ปคบ.ตรวจยึดคอนโด-รถหรู เครือข่ายยูฟันย่านรัชดาฯ

ปคบ. เข้าตรวจสอบคอนโดหรูย่านรัชดาฯ หลังรับแจ้งว่าเป็นที่พักของผู้บริหารแชร์ลูกโซ่ยูฟัน มูลค่า 40 ล้าน จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีการโอนเงินไปยังประเทศมาเลเซีย และประเทศวานูอาตู ตรวจยึดรถไว้ตรวจสอบอีก 3 คัน มูลค่า 15 ล้าน พร้อมรับตัว 4 ผู้ต้องหาเครือข่ายยูฟันที่ถูกจับตัวมาจาก อ.ปาดังเบซาร์ จ.สงขลา



วันนี้ (20 พ.ค.) พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผบ.ตร. พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ. เดินทางเข้าตรวจสอบคอนโดหรูย่านรัชดา เนื่องจากได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่า นายเควิน ไล ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้าที่ได้ซื้อคอนโดไว้ให้ผู้บริหารจากเครือข่ายยูฟัน สโตร์ เข้าพัก

พล.ต.ท.สุวิระ กล่าวว่า หลังจากที่เข้าตรวจค้นบริษัท ยูดีบีพี พร้อมจับกุม นายเควิน ไล กับพวก ซึ่งหลังจากที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ได้มีผู้ประสานให้ข้อมูลว่าบริษัทของนายเควิน ได้มาซื้อห้องพักภายในคอนโดดังกล่าวไว้ เมื่อช่วงกลางปี 2555 ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้นห้องพักจำนวน 12 ยูนิต รวมมูลค่ากว่า 40 ล้าน ซึ่งยังมีห้องพักอีก 1 ยูนิต ที่ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยห้องพักดังกล่าวมีพยานยืนยันว่าผู้บริหารของบริษัท ยูฟัน สโตร์ เคยเข้ามาพักที่นี่ด้วย

หลังจากการตรวจสอบคอนโดเสร็จสิ้นแล้วจะส่งมอบให้ ปปง. ดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า นายเควิน ไม่ได้มีเอกสิทธิ์ทางการทูตแต่อย่างใด ร่วมทั้งยังมีประวัติการประกอบธุรกิจสีเทา ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายเควิน กับพวก พบว่า มีการโอนเงินไปยังประเทศมาเลเซีย และประเทศวานูอาตู ซึ่งบริษัท ยูดีบีพี มีความเกี่ยวข้องกับหลายประเทศ อาทิ ไทย มาเลเซีย จีน อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจยึดรถยนต์จำนวน 3 คัน มูลค่า 15 ล้านบาท พร้อมส่งมอบ ปปง. ไปก่อนหน้านี้แล้ว

ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. ที่สนามบินดอนเมือง พล.ต.ท.สุวิระ ได้เดินทางมารับตัว 4 ผู้ต้องหาจากเครือข่ายยูฟัน คือ 1. นายธีรวัฒน์ พัชรสุยะใหญ่ 2. นางนิภาพร ละมี 3. น.ส.ณัฏฐ์วรัญช์ อุตมะแก้ว 4. นายบุน เกียท ซู สัญชาติมาเลเซีย ซึ่งเจ้าหน้าที่นำโดย พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ. ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา รรท.ผกก.สภ.ปาดังเบซาร์ นำทีมสืบสวน ประกอบด้วย พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ เตชะโต รอง ผกก.สส. ร.ต.อ.ทวีป จันทรายนะ รอง สว.สส. ร.ต.อ.จิระกร รองพิชัย รอง สว.สส. และ ร.ต.ท.พงษ์พัฒน์ สุระคำแหง รอง สว.สส.

พล.ต.ท.สุวิระ กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งสี่คนที่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวได้นั้น สืบเนื่องมาจากการขยายผลการให้ปากคำขอผู้เสียหายในคดีทราบว่า นายอาทิตย์ ปานแก้ว ผู้ต้องหาซึ่งเป็นแม่ข่ายยูฟันที่ยังหลบหนีอยู่นั้น โอนเงินเข้าบัญชีของผู้ต้องหาสี่คนนี้ ก่อนจะถอนออกแล้วขนเงินข้ามชายแดนไปประเทศเมเลเซียจึงได้มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดสงขลา เพื่อดำเนินการเข้าจับกุมตัวเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา โดยนายบุน เกียท ซูเป็นชาวมาเลเซียที่เข้ามาทำธุรกิจและแต่งงานอยู่กินกับนางนิภาพร จากนั้นเมื่อช่วงประมาณเดือนสิงหาคมปี 2557 ได้มีการเปิดบัญชี เพื่อทำธุรกรรมทางการเงินมาจนถึงช่วงเดือนเมษายน ปี 2558 รวมแล้วมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 23,000,000 บาท อย่างไรก็ตาม นอกจากแจ้งข้อหา “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” ยังจะเจอข้อหา ฟอกเงินกับผู้ต้องหาทั้งสี่คนด้วย

นายบุน เกียท ซู ให้การอ้างว่า ตนไม่รู้จักบริษัท ยูฟัน แต่อย่างใด ตนเปิดร้านคาราโอเกะ และทำธุรกิจเกี่ยวกับระบบขนส่ง อยู่ใน อ.ปาดังเบซาร์ ก่อนที่จะรู้จักกับมิสเตอร์ค่อก จากนั้นได้มีการพูดคุยกันซึ่งมิสเตอร์ค่อกได้ขอยืมบัญชีธนาคารที่ของตนไปใช้ โดยอ้างเมื่อมีเงินโอนเข้าบัญชีมา มิสเตอร์ค่อกจะถอนออกมาซื้อสินค้าว่าจะ แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นสินค้าอะไร ซึ่งตนเองก็ไม่ได้เอะใจ

พล.ต.ท.สุวิระ กล่าวว่า จากนี้จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปสอบปากคำก่อนส่งตัวฝากขังที่สน.ทุ่งสองห้อง ต่อไป ทั้งนี้ เมื่อสอบสวนขยายผลทั้งหมดแล้วอยากแจ้งให้ทราบว่าเมื่อมีประชาชนเข้ามาทำธุรกิจยูฟัน ตัวแม่ข่ายนั้นไม่ได้มีการนำเงินของท่านไปทำธุรกิจต่อ แต่บรรดาแม่ข่ายจะขนเงินออกท่านออกไปยังต่างประเทศ เช่นนั้นจึงอยากขอให้ผู้เสียหายที่ยังไม่ได้เดินทางเข้าแจ้งความมาลองพิจรณาดูว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่