MGR Online - “บิ๊กต๊อก” จัดประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านยาเสพติด ครั้งที่ 37 จำนวน 10 ประเทศ เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการอาเซียนฉบับใหม่ 10 ปี
วันนี้ (24 ส.ค.) เวลา 09.00 น. โรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน กรุงเทพฯ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านยาเสพติด ครั้งที่ 37 เพื่อติดตามผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา ทั้งด้านการป้องกัน ด้านการปราบปราม ด้านการบำบัดและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ด้านการวิจัย และด้านการพัฒนาทางเลือก รวมถึงการพิจารณาและรับรองแผนปฏิบัติการอาเซียนฉบับใหม่ 10 ปี (พ.ศ. 2559-2568) และการพัฒนาความร่วมมือแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างใกล้ชิดระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียน และประเทศกลุ่มอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา
โดยมีนายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส.เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม พร้อมด้วย ตัวแทนจากหน่วยงานยาเสพติดภูมิภาคอาเซียน 10 ประเทศ รวมทั้งประเทศคู่เจรจา เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย และสำนักเลขาธิการอาเซียน สำนักงานยาเสพติดและอาชญกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) หน่วยงานกลางด้านปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา (DEA) สำนักงานตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลีย (AFP) กองพิทักษ์เขตแดนออสเตรเลีย (ABF) เข้าร่วม
พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในอดีตของภูมิภาคอาเซียนที่มีอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลักลอบผลิต ลักลอบลำเลียง และการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำได้สร้างผลกระทบต่อประเทศในแถบภูมิภาคอาเซียน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือด้านยาเสพติดในการส่งเสริมและสนับสนุนมาตรการความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด โดยประกาศเจตนารมณ์และเป้าหมายร่วมกันในการเป็นเขตปลอดยาเสพติด พร้อมให้คำนิยามไว้ว่าทุกประเทศในอาเซียนจะต้องประสบความสำเร็จในการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติด รวมทั้งมีเป้าหมายลดพื้นที่ปลูกยาเสพติด ลดการลักลอบค้า การแพร่ระบาด และยกระดับปัญหายาเสพติดจากวาระแห่งชาติให้เป็นวาระแห่งภูมิภาค พร้อมกำหนดให้มีการจัดประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านยาเสพติดขึ้นเป็นประจำทุกปี รวมถึงจะมีการนำเสนอผลการประชุมในครั้งนี้ต่อที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านยาเสพติด ครั้งที่ 5 ที่ประเทศสิงคโปร์ในเดือน ต.ค. 2559 เพื่อให้มีการรับรองและประกาศใช้
พล.อ.ไพบูลย์กล่าวอีกว่า สำหรับวัตถุประสงค์การประชุมครั้งนี้เพื่อติดตามผลความคืบหน้าในการดำเนินงานด้านยาเสพติดของแต่ละประเทศและระหว่างประเทศ เสริมสร้างความร่วมมือและแสวงหามาตรการร่วมกันในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ช่วยเหลือสนับสนุนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในด้านต่างๆ เช่น การสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ให้แก่ประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่ขาดแคลนทรัพยากรสำหรับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตลอดจนส่งเสริมแนวทางการพัฒนาทางเลือกตามศาสตร์พระราชา ส่งเสริมการปลูกพืชเศรษฐกิจ การพัฒนาทักษะอาชีพ การพัฒนาคุณภาพชีวิตประชากรของประเทศในกลุ่มอาเซียน
“ส่วนเรื่องที่เป็นข้อเรียกร้องของประเทศไทยก็คือเรื่องการควบคุมและการแก้ไขปัญหาในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ เนื่องจากที่ผ่านมากลุ่มประเทศอาเซียนไม่เคยเขียนเรื่องนี้ในแผนปฏิบัติการเลย อีกทั้งผมมองว่าไม่ควรปล่อยให้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำเป็นเรื่องเฉพาะของประเทศพม่ากับลาวเท่านั้นแต่ควรมองเป็นปัญหาร่วมกันของประเทศภูมิภาคอาเซียน เพราะบริเวณสามเหลี่ยมทองคำเป็น 1 ใน 3 ของโลกที่เป็นแหล่งสร้างปัญหาให้แก่โลกในเรื่องยาเสพติด โดยเฉพาะเมทแอมเฟตามีน จึงได้เรียกร้องให้แต่ละประเทศหันมาร่วมมือกันอย่างจริงจัง” รมว.ยุติธรรมกล่าว
