MGR Online - “ไพบูลย์ นิติตะวัน” อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา เข้ายื่นหนังสือร้องดีเอสไอให้ตรวจสอบความสัมพันธ์ “สมเด็จช่วง” ช่วย “พระธัมมชโย” หลบเลี่ยงพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชทำให้ไม่ปาราชิก
วันนี้ (15 ก.พ.) เวลา 13.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง วรปุญฺโญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และประธานกรรมการมหาเถรสมาคม กรณีที่ปฏิเสธดำเนินการให้พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายต้องอาบัติปาราชิก
โดยนายไพบูลย์กล่าวว่า มติของมหาเถรสมาคมที่แถลงการณ์ออกมาเป็นความพยายามบ่ายเบี่ยง หลบเลี่ยงพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร อดีตสมเด็จพระสังฆราช ที่ให้พระธัมมชโยให้อาบัติปาราชิกตามกฎหมาย โดยการโยงคดีที่คฤหัตถ์ 2 คนเป็นโจทก์ฟ้องพระธัมมชโยฐานบิดเบือนคำสอน อวดอุตริ ยักยอกทรัพย์ ฉ้อโกง และหลอกลวงประชาชน ซึ่งคดีนี้สิ้นสุดในคณะผู้พิจารณาชั้นต้นแล้ว มารวมเป็นเรื่องเดียวกัน ดังนั้นในวันนี้จึงมาขอให้ดีเอสไอตรวจสอบและรับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ
นอกจากนี้ยังขอให้ตรวจสอบความสัมพันธ์ของสมเด็จช่วงกับพระธัมมชโย ตามที่มีข่าวปรากฏออกมาก่อนหน้านี้ว่ามีความสัมพันธ์เชิงลึก และมีผลประโยชน์แอบแฝงกันหรือไม่ สืบเนื่องจากคดียักยอกทรัพย์ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่มีการยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินออกไป
ด้าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกดีเอสไอ เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ พร้อมเปิดเผยว่าเบื้องต้นดีเอสไอจะรับเรื่องไว้ตรวจสอบ และจากนั้นจะรอหนังสือชี้แจงจากมหาเถรสมาคมที่ดีเอสไอเคยยื่นขอให้ชี้แจงว่าจัดการกับพระลิขิตของอดีตสมเด็จพระสังฆราชอย่างไรบ้าง ซึ่งเดิมจะต้องส่งหนังสือมาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ก.พ.) แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับหนังสือชี้แจงดังกล่าว ซึ่งหากได้รับหนังสือชี้แจงเมื่อไหร่ก็จะนับมาพิจารณารวมกับเอกสารที่ได้รับเพิ่มเติมมาวันนี้ว่ามีมูลข้อเท็จจริงหรือไม่