พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า ตามที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ มีหนังสือมายังสำนักงาน ปปง. ขอให้ตรวจสอบข้อมูลทางการเงินและรายงานข้อเท็จจริงในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ของ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือ สารวัตรเอี๊ยด กับพวก
จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า พ.ต.ต.ปรากรม กับพวก ร่วมกันมีพฤติการณ์เป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา กระทำการอย่างใดให้บุคคลมิให้ต้องโทษ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 200 และเป็นเจ้าพนักงานรัฐ ปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่อาจทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหน้าที่นั้น เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123 และเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (5) ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือความผิดต่อหน้าที่ในการยุติธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา และคณะกรรมการธุรกรรม มีมติมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด พ.ต.ต. ปรากรม กับพวก
ต่อมา เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2558 พล.ต.วิจารณ์ จดแตง ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง และพวก เพิ่มเติมอีก 2 คดี โดยกล่าวโทษนายสุริยัน นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ และ พ.อ. คชาชาต บุญดี หรือ โจ้ บุญดี ร่วมกันกระทำความผิดในฐานความผิดมาตรา 112 และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่ทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้น เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น หรือในความผิดฐานอื่นที่พบภายหลัง และเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2558 ศาลทหารกรุงเทพ ได้ออกหมายจับ พ.อ.คชาชาต ในข้อหาดังกล่าว
เลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า จากข้อเท็จจริงดังกล่าว พฤติการณ์ของ พ.อ.คชาชาต กับพวก จึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123 และเป็นการกระทำโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นและประชาชนด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และด้วยการหลอกลวงนั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม อันอาจเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เข้าข่ายผิดกฎหมายฟอกเงิน
เมื่อตรวจสอบธุรกรรมการเงินหรือข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคล รวมทั้งผู้ซึ่งเกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับ พ.ต.ต.ปรากรม กับพวก ปรากฏหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่า พ.ต.ต.ปรากรม กับพวก เป็นเจ้าของทรัพย์สินหรือมีสิทธิครอบครองในทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ ได้แก่ เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร สิทธิเรียกร้องในตั๋วแลกเงิน และห้องชุด และปรากฏหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่าทรัพย์สินดังกล่าว พ.ต.ต.ปรากรม กับพวก ได้แก่ น.ส.สุรีวรรณ ชาญยุทธิ์ นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ พ.อ.คชาชาต บุญดี และนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ ได้มาในระหว่างที่กระทำความผิดมูลฐานดังกล่าว
และเนื่องจากทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีนี้ประกอบด้วยทรัพย์สินประเภทเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร สิทธิเรียกร้องในตั๋วแลกเงินอันเป็นทรัพย์สินที่สามารถโอน ยักย้าย ปกปิด ซ่อนเร้น ได้โดยง่าย และทรัพย์สินประเภทห้องชุด อันเป็นทรัพย์สินที่ปรากฏหลักฐานในทางทะเบียนในการเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือมีสิทธิครอบครอง โดยผู้มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครอง อาจดำเนินการทางนิติกรรมโอนเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครองในทางทะเบียนได้ หากมิได้มีการออกคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินดังกล่าวไว้ชั่วคราว หากต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน สำนักงาน ปปง. อาจไม่สามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมาได้ จึงเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าอาจมีการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว
ดังนั้น คณะกรรมการธุรกรรม มีมติให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จำนวน 11 รายการ พร้อมดอกผล ได้แก่ เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ของ น.ส.สุรีวรรณ ชาญยุทธิ์ จำนวน 1 บัญชี จำนวน 39,549.40 บาท เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ของนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ จำนวน 1 บัญชี จำนวน 352,809.74 บาท
เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ของ พ.อ.คชาชาต บุญดี จำนวน 1 บัญชี จำนวน 317,839.62 บาท เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ของ พ.อ.คชาชาต บุญดี จำนวน 2 บัญชี รวมจำนวน 10,219,870.68 บาท เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ของนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ (โดยเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด) จำนวน 1 บัญชี จำนวน 800,000 บาท เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ของ พ.อ.คชาชาต บุญดี จำนวน 2 บัญชี รวมจำนวน 9,800,000 บาท
ตั๋วแลกเงิน ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ของ พ.อ.คชาชาต บุญดี จำนวน 20,000,000 บาท ห้องชุด พหลโยธินปาร์ค เลขที่ 127/21 ชั้น 3 อาคารเลขที่ 3 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ราคา 1,800,000 บาท ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ ห้องชุด พหลโยธินปาร์ค เลขที่ 127/18 ชั้น 3 อาคารเลขที่ 3 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ราคา 1,000,000 บาท ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์
ทั้งนี้ มีกำหนด 90 วัน นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ คือ ถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2559 รวมทรัพย์สินที่อายัดไว้ชั่วคราวทั้งสิ้น จำนวน 11 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 44,330,069.44 บาท
จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า พ.ต.ต.ปรากรม กับพวก ร่วมกันมีพฤติการณ์เป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา กระทำการอย่างใดให้บุคคลมิให้ต้องโทษ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 200 และเป็นเจ้าพนักงานรัฐ ปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่อาจทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหน้าที่นั้น เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123 และเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (5) ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือความผิดต่อหน้าที่ในการยุติธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา และคณะกรรมการธุรกรรม มีมติมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด พ.ต.ต. ปรากรม กับพวก
ต่อมา เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2558 พล.ต.วิจารณ์ จดแตง ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง และพวก เพิ่มเติมอีก 2 คดี โดยกล่าวโทษนายสุริยัน นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ และ พ.อ. คชาชาต บุญดี หรือ โจ้ บุญดี ร่วมกันกระทำความผิดในฐานความผิดมาตรา 112 และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่ทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้น เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น หรือในความผิดฐานอื่นที่พบภายหลัง และเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2558 ศาลทหารกรุงเทพ ได้ออกหมายจับ พ.อ.คชาชาต ในข้อหาดังกล่าว
เลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า จากข้อเท็จจริงดังกล่าว พฤติการณ์ของ พ.อ.คชาชาต กับพวก จึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123 และเป็นการกระทำโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นและประชาชนด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และด้วยการหลอกลวงนั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม อันอาจเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เข้าข่ายผิดกฎหมายฟอกเงิน
เมื่อตรวจสอบธุรกรรมการเงินหรือข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคล รวมทั้งผู้ซึ่งเกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับ พ.ต.ต.ปรากรม กับพวก ปรากฏหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่า พ.ต.ต.ปรากรม กับพวก เป็นเจ้าของทรัพย์สินหรือมีสิทธิครอบครองในทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ ได้แก่ เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร สิทธิเรียกร้องในตั๋วแลกเงิน และห้องชุด และปรากฏหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่าทรัพย์สินดังกล่าว พ.ต.ต.ปรากรม กับพวก ได้แก่ น.ส.สุรีวรรณ ชาญยุทธิ์ นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ พ.อ.คชาชาต บุญดี และนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ ได้มาในระหว่างที่กระทำความผิดมูลฐานดังกล่าว
และเนื่องจากทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีนี้ประกอบด้วยทรัพย์สินประเภทเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร สิทธิเรียกร้องในตั๋วแลกเงินอันเป็นทรัพย์สินที่สามารถโอน ยักย้าย ปกปิด ซ่อนเร้น ได้โดยง่าย และทรัพย์สินประเภทห้องชุด อันเป็นทรัพย์สินที่ปรากฏหลักฐานในทางทะเบียนในการเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือมีสิทธิครอบครอง โดยผู้มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครอง อาจดำเนินการทางนิติกรรมโอนเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครองในทางทะเบียนได้ หากมิได้มีการออกคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินดังกล่าวไว้ชั่วคราว หากต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน สำนักงาน ปปง. อาจไม่สามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมาได้ จึงเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าอาจมีการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว
ดังนั้น คณะกรรมการธุรกรรม มีมติให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จำนวน 11 รายการ พร้อมดอกผล ได้แก่ เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ของ น.ส.สุรีวรรณ ชาญยุทธิ์ จำนวน 1 บัญชี จำนวน 39,549.40 บาท เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ของนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ จำนวน 1 บัญชี จำนวน 352,809.74 บาท
เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ของ พ.อ.คชาชาต บุญดี จำนวน 1 บัญชี จำนวน 317,839.62 บาท เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ของ พ.อ.คชาชาต บุญดี จำนวน 2 บัญชี รวมจำนวน 10,219,870.68 บาท เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ของนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ (โดยเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด) จำนวน 1 บัญชี จำนวน 800,000 บาท เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ของ พ.อ.คชาชาต บุญดี จำนวน 2 บัญชี รวมจำนวน 9,800,000 บาท
ตั๋วแลกเงิน ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ของ พ.อ.คชาชาต บุญดี จำนวน 20,000,000 บาท ห้องชุด พหลโยธินปาร์ค เลขที่ 127/21 ชั้น 3 อาคารเลขที่ 3 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ราคา 1,800,000 บาท ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ ห้องชุด พหลโยธินปาร์ค เลขที่ 127/18 ชั้น 3 อาคารเลขที่ 3 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ราคา 1,000,000 บาท ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์
ทั้งนี้ มีกำหนด 90 วัน นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ คือ ถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2559 รวมทรัพย์สินที่อายัดไว้ชั่วคราวทั้งสิ้น จำนวน 11 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 44,330,069.44 บาท