MGR Online - ตร. เผยศาลอนุมัติหมายจับเพิ่มอีก 7 หมาย “ผู้การโต - อดีต 4 นายตำรวจสังกัด บช.ก.” ความผิด ม.112 - อาวุธปืน แฉ พฤติกรรมแอบอ้างสถาบันฯ รีดเอกชน ผบ.ตร. เผยส่งชุดตามจับแล้ว ปัดไม่รู้ข่าว เสธ. ซุกบ้านนายพล
วันนี้ (26 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ที่ปรึกษา (สบ10) พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น.พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการกองแผนงานอาชญากรรม (ผบก.ผอ.) แถลงความคืบหน้าคดีแอบอ้างสถาบันฯ เรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ขบวนการของ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง และ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา อดีตสารวัตร สังกัด บก.ปอท.
พล.ต.ต.ชยพล กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง เป็นที่แน่ชัด และเชื่อได้ว่า มีบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่ร่วมกระทำความผิดเพิ่มเติมและขออนุมัติศาลอกหมายจับเพิ่มเติม ดังนี้ คดีอาญาที่ 100/58 ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับที่ 2405/2558 ลงวันที่ 25 พ.ย. 58 ให้จับกุม นายศุกร์โข ตามเสรี คนสนิทของ พ.ต.ต.ปรากรม ข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ไว้ในครอบครอง และหมายจับศาลอาญาเลขที่ 2406/2558 ลงวันที่ 25 พ.ย. 58 พ.ต.ท.จีรวัฏฐ์ บุญวัฒนาภรณ์ อดีต สว.ทล. 2 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ไว้ในครอบครอง เหตุเกิดที่ บก.ป.ถ.พหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร โดยพฤติการณ์ เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 58 ตรวจค้นรถโตโยต้าเวนจูรี่ ของ พ.ต.ต.ปรากรม ที่ตรวจยึดมาจากคอนโดลาเมซอง พบอาวุธปืน เฮชเค 53 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน 80 นัด
“คดีอาญาที่ 102/58 ศาลทหารกรุงเทพ อนุมัติหมายจับที่ 49/2558 ลง 25 พ.ย. 58 ให้จับกุม พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณยเลขา อดีตรอง ผกก.2 ป. ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการ ปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่ทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบฯ เหตุเกิดที่ 89/364 ม.3 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 58 ผู้ต้องหากับพวกแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงเรียกรับจากภาคเอกชน ในคดีอาญาที่ 108/58 พล.ต.วิจารณ์ จดแตง นายทหารพระธรรมนูญ ร้องทุกข์ ต่อมาศาลทหารอนุมัติหมายจับที่ 42/2558 ลง 24 พ.ย. 58 ให้จับกุม นายจิรวงศ์ หรือ อาท วัฒนเทวาศิลป์ เลขานุการส่วนตัวนายสุริยัน ซึ่งอยู่ระหว่างถูกควบคุมตัว ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายฯ เหตุเกิดที่บริษัทเอกชน กรุงเทพฯ พฤติการณ์ เมื่อ 24 ส.ค. - 18 ต.ค. 58 ที่ผ่านมา ผู้ต้องหากับพวกแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงขอรับการสนับสนุนจัดทำสิ่งของ และได้รับผลประโยชน์จากการดำเนินการดังกล่าว เป็นเงิน 4.7 ล้านบาท” พล.ต.ต.ชยพลกล่าว
พล.ต.ต.ชยพล กล่าวว่า นอกจากนี้ ในคดีอาญาที่ 109/58 พล.ต.วิจารณ์ ร้องทุกข์ นำสู่การอนุมัติหมายจับศาลทหารที่ 48/2558 ลง 25 พ.ย. 58 ให้จับกุม พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร อดีต ผกก.2 ป. ข้อหา ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายฯ เหตุเกิดที่สำนักงาน กสทช. แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. พฤติการณ์ระหว่างเดือน ก.ย. 58 ถึง ต.ค. 58 ผู้ต้องหากับพวกแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงขอรับการสนับสนุนหมายเลขโทรศัพท์เลขสวยจาก กสทช. ในคดีอาญาที่ 113/58 พล.ต.วิจารณ์ ร้องทุกข์ นำสู่การอนุมัติออกหมายจับศาลทหาร ที่ 47/2558 ลง 25 พ.ย. 58 ให้จับกุม พล.ต.สุชาติ พรมใหม่ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายฯ, เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการ ปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่ทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบฯ เหตุเกิดที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ แขวงบางเขน เขตบางเขน กรุงเทพฯ พฤติการณ์เมื่อปลายเดือน พ.ค. 58 ถึง 30 ก.ย. 58 ที่ผ่านมา ผู้ต้องหากับพวกร่วมกันแอบอ้างสถาบันฯ แสวงหาประโยชน์ในการจัดทำสิ่งของ และได้รับผลประโยชน์จากการดำเนินการดังกล่าว และคดีอาญาที่ 114/58 ศาลทหารอนุมัติหมายจับที่ 46/2558 ลง 25 พ.ย. 58 ให้จับกุม พล.ต.สุชาติ ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายฯ, เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่ทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบฯ เหตุเกิดที่บริษัทเอกชน เขตพญาไท กรุงเทพฯ พฤติการณ์เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 58 ที่ผ่านมา ผู้ต้องหากับพวกร่วมกันแอบอ้างสถาบันฯ แสวงหาประโยชน์ในการจัดทำสิ่งของ และได้รับผลประโยชน์จากการดำเนินการดังกล่าว
ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า จะมีการออกหมายจับใครเพิ่มหรือไม่นั้น หากมีการขยายผลและพบความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับใครอีกก็ดำเนินการจับกุม ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา ออกหมายจับเพิ่มเติมไปแล้ว 7 หมาย หากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้องก็คงจะมีการโยกย้ายด้วย ขณะนี้ยังไม่มีผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าหน้าที่ติดต่อเข้ามอบตัว
เมื่อถามถึงการติดตามว่า พล.ต.สุชาติ พ.ต.อ.ไพโรจน์ และ พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ ผบ.ตร.กล่าวว่า กำลังดำเนินการอยู่ ได้แบ่งมอบหน้าที่การงานไปแล้วฝ่ายสอบสวนมอบให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เป็นหัวหน้า และฝ่ายสืบสวนได้มอบให้ พล.ต.ท.ฐิติราช ไปดำเนินการแล้ว ส่วนการควบคุมตัวผู้ต้องหาคดีการกระทำความผิดตามมาตรา 112 มีการควบคุมตัวนายจิรวงศ์ หรือ อาท วัฒนเทวาศิลป์ ไว้เพียงคนเดียว คนอื่น ๆ สั่งการตามประกบตัวแล้ว
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า พล.ต.สุชาติ นายทหารคนสนิท พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีการหลบอยู่ภายในบ้านของนายพลท่านหนึ่งจริงหรือไม่นั้น ผบ.ตร. กล่าวว่า ตนไม่ทราบกระแสข่าว
ถามว่า จะมีการเฝ้าระวังหรือไม่ว่าผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับจะหนีไปต่างประเทศ พ.อ.คชาชาต บุญดี หรือ เสธ.โจ้ ฝ่ายเสนาธิการประจำกองทัพภาคที่ 3 ซึ่งหนีไปต่างประเทศแล้วนั้น ผบ.ตร. กล่าวว่า เราได้มีการดำเนินการตามกระบวนการอยู่แล้ว
