MGR Online - รมว.ยุติธรรมประชุมร่วมมือ 7 ฝ่าย ประเทศลุ่มแม่น้ำ แก้ไขปัญหาลักลอบขนยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ เชื่อการร่วมมือครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จในการปราบปราม
วันนี้ (23 พ.ค.) โรงแรมดุสิตธานี กระบี่ บีช รีสอร์ท จ.กระบี่ พล.อ. ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิด “การประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ (MOU) 7 ฝ่าย ว่าด้วยการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาค” ได้แก่ ประเทศจีน ลาว พม่า ไทย เวียดนาม กัมพูชา และ UNODC โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของแต่ละประเทศและหน่วยงาน เข้าร่วมการประชุม
พล.อ.ไพบูลย์ได้กล่าวขอบคุณสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ที่ได้ริเริ่มการทำงานแก้ไขปัญหายาเสพติดในระดับอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2536 และได้ทำหน้าที่เป็นแกนกลางขับเคลื่อนกลไกความร่วมมือนี้ให้เกิดผลประจักษ์ โดยเห็นว่า UNODC และประเทศในอนุภูมิภาคควรมองปัญหาแบบองค์รวม คือมุ่งเป้าหมายและระดมสรรพกำลังไปสู่การแก้ไขปัญหาในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำเป็นหลัก เนื่องจากยังคงเป็นแหล่งที่มีการลักลอบผลิตยาเสพติดที่ส่งผลกระทบต่อประเทศในอนุภูมิภาคและภูมิภาค ควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาในระดับประเทศของแต่ละประเทศ และนอกเหนือจากการทำงานในกรอบ MOU 7 ฝ่ายแล้ว ประเทศภาคียังได้มีการทำงานร่วมกันใน "แผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย" ซึ่งริเริ่มโดยสาธารณรัฐประชาชนจีน ในปี พ.ศ. 2556 เพื่อมุ่งสร้างให้พื้นที่ลำน้ำโขงและพื้นที่ใกล้เคียงปลอดภัยจากการลักลอบขนส่งยาเสพติด
พล.อ.ไพบูลย์กล่าวอีกว่า การปฏิบัติการในระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ของ 4 ประเทศคือ จีน ลาว เมียนมา และไทย ประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง และในปี พ.ศ. 2559 นี้ ได้มีการขยายความร่วมมือให้ครอบคลุมประเทศเวียดนามและกัมพูชา ตามแผนปฏิบัติการระยะ 3 ปีของโครงการ ซึ่งด้วยข้อมูลการข่าวที่รวดเร็วและเป็นปัจจุบัน ทำให้การทำงานเป็นทีมของทั้ง 6 ประเทศ ได้ผลดีมากและเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งให้กับประเทศในภูมิภาคอื่นที่ประสบปัญหายาเสพติดได้ใช้รูปแบบของโครงการแม่น้ำโขงปลอดภัยในการทำงานร่วมกัน โดยปัจจุบันได้มีการขยายขอบข่ายการดำเนินงานไปสู่มิติอื่น เช่น การพัฒนาทางเลือก การลดอุปสงค์ยาเสพติด ฯลฯ ซึ่งการดำเนินงานทั้งภายใต้กรอบ MOU 7 ฝ่ายฯ และตามแผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย ล้วนมีความเชื่อมโยง และเป็นส่วนเสริมซึ่งกันและกัน ให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดในอนุภูมิภาคประสบผลสำเร็จ
“การประชุมในครั้งนี้เป็นการแสดงออกถึงความร่วมมืออย่างเหนียวแน่นและปณิธานอันแรงกล้าของประเทศภาคีสมาชิกบันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่าย อันประกอบด้วย จีน ลาว พม่า ไทย เวียดนาม กัมพูชา และ UNODC ที่ต้องการขจัดภัยคุกคามจากยาเสพติดให้หมดไปจากอนุภูมิภาคนี้ โดยผู้แทนระดับสูงจากหน่วยงานกลางด้านยาเสพติดของแต่ละประเทศ นำโดยนายณรงค์ รัตนานุกูล เลขาธิการ ป.ป.ส.จะมาร่วมกันทบทวนสถานการณ์และหามาตรการแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ ผ่านการดำเนินกิจกรรมตามแผนปฏิบัติการ ว่าด้วยการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (Greater Mekong Sub-regional Action Plan - SAP) ฉบับที่ 7 โดยมีกิจกรรมที่ประเทศไทยจะให้การสนับสนุนในปี 2559 ได้แก่ การส่งเสริมศักยภาพผู้ปฏิบัติงานสำนักงานประสานงานชายแดน (BLO) การตรวจพิสูจน์ยาเสพติด การเฝ้าระวังการเบี่ยงเบนสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ รวมถึงการสำรวจเส้นทางที่มีความเสี่ยงต่อการลักลอบขนยาเสพติด” พล.อ.ไพบูลย์กล่าว