกระทำของแต่ละคน ล้วนมีเหตุผล เพียงแต่ว่าเลือกจะไปใช้อย่างไรเท่านั้นเอง”
กำลังโหลดความคิดเห็น