MGR Online - "กรมบังคับคดี" แถลงข่าวการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการล้มละลายข้ามชาติ และ งานสานพลัง SMEs พลิกฟื้นยืนได้ ใส่ใจผู้ประกอบการ
วันนี้ (20 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. ชั้น 1 ศูนย์บังคับคดีล้มละลายส่วนหน้า อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี พร้อมด้วย นางศศิวิมล ธนศานติ น.ส.รัตนาวดี สมบูรณ์ และ นายทรงธรรม พูนเกษมทรัพย์ รองอธิบดีกรมบังคับคดี ร่วมแถลงข่าวการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการล้มละลายข้ามชาติ และการจัดงาน “สานพลัง SMEs พลิกฟื้นยืนได้ ใส่ใจผู้ประกอบการ”
น.ส.รื่นวดี เปิดเผย กรมบังคับคดี ขอแถลงข่าว 2 เรื่อง ดังนี้ เรื่องที่ 1 การประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการล้มละลายข้ามชาติ โดย กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม และคณะกรรมาธิการสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายการค้าระหว่างประเทศเป็นเจ้าภาพร่วม ในโครงการเจ้าหน้าที่ทางด้านกฎหมายภาครัฐอาเซียน ข้อหัวการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการล้มละลายข้ามชาติ ระหว่างวันที่ 22-25 มิ.ย. ณ โรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพมหานคร ซึ่งการประชุมครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เป็นประธานในพิธีและกล่าวเปิดการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการล้มละลายข้ามชาติ ในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ เวลา 13.30 น.
น.ส.รื่นวดี กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดประชุมดังกล่าว มีการปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “การล้มละลายข้ามชาติในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” โดย ศาสตราจารย์ ชาร์ลส์ ดี บูธ ผอ.ศูนย์กฎหมายธุรกิจเอเชียแปซิฟิก คณะนิติศาสตร์ ม.ฮาวาย วิทยาเขตมาโนอา นอกจากนี้ จะมีการสัมมนาในประเด็นและหัวข้อที่สำคัญคือ 1.หัวข้อ “แนวโน้มในปัจจุบันของการล้มละลายข้ามชาติ” โดยจะแสดงคิดเห็นและแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องของแนวโน้มหรือกระแสปัจจุบันของคดีล้มละลายข้ามชาติทั้งจากมุมมองระดับภายในประเทศ ภูมิภาคและระดับสากล อีกทั้ง อภิปรายลงลึกในรายละเอียดเกี่ยวกับความท้าทายและทางแก้ไขในเรื่องต่างๆ
น.ส.รื่นวดี กล่าวต่อว่า 2.หัวข้อ “ความเชื่อมโยงระหว่างกฎหมายล้มละลายและกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ” โดยผู้อภิปรายจะบรรยายเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างกฎหมายล้มละลายและกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ และผลกระทบของความเชื่อมโยงดังกล่าวต่อสิทธิของเจ้าหนี้และลูกหนี้ในระบบเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้ง ประเด็นความท้าทายภายใต้ภูมิทัศน์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่พัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศและในประเทศ
น.ส.รื่นวดี กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องที่ 2 งาน “สานพลัง SMEs พลิกฟื้นยืนได้ ใส่ใจผู้ประกอบการ” กรมบังคับคดี ได้ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SMEs Bank) กำหนดจัดงาน ในที่ 27 มิ.ย. ณ ห้อง Plenary Hall 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยภายในมีการเปิดคลินิกให้คำปรึกษากฎหมาย การให้ความรู้ด้านกฎหมายฟื้นฟูกิจการ การทำแผนฟื้นฟูกิจการ การปรับโครงสร้างหนี้ การปรับแผนธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถ SMEs โครงการเงินทุนพลิกฟื้น
“การจัดงานดังกล่าวเพื่อเป็นการเสริมสร้างความรับรู้ให้กับธุรกิจ SMEs เรื่อง การฟื้นฟูกิจการของธุรกิจ SMEs ตามพ.ร.บ.ล้มละลาย (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2559 (การฟื้นฟูกิจการของ SMEs) ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2559 และเป็นครั้งที่แรกที่เปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการธุรกิจ (SMEs) ที่เป็นบุคคลธรรมดา คณะบุคคล ห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนจำกัดที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้และเป็นหนี้ที่เกิดจากการประกอบกิจการ สามารถยื่นขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลได้ โดยมีแผนฟื้นฟูกิจการสำเร็จรูปกรณีลูกหนี้ที่เป็นบุคคลธรรมดาต้องมีหนี้ไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาทหรือนิติบุคคลอื่นตามกฎหมาย มีจำนวนนี้ไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท บริษัทจำกัด ต้องมีจำนวนหนี้ไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาทแต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท” ” อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าว
น.ส.รื่นวดี กล่าวปิดท้ายว่า พ.ร.บ.ดังกล่าว นับว่าเป็นอีกกลไกหนึ่งที่สำคัญและเป็นทางเลือกของ SMEs ในการจัดการแก้ปัญหาหนี้สิน โดยนำกระบวนการฟื้นฟูกิจการมาช่วย SMEs ซึ่งมีขั้นตอนในการดำเนินการที่สะดวก รวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย เรื่องจาก SMEs มีอยู่เป็นจำนวนมากและเป็นฐานรากในระบบเศรษฐกิจของประเทศหาก SMEs ได้รับการฟื้นฟูกิจการจะเป็นกลไกในการเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศ ให้มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนต่อไป