xs
xsm
sm
md
lg

“ตูมตาม” แจ้งจับดีเจสาวแสบ อ้างชื่อขอสปอนเซอร์เปิดหน้ากล้องถ่ายหนัง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายธนพล สินสนอง หรือ “ตูมตาม เชิญยิ้ม” ดาวตลกรุ่นใหญ่ พร้อมด้วยนายสุเชษฐ์ หรือเก่ง รัตนานนท์ อายุ 32 ปี นักแสดงภาพยนตร์โฆษณา แจ้งจับดีเจสาว
“ตูมตาม” ดาวตลกรุ่นใหญ่พร้อมนักแสดงโฆษณา แจ้งจับสาวแสบ ดีเจสถานีวิทยุชาวทุ่งเรดิโอเน็ตเวิร์ก หลอกสร้างหนัง อ้างชื่อขอสปอนเซอร์ แถมปลอมลายเซ็น-ตุ๋นเงินเปิดหน้ากล้อง สุดท้ายหายเข้ากลีบเมฆ

วันนี้ (14 พ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. นายธนพล สินสนอง หรือ “ตูมตาม เชิญยิ้ม” ดาวตลก พร้อมด้วยนายสุเชษฐ์ หรือเก่ง รัตนานนท์ อายุ 32 ปี นักแสดงภาพยนตร์โฆษณา อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่บ้านธารทิพย์ สุขาภิบาล 3 ถนนรามคำแหง ซอย 62 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ธงชัย โตเจริญ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อ น.ส.นภัสกร หรือจุ๊บ แดงบรรจง อายุ 26 ปี ผู้จัดรายการเพลง หรือดีเจ สถานีวิทยุชาวทุ่งเรดิโอเน็ตเวิร์ก ซึ่งแอบอ้างชื่อดาวตลก “ตูมตาม เชิญยิ้ม” ว่าจะกำกับภาพยนตร์เรื่อง “จึ่งนึ่ง ตะลึงโลก” ภาพยนตร์แนวคอมเมดี แล้วติดต่อขอสปอนเซอร์จากบุคคลต่างๆ โดยนายสุเชษฐ์ถูกหลอกให้ร่วมหาเงินมาสนับสนุนภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว แลกกับบทแสดงเป็นตัวเด่นในภาพยนตร์ จนสูญเงินไป 2 แสนบาท แต่กลับไม่มีการถ่ายทำแต่อย่างใด

ตูมตามกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้เจอ น.ส.นภัสกร โดยเพื่อนแนะนำมา แล้วก็ได้พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องการทำภาพยนตร์เรื่อง “จึ่งนึ่ง ตะลึงโลก” และจะให้ตนเป็นผู้กำกับ ให้นายพีรวัส หรือวรพจน์ โพธิเนตร เป็นโปรดิวเซอร์และเขียนบทภาพยนตร์ดังกล่าว เสร็จสรรพก็หายไปเป็นเดือน ตนยังแนะนำว่าถ้าจะทำก็ต้องหานายทุนมา

ตูมตามกล่าวต่อว่า จากนั้นก็ได้ไปพบกับนายสุเชษฐ์ซึ่งเคยมีผลงานถ่ายภาพยนตร์โฆษณา และทำกิจการขายเครื่องเสียงอยู่ แต่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเป็นการส่วนตัว ต่อมาได้มีการติดต่อทางแอปพลิเคชันไลน์ ชักชวนให้มาร่วมแสดงภาพยนตร์ โดยนายสุเชษฐ์ยังสอบถาม น.ส.นภัสกรด้วยว่าทำงานอยู่ในวงการนี้ด้วยหรือ ภายหลังก็มีการชักชวนให้ร่วมแสดงภาพยนตร์ แต่ที่เริ่มผิดสังเกตตั้งแต่แรกก็คือการนัดพบกันค่าใช้จ่ายต่างๆ เขาก็จะอ้างปัญหาติดขัดและให้นายสุเชษฐ์เป็นฝ่ายออกให้ทั้งหมด สิ่งที่เขาทำมีการอ้างชื่อ รูปภาพ และปลอมลายเซ็นของตนด้วย จึงทำให้ตนได้รับความเสียหาย

ขณะที่นายสุเชษฐ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยรับงานถ่ายภาพยนตร์โฆษณาสินค้าหลายชิ้น อาทิ โฆษณาแอร์ยี่ห้อยูนิแอร์ โฆษณาอาหารเสริมยี่ห้อเจนิฟู้ด และโฆษณาของผู้ให้บริการทีวีดาวเทียมระบบบอกรับสมาชิก (ทรูวิชั่นส์) โดยเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้รู้จักกับ น.ส.นภัสกรทางไลน์ เนื่องจากตนได้โพสต์ขายเครื่องเสียง เมื่อได้ติดต่อพูดคุยกันสักพักเขาก็ชักชวนตนให้ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ มีการนัดคุยรายละเอียดกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านซอยนวลจันทร์ จากนั้นก็ได้รับอีเมลและเอกสารแจ้งรายละเอียดต่างๆ มีการอ้างถึงดาราผู้มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนจะพูดถึงเรื่องที่ต้องการให้ตนช่วยหาสปอนเซอร์ให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ แล้วอ้างว่ารายได้ส่วนหนึ่งจะมอบให้กับมูลนิธิบ้านนกขมิ้น เพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้า เด็กเร่ร่อน และเด็กด้อยโอกาสด้วย

นายสุเชษฐ์กล่าวอีกว่า ครั้งแรกตนยังไม่ได้ตัดสินใจรับงานนี้ โดยได้ปรึกษากับครอบครัวซึ่งทางพ่อแม่ตนก็ให้การสนับสนุน เพราะเห็นว่าที่ผ่านมาตนก็ยังไม่เคยมีผลงานการแสดงภาพยนตร์เลย จึงคิดว่าควรจะคุยกันให้เป็นกิจลักษณะ ต่อมาจึงได้นัดหมาย น.ส.นภัสกรมาพูดคุยกับตนที่บ้านพักย่านบางกะปิ และตกลงรับงานแสดงดังกล่าว โดยมีการโอนเงินสนับสนุนให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ผ่านบัญชีธนาคารในชื่อ “อังคณา ท้าวศิริกุล” และ “ขวัญภสันต์ โพธิเนตร” บัญชีละ 1 บาท รวม 2 แสนบาท ส่วนรายละเอียดของภาพยนตร์เรื่องนี้ ตนจะได้รับบทบาทเป็นตัวแสดงที่ชื่อ “เพทาย” มีกำหนดเปิดกล้องถ่ายทำในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคมที่ผ่านมาซึ่งตนจะได้รับค่าตัว 8 หมื่นบาทต่อคิวการแสดง

นายสุเชษฐ์กล่าวต่อว่า ภายหลังเตรียมพร้อมในการซักซ้อมบท และรอเวลาจนถึงกำหนดในเดือนมีนาคมก็ยังไม่มีการเปิดกล้องถ่ายทำ แม้จะพยายามติดต่อสอบถามกับ น.ส.นภัสกร แต่ก็ติดต่อไม่ได้ จนเวลาล่วงเลยมานานจึงคิดว่าน่าจะเป็นการหลอกลวง จึงพยายามสืบหาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับ น.ส.นภัสกร และได้ติดต่อสอบถามไปยังดาวตลกคนดัง และผู้ที่ถูกอ้างชื่อทำให้ทราบว่ามีการแอบอ้างเพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือในการหาสปอนเซอร์เพื่อสร้างภาพยนตร์เท่านั้น

อย่างไรก็ดี เมื่อตนได้ติดตามจนพบตัว น.ส.นภัสกร จึงมีการพูดคุยกันในเรื่องดังกล่าว ซึ่ง น.ส.นภัสกรยินยอมจะคืนเงินแต่ให้ทำสัญญากู้ยืมเงินไว้ โดยมีกำหนดคืนเงินจำนวน 2 แสนบาทให้ภายในวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงกำหนดชำระเงินคืนเขาก็เบี้ยวไม่ยอมคืนเงินให้แม้ว่าจะได้ทำสัญญากู้ยืมเอาไว้ เขาผิดนัดโดยคิดว่าเอาเรื่องไม่ได้ แต่ตนได้ไปปรึกษากับเพื่อนที่เป็นตำรวจมาบ้าง ก่อนจะนัดหมายกับพี่ตูมตาม ดาวตลกรุ่นใหญ่ เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดี

ด้าน ร.ต.ท.ธงชัย ระบุว่า หลังจากสอบถามในรายละเอียดแล้ว กรณีที่เกิดขึ้นต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือ ในส่วนของตูมตามนั้นเป็นความผิดอาญา เนื่องจากมีการปลอมลายเซ็น มีการใช้ภาพและข้อมูลต่างๆ เข้าข่ายปลอมแปลงเอกสาร จึงให้คำแนะนำให้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ท้องที่เกิดเหตุ อีกส่วนคือกรณีของนายสุเชษฐ์นั้นเป็นความผิดทางแพ่ง ผู้เสียหายจะต้องตั้งทนายเพื่อฟ้องคดีต่อศาลเพื่อให้มีการชดใช้เงินคืน หรือเพื่อเรียกค่าเสียหายต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น