ยกระดับเพิ่มตำแหน่ง“นายพัน” เหมาเข่งเก้าอี้สีกากีแก้“ตั๋วล้น”

การเพิ่มเก้าอี้ตามโรงพักต่างๆตามมาด้วย โดยโรงพักทั้ง 144 แห่ง ก็จะมี ผกก. ใหม่ 144 ราย จะมี รองผู้กำกับ สารวัตร เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนการเป็นโรงพักที่มีระดับ ผกก. เป็นหัวหน้าสถานี เช่นเดียวกับการเพิ่มตำแหน่งรอง ผบก. 34ตำแหน่ง ก็จะทำให้ ผกก.ขยับขึ้น 34 คน รองผกก. และสว.ก็ต้องขยับตามกันไปเป็นแท่ง

ดูท่ากระแสข่าวลือภายในแวดวง”สีกากี” ถึงชนวนเหตุ การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับ “นายพัน” เก้าอี้ “สารวัตร(สว.)-รองผู้บังคับการ(รองผบก.)” ประจำปี 2558 ที่ต้องเลื่อนแล้วเลื่อนอีกถึง 4 รอบ จนล่าสุดคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ขยายเวลาออกไปใหม่ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2559 มาจาก “ตั๋วล้นเก้าอี้” น่าจะมีเค้าลางความเป็นจริงเสียแล้วแม้”บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่กรมปทุมวัน เคยให้เหตุผลเอาไว้ตั้งแต่ทำบันทึกข้อความส่งไปถึง ผบช.หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผบก.หรือตำแหน่งเทียบเท่า ในสังกัด สง.ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ให้ทุกหน่วยชะลอการแต่งตั้งตำรวจระดับ สว.-รองผบก. วาระประจำปี 2558 ออกไปก่อน หลังจากมีหนังสือลงวันที่ 28 ม.ค.2559 แจ้งแนวทางการแต่งตั้ง และให้มีคำสั่งแต่งตั้งในวันที่ 26 ก.พ. คำสั่งมีผลใช้บังคับ 1 มี.ค.ไปแล้ว

“เนื่องจาก หัวหน้า คสช.ได้มีคำสั่งที่ 7/2559 ลง 5 ก.พ.59 เรื่องการกำหนดตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการสอบสวน อันส่งผลให้ตำแหน่งพนักงานสอบสวน ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547มีการเปลี่ยนแปลง”แต่ดูเหมือน”สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”ตอนนี้ จะไม่ได้เดินหน้าทำเรื่องการกำหนดตำแหน่งใหม่ให้พนักงานสอบสวนตามเหตุผลที่เอ่ยอ้างไว้ในบันทึกคำสั่งชะลอการแต่งตั้ง เพื่อให้สอดคล้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและตรงไปตามเจตนารมณ์ของคำสั่ง คสช.เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ในอีกด้านหนึ่ง “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ก็เร่งเดินหน้าดำเนินการเรื่องยกฐานะโรงพัก จากสถานีตำรวจที่มี สารวัตรใหญ่(สวญ.) เป็นหัวหน้าสถานี ที่มีอยู่ 144 แห่ง ให้เป็นโรงพักที่มี ผู้กำกับการ(ผกก.) เป็นหัวหน้าสถานี รวมทั้งมีการกำหนดตำแน่ง รองผู้บังคับการ(รองผบก.) ขึ้นใหม่อีก 34ตำแหน่ง ในหลายๆจังหวัด เช่น แม่ฮ่องสอน พะเยา พิจิตร กำแพงเพชร กาฬสินธุ์ บุรีรัมย์ มุกดาหาร เลย ลพบุรี นครนายก พังงา สมุทรสาคร ระนอง พัทลุง เป็นต้น นั่นหมายถึงการเพิ่มเก้าอี้ตามโรงพักต่างๆตามมาด้วย โดยโรงพักทั้ง 144 แห่ง ก็จะมี ผกก. ใหม่ 144 ราย จะมี รองผู้กำกับ สารวัตร เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนการเป็นโรงพักที่มีระดับ ผกก. เป็นหัวหน้าสถานี เช่นเดียวกับการเพิ่มตำแหน่งรอง ผบก. 34ตำแหน่ง ก็จะทำให้ ผกก.ขยับขึ้น 34 คน รองผกก. และสว.ก็ต้องขยับตามกันไปเป็นแท่ง

ที่สำคัญการยกระดับโรงพักทั้ง 144แห่ง และกำหนดตำแหน่งรองผบก.ขึ้นใหม่ 34ตำแหน่ง กำลังจะถูกเสนอเข้าวงประชุม ก.ตร.ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม เพื่อให้ ก.ตร. ตีตราประทับ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ได้ทันที โดยจะนำมาแต่งตั้งวาระเดียวกับการแต่งตั้ง สว.-รองผบก.ประจำปี 2558 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ สอดรับกับการเคลียร์รันเวย์ก่อนหน้านี้ ที่ คสช.มีคำสั่งเรื่องการคัดเลือกหรือการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ กำหนดให้บรรดาการคัดเลือกหรือการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ตาม พรบ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ประกาศ คสช. คำสั่ง คสช.หรือคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.2557 จนถึงวันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายส่งผลให้ตำรวจกลุ่มที่ได้รับการเยียวยา ตามความเห็นของ อนุกรรมกรร ก.ตร.เกี่ยวกับการร้องทุกข์ กว่า 100-200 นาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตำรวจระดับ ผกก. สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ที่โดนคำสั่งโยกย้ายออกไปนอกหน่วย จากเรื่องป้ายไฟโฆษณาบนป้อมจราจร จะได้กลับมา บช.น. ตามเดิม แต่เมื่อมีคำสั่ง คสช.นี้ออกมาเรื่องก็เปลี่ยนไป “นครบาล” ก็ไม่ต้องรับเยียวยา ทำให้บชน. ได้เก้าอี้ระดับ สว.-รองผบก. ที่ต้องเยียวยา กลับมาทั้งหมด

เช่นเดียวกับคำสั่ง คสช.ที่ 7/2559 เรื่องการกำหนดตำแหน่งของข้าราชการที่มีอำนาจหน้าที่ในการสอบสวน ซึ่งมีเนื้อหาใจความโดยสรุป “ยกเลิก” ตำแหน่ง “พนักงานสอบสวน-พนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ” และนำไปรวมเป็นตำแหน่งหลัก ทำให้สามารถแต่งตั้งโยกย้ายได้ทั้งมหด ไม่ต้องมีการแบ่งแยกเป็นตำแหน่งหลัก หรือพนักงานสอบสวนอีกต่อไปแล้ว เมื่อรวมกันทั้งหมด จะทำให้เก้าอี้ในการแต่งตั้ง “สว.-รองผบก.” ประจำปี 2558 เพิ่มขึ้นอีกหลายร้อยตำแหน่ง ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อ “ตั๋ว” ที่ถูกส่งเข้ามา และช่วยให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. หายใจหายคอคล่องขึ้นกว่าเดิม

กระบวนการแต่งตั้งโยกย้ายน่าจะได้ดำเนินการเสียที และไม่น่าจะมีการเลื่อนหรือขยายเวลาออกไปจากที่กำหนดไว้ในวันที่ 31 มี.ค.2559 อีกแล้ว เพราะนอกจากรันเวย์ถูกเคลียร์เรียบร้อย พร้อมๆกับการเปิดรันเวย์ใหม่ รองรับทุก”ตั๋ว” ที่จะลงมาอย่างเพียงพอ ปัญหา “ตั๋วล้นเก้าอี้” ก็น่าจะจบลงเรียบร้อยสมใจ “ผู้มีอำนาจ” ที่จะสามารถส่งเด็กตัวเองมาลงในเก้าอี้ทำเลทอง มาคุมตำแหน่งสำคัญๆ ซึ่งบทพิสูจน์การแสข่าวลือภายในแวดวงสีกากีจะถูกต้องหรือไม่ แค่ตรวจแถวรายชื่อการแต่งตั้งโยกย้ายระดับ สว.-รองผบก. ประจำปี 2558 ที่คลอดออกมา ก็จะรู้ เด็กใคร สายไหน ไปนั่งเสวยสุขทำเลใดบ้าง แค่นี้ก็รู้แล้ว