"ฐิติราช" เซ็นคำสั่ง 4 นายตำรวจสังกัด บช.ก. ลาออกจากราชการแล้ว พบหลักฐาน 2 ใน 4 เชื่อมโยง "สารวัตรเอี๊ยด" ส่วนผลสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ มีความชัดเจนสัปดาห์นี้ "บิ๊กป้อม" จวกเพื่อไทยไม่รู้เรื่อง มาคาดคั้นให้รัฐบาลชี้แจงปมสร้างอุทยานฯ ชี้เป็นเรื่องของ ทบ.สร้าง ใช้เงินบริจาค ต้องรอผลสอบจากทบ. แถ"พล.ต." ลาออก เพราะเบื่อ ไม่อยากทำงาน ด้าน ผบ.ทบ.เร่งคกก.เคลียร์ปัญหา เผยแบ่งสอบ 2 ส่วน ภาคขรก. ทหาร ตร.-ภาคเอกชน ผิดฟันไม่เลี้ยง ทั้งวินัย-อาญา
วานนี้ (16 พ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่าพล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.ได้ลงนามในคำสั่ง บช.ก.ที่ 268/2558 อนุมัติให้ พ.ต.อ.ศิวพงษ์ พัฒน์พงศ์พานิช รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณยเลขา รอง ผกก.2 บก.ป. และ พ.ต.ท.จีรวัฏฐ์ บุญวัฒนาภรณ์ สว.ส. ทล.2 กก.1 บก.ทล. ลาออกจากราชการตามที่ร้องขอ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย.58 ทั้งนี้ นายตำรวจทั้ง 4 นาย เป็นนายตำรวจที่ พล.ต.ท.ฐิติราช มีคำสั่งเรียกมาช่วยราชการที่ ศปก.บช.ก. ตั้งแต่วันที่18 ต.ค.
สำหรับกรณีที่ชุดสืบสวนพบข้อมูลหลักฐานว่า มีนายตำรวจบางคนในกลุ่มได้ร่วมกระทำความผิดร่วมกับ พล.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือ สารวัตรเอี๊ยด หลายคดี ไม่ว่าจะเป็นการนำรถที่ตรวจยึดเป็นของกลางนำมาใช้ ทั้งยังเบิกทรัพย์สินของทางราชการ เช่น อาวุธปืน วิทยุสื่อสาร และรถยนต์ มาให้สารวัตรเอี๊ยด และยังร่วมเรียกรับผลประโยชน์สถานบันเทิงอีก โดย 2 ใน 4 นาย พบหลักฐานชัดเจนว่า มีการร่วมกันทำลายหลักฐานในคดีตามคำสั่งสารวัตรเอี๊ยด
ทั้งนี้ หากคณะสอบสวนของพล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาการ รอง ผบ.ตร. พบการกระทำความผิดที่ชัดเจน ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะต้องดำเนินการกันต่อไป แต่ทั้งนี้ยังไม่ปรากฏว่านายตำรวจ 2 ใน 4 นาย กระทำความผิด เพราะว่ายังไม่มีการระบุในสำนวนสอบสวน โดยคณะสืบสวนสอบสวนจะประชุมกันร่วมกัน หลังจากก่อนหน้านี้ทางคณะพนักงานสอบสวนคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ซึ่งมี พล.ต.ท.ศรีวราห์ เป็นหัวหน้าได้สรุปส่งสำนวนแอบอ้างสถาบันฯกลุ่มของ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง , พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือ สารวัตรเอี๊ยด อดีต สว.กก. 1 บก.ปอท. และนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรือ อาร์ต คนสนิทหมอหยอง มาส่งให้กองคดีฯ ดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดเพื่อเสนอต่อไปยัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับอีก 12 สำนวนที่เหลือ ทางพนักงานสอบสวนได้นำมาส่งมอบให้ คณะพนักงานสอบสวนคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง เมื่อวานนี้ ซึ่งคาดว่าไม่เกินสิ้นเดือน ก็จะสามารถส่งให้กองคดีอาญา ตรวจสอบได้ นอกจากนี้ยังมี 3 สำนวน ที่ปรากฏชื่อของพ.อ.คชาชาต บุญดี เป็นผู้ต้องหาร่วมนั้น อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน และรวบรวมสำนวน คาดว่ามีความชัดเจนเร็วๆ นี้
ในส่วนกรณีการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์นั้น ขณะนี้อยู่ในการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงของทางกองทัพบก ซึ่งมีพล.อ.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ เป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์นี้ จะมีความชัดเจนมากขึ้น
รัฐบาลไม่เกี่ยวอุทยานราชภักดิ์
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี พรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้รัฐบาล ชี้แจงปัญหาการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ว่า ไม่เข้าใจว่า จะออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลชี้แจงทำไม เพราะไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของกองทัพบกในการดำเนินการจัดสร้าง ซึ่งขณะนี้ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ.ได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบความไม่โปร่งใสแล้ว หากผลออกมาเมื่อใด ทางกองทัพบกก็จะชี้แจงเอง ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล ขอให้เข้าใจด้วย และการจัดสร้าง ก็ไม่ได้ใช้งบประมาณของรัฐบาล แต่เป็นงบประมาณจากการบริจาค ซึ่งต้องชี้แจงให้ประชาชนที่บริจาคเงินได้เข้าใจว่า นำเงินไปทำอะไรบ้าง อย่ามามาเรียกร้องให้รัฐบาลตั้งโต๊ะแถลง
เมื่อถามว่า ในช่วงที่มีการจัดสร้างอุทยานฯ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. และ รมช.กลาโหมด้วย ทำให้เกิดความเชื่อมโยงกัน พล.อ.ประวิตร กล่าวด้วยน้ำเสียงอย่างมีอารมณ์ว่า "รัฐบาลเกี่ยวอะไร ไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของกองทัพบก แต่ยอมรับว่า มีคนพุ่งเป้าโจมตีมาที่ พล.อ.อุดมเดช จึงพยายามขุดคุ้ยไปเรื่อยๆ ที่ผ่านมารัฐบาลก็พยายามบริหารงานต่างๆ เพื่อประชาชน แล้วจะเอาอะไรอีก เดี๋ยวทางกองทัพบกก็ชี้แจงเอง"
เมื่อถามถึงสาเหตุที่นายทหารยศ พล.ต. ยื่นใบลาออกจากราชการทหาร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นการลาออกธรรมดา เขาไม่ได้ให้เหตุผลว่า ลาออกทำไม เมื่อไม่อยากทำงาน เขาก็ลาออกไป การเซ็นอนุมัติใบลาออก เป็นอำนาจของ รมว.กลาโหม แต่ตนมอบหมายให้ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ดำเนินการแทน
"เขาอยากลาออก ก็ให้ออก เขาอาจจะเบื่อ และไม่อยากทำงานแล้ว จึงลาออก อย่าไปสงสัย เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว" พล.อ.ประวิตร กล่าว
เร่งสอบขรก.-ทหาร-ตร.-เอกชน
จากรณีที่ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. มีคำสั่งให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ โดยมี พล.อ.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์ ภายในเวลา 7 วัน ก่อนที่กองทัพบกจะรับในส่วนของการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์มาดำเนินการต่อนั้น แหล่งข่าวนายทหารระดับสูงของกองทัพบก เปิดเผยว่า ผบ.ทบ. ได้เร่งรัดให้ตรวจสอบอย่างละเอียด โดยให้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่หนึ่ง ตรวจสอบข้าราชการ ตำรวจ และทหาร ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวว่ามีความโปร่งใส หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องใดหรือไม่ หากพบว่ากองทัพบกเสียหาย ก็จะให้ดำเนินการทางวินัย และอาญาทันที
ส่วนที่ 2 ตรวจสอบภาคเอกชน ในส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หากพบว่ากระทบกับกองทัพบก แต่ไม่มีใครแจ้งความดำเนินคดี ทางกองทัพบก จะให้สำนักพระธรรมนูญทหารบก เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษเอง
วานนี้ (16 พ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่าพล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.ได้ลงนามในคำสั่ง บช.ก.ที่ 268/2558 อนุมัติให้ พ.ต.อ.ศิวพงษ์ พัฒน์พงศ์พานิช รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณยเลขา รอง ผกก.2 บก.ป. และ พ.ต.ท.จีรวัฏฐ์ บุญวัฒนาภรณ์ สว.ส. ทล.2 กก.1 บก.ทล. ลาออกจากราชการตามที่ร้องขอ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย.58 ทั้งนี้ นายตำรวจทั้ง 4 นาย เป็นนายตำรวจที่ พล.ต.ท.ฐิติราช มีคำสั่งเรียกมาช่วยราชการที่ ศปก.บช.ก. ตั้งแต่วันที่18 ต.ค.
สำหรับกรณีที่ชุดสืบสวนพบข้อมูลหลักฐานว่า มีนายตำรวจบางคนในกลุ่มได้ร่วมกระทำความผิดร่วมกับ พล.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือ สารวัตรเอี๊ยด หลายคดี ไม่ว่าจะเป็นการนำรถที่ตรวจยึดเป็นของกลางนำมาใช้ ทั้งยังเบิกทรัพย์สินของทางราชการ เช่น อาวุธปืน วิทยุสื่อสาร และรถยนต์ มาให้สารวัตรเอี๊ยด และยังร่วมเรียกรับผลประโยชน์สถานบันเทิงอีก โดย 2 ใน 4 นาย พบหลักฐานชัดเจนว่า มีการร่วมกันทำลายหลักฐานในคดีตามคำสั่งสารวัตรเอี๊ยด
ทั้งนี้ หากคณะสอบสวนของพล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาการ รอง ผบ.ตร. พบการกระทำความผิดที่ชัดเจน ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะต้องดำเนินการกันต่อไป แต่ทั้งนี้ยังไม่ปรากฏว่านายตำรวจ 2 ใน 4 นาย กระทำความผิด เพราะว่ายังไม่มีการระบุในสำนวนสอบสวน โดยคณะสืบสวนสอบสวนจะประชุมกันร่วมกัน หลังจากก่อนหน้านี้ทางคณะพนักงานสอบสวนคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ซึ่งมี พล.ต.ท.ศรีวราห์ เป็นหัวหน้าได้สรุปส่งสำนวนแอบอ้างสถาบันฯกลุ่มของ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง , พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือ สารวัตรเอี๊ยด อดีต สว.กก. 1 บก.ปอท. และนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรือ อาร์ต คนสนิทหมอหยอง มาส่งให้กองคดีฯ ดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดเพื่อเสนอต่อไปยัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับอีก 12 สำนวนที่เหลือ ทางพนักงานสอบสวนได้นำมาส่งมอบให้ คณะพนักงานสอบสวนคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง เมื่อวานนี้ ซึ่งคาดว่าไม่เกินสิ้นเดือน ก็จะสามารถส่งให้กองคดีอาญา ตรวจสอบได้ นอกจากนี้ยังมี 3 สำนวน ที่ปรากฏชื่อของพ.อ.คชาชาต บุญดี เป็นผู้ต้องหาร่วมนั้น อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน และรวบรวมสำนวน คาดว่ามีความชัดเจนเร็วๆ นี้
ในส่วนกรณีการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์นั้น ขณะนี้อยู่ในการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงของทางกองทัพบก ซึ่งมีพล.อ.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ เป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์นี้ จะมีความชัดเจนมากขึ้น
รัฐบาลไม่เกี่ยวอุทยานราชภักดิ์
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี พรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้รัฐบาล ชี้แจงปัญหาการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ว่า ไม่เข้าใจว่า จะออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลชี้แจงทำไม เพราะไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของกองทัพบกในการดำเนินการจัดสร้าง ซึ่งขณะนี้ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ.ได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบความไม่โปร่งใสแล้ว หากผลออกมาเมื่อใด ทางกองทัพบกก็จะชี้แจงเอง ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล ขอให้เข้าใจด้วย และการจัดสร้าง ก็ไม่ได้ใช้งบประมาณของรัฐบาล แต่เป็นงบประมาณจากการบริจาค ซึ่งต้องชี้แจงให้ประชาชนที่บริจาคเงินได้เข้าใจว่า นำเงินไปทำอะไรบ้าง อย่ามามาเรียกร้องให้รัฐบาลตั้งโต๊ะแถลง
เมื่อถามว่า ในช่วงที่มีการจัดสร้างอุทยานฯ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. และ รมช.กลาโหมด้วย ทำให้เกิดความเชื่อมโยงกัน พล.อ.ประวิตร กล่าวด้วยน้ำเสียงอย่างมีอารมณ์ว่า "รัฐบาลเกี่ยวอะไร ไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของกองทัพบก แต่ยอมรับว่า มีคนพุ่งเป้าโจมตีมาที่ พล.อ.อุดมเดช จึงพยายามขุดคุ้ยไปเรื่อยๆ ที่ผ่านมารัฐบาลก็พยายามบริหารงานต่างๆ เพื่อประชาชน แล้วจะเอาอะไรอีก เดี๋ยวทางกองทัพบกก็ชี้แจงเอง"
เมื่อถามถึงสาเหตุที่นายทหารยศ พล.ต. ยื่นใบลาออกจากราชการทหาร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นการลาออกธรรมดา เขาไม่ได้ให้เหตุผลว่า ลาออกทำไม เมื่อไม่อยากทำงาน เขาก็ลาออกไป การเซ็นอนุมัติใบลาออก เป็นอำนาจของ รมว.กลาโหม แต่ตนมอบหมายให้ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ดำเนินการแทน
"เขาอยากลาออก ก็ให้ออก เขาอาจจะเบื่อ และไม่อยากทำงานแล้ว จึงลาออก อย่าไปสงสัย เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว" พล.อ.ประวิตร กล่าว
เร่งสอบขรก.-ทหาร-ตร.-เอกชน
จากรณีที่ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. มีคำสั่งให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ โดยมี พล.อ.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์ ภายในเวลา 7 วัน ก่อนที่กองทัพบกจะรับในส่วนของการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์มาดำเนินการต่อนั้น แหล่งข่าวนายทหารระดับสูงของกองทัพบก เปิดเผยว่า ผบ.ทบ. ได้เร่งรัดให้ตรวจสอบอย่างละเอียด โดยให้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่หนึ่ง ตรวจสอบข้าราชการ ตำรวจ และทหาร ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวว่ามีความโปร่งใส หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องใดหรือไม่ หากพบว่ากองทัพบกเสียหาย ก็จะให้ดำเนินการทางวินัย และอาญาทันที
ส่วนที่ 2 ตรวจสอบภาคเอกชน ในส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หากพบว่ากระทบกับกองทัพบก แต่ไม่มีใครแจ้งความดำเนินคดี ทางกองทัพบก จะให้สำนักพระธรรมนูญทหารบก เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษเอง
