ASTVผู้จัดการรายวัน- “อสมท” แจงเปิดรับตำแหน่ง รอง ผอ. 4 ฝ่ายใหม่หมด เหตุถึงวาระเกษียณและปรับโครงสร้างใหม่สู้ศึกทีวีดิจิตอล ล่าสุดทุ่ม 400 ล้านบาท ขยับผังรายการไตรมาสสาม สร้างเรตติ้ง ทยอยปล่อยรายการใหม่ร่วม 10 รายการ ล่าสุดจับมือ “ทรูวิชั่นส์” ร่วมถ่ายทอดสดฟุตบอล “โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ลีก” ฤดูกาล 2015 รวม 17 แมทช์ หวังลุ้นอันดับ 5 ในตลาดทีวีรวม พร้อมเป้ารายได้ 4 พันล้านบาท
นายศิวะพร ชมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อสมท มีการปรับโครงสร้างองค์กรภายในซึ่งจะเรียบร้อยเป็นผลสำเร็จและเริ่มดำเนินงานได้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.ศกนี้เป็นต้นไป เพื่อต้องการให้ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานดีขึ้น เกิดความรวดเร็วในการทำงาน และพนักงานมีการเติบโตตามสายงาน ที่สำคัญจะช่วยให้สามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมทีวีดิจิตอลกับผู้เล่นรายอื่นๆ ได้ดียิ่งขึ้น
ล่าสุดในส่วนของการเปิดรับผู้บริหารระดับสูงในตำแหน่ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ จำนวน 4 ตำแหน่ง และจะปิดรับสมัครภายในวันที่ 21 ก.ค.ศกนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากประจวบกับเป็นช่วงเวลาการทำงานของผู้บริหาร 3 ท่านเดิมจะครบวาระเกษียณภายในเดือน ต.ค.ที่จะถึงนี้คือ 1.นางดวงใจ มหารักขกะ 2.นายสนามชัย กำจร 3.นางนิ่มอนงค์ เย็นสบาย ขณะที่คนที่ 4. คือ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ได้ออกไปรับตำแหน่งใหม่เป็น ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เมื่อช่วงเวลาที่ผ่านมา ดังนั้นการรับสมัครผู้บริหารระดับสูงครั้งนี้จึงเป็นไปตามวาระ ไม่ได้มีนัยสำคัญอะไร
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ พร้อมใช้งบประมาณกว่า 300-400 ล้านบาท เพื่อลงทุนด้านคอนเทนต์ในครึ่งปีหลังให้ดีขึ้น โดยจะมีรายการใหม่เข้ามาไม่ต่ำกว่า 10 รายการในผังรายการใหม่ช่วงปลายไตรมาสสาม ล่าสุดจับมือกับ “ทรูวิชั่นส์” ในการร่วมถ่ายทอดสดฟุตบอล “โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ลีก” ฤดูกาล 2015 รวม 17 แมทช์ ทุกวันเสาร์ เวลา 18.20 น. ประเดิมแมตช์แรก “ทีโอที เอสซี” ปะทะ “เชียงราย ยูไนเต็ด”ในวันเสาร์ที่ 11 ก.ค.ศกนี้ ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี และ MCOT HD ช่อง 30 พร้อมสามารถเกาะติดความเคลื่อนไหวกันได้ทาง F.M. 99 Active Radio อีกช่องทางหนึ่ง
“ที่ผ่านมา อสมท เคยมีคอนเทนต์กีฬาดังๆ หลายรายการแต่ก็หายไปช่วงหนึ่ง การเป็นผู้ร่วมถ่ายทอดสดไทย พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015 ครั้งนี้จะเป็นคอนเทนต์กีฬาที่น่าจะเข้าถึงกลุ่มผู้ชมคนไทยและสร้างเรตติ้งให้ อสมท ได้ดีขึ้น ซึ่งเวลาในการถ่ายทอดสดถือเป็นเวลาไพร์มไทม์ที่ดีมาก ทุกเย็นวันเสาร์เวลา 18.20น. จากปกติช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นเวลาของซิทคอม นัดกับนัด ที่มีราคาโฆษณาอยู่ที่ 1.5-2 แสนบาทต่อนาที”
ขณะที่ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นลักษณะของการแบ่งรายได้ร่วมกันในสัดส่วน 50% ทั้งนี้ อสมท ยังสามารถหารายได้เพิ่มจากไท-อินรายการร่วมสื่อวิทยุที่ร่วมถ่ายทอดสดอีกทางหนึ่งด้วย ดังนั้นจึงยังไม่สามารถตอบได้ว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะสามารถสร้างรายได้เท่าใด
นอกจากนี้ในช่วง 2 สัปดาห์ที่จะถึงนี้จะมีการเปิดตัวอีก 2 คอนเท้นท์คือ ซีรีส์จีน ที่จะออกอากาศในช่วงเย็นวันเสาร์-อาทิตย์ก่อนเวลา 18.00 น. และรายการสารคดีชั้นนำจากผู้ผลิตระดับโลกที่จะออกอากาศในคืนวันอาทิตย์ช่วง 22.00 น.เป็นต้นไป หลังจากนั้นจะมีรายการใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่องรวมแล้วนับ 10 รายการซึ่งมีทั้งจากผู้ผลิตรายการเดิม, รายใหม่, ผลิตเอง และการซื้อคอนเทนต์ โดยจะมีการปรับเวลาลงรายการใหม่ให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น ซึ่งผังรายการใหม่ครั้งนี้เบื้องต้นมีเพียงซิทคอม “นัดกับนัด” ของ “ซีเนริโอ” รายการเดียวที่หมดสัญญาลง
นายศิวะพร กล่าวต่อว่า ภาพรวมรายการของ “โมเดิร์นไนน์” ขณะนี้พบว่ามีเรตติ้งดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น รายการข่าว, รายการ “งานวัด เฟสติวัล” และรายการ “STEP RIGHT UP ใครเก่ง...ใครได้” เป็นต้น โดยในอนาคตบริษัทฯ จะมุ่งผลิตคอนเทนต์เองมากขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ 55% กับการผลิตรายการข่าว และรายการไนน์เอ็นเตอร์เทนท์เป็นหลัก ปีหน้าจะเพิ่มเป็น 65% โดยจะเพิ่มการผลิตละคร เกมโชว์ และวาไรตี้ โดยเชื่อว่าสถานการณ์ครึ่งปีหลังทีวีดิจิตอลจะเข้มข้นขึ้นหลังมีการชำระค่าสัญญาครั้งที่ 2 ทำให้คาดว่าจะมีการลงทุนด้านคอนเทนต์ใหม่ๆ และการปรับตัวจะชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในส่วนของ “ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์” มั่นใจว่าถึงสิ้นปีจะยังคงรั้งอันดับ 5 ในอุตสาหกรรมทีวีรวมไว้ได้ และมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านบาทตามแผนที่วางไว้