สามีภรรยาชาวลพบุรี ร้อง สตช.โจรขึ้นบ้านกวาดทองคำ 200 บาท วันรุ่งขึ้นจับได้แต่ของกลางเหลือทองแค่ 20 บาท ชี้สงสัยพฤติกรรมตำรวจ เหตุไม่ขยายผลติดตามของกลางคืน เผยร้องไปหลายที่ไม่มีอะไรคืบหน้า
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (15 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายมนูญ บุญอยู่ อายุ 66 ปี และนางมาลี บุญอยู่ อายุ 53 ปี สองสามีภรรยาประกอบอาชีพขายเสื้อผ้าตามตลาดนัด เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมและร้องเรียนพฤติกรรมไม่โปร่งใสของตำรวจ สภ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ต่อ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. โดยมี พ.ต.อ.วัตร์ธนา มีขำ รอง ผบก.กองทะเบียนพล ในฐานะนายตำรวจเวรอำนวยการ เป็นตัวแทนรับหนังสือ
นายมนูญกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2556 คนร้ายได้โจรกรรมทรัพย์สินที่บ้านของตนในบ้านเลขที่ 2/1 ซอยโคกโพธิ์ ต.โคกสำโรง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ได้ทรัพย์สินเป็นทองคำแท่งและทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 200 บาท เงินสดประมาณ 1 แสนบาท รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท จึงไปแจ้งความที่ สภ.โคกสำโรง ต่อมาในวันรุ่งขึ้นตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมดเป็นหญิง 5 คน แต่ได้ทรัพย์สินคืนมาเป็นทองคำ 20 บาท เงินสดประมาณ 2 แสนบาท พร้อมทรัพย์สินบางส่วนที่คนร้ายนำเงินที่ได้จากการขายทองไปซื้อ ประกอบด้วย โทรทัศน์ เครื่องเสียงโฮมเธียเตอร์ จักรยานยนต์ 1 คัน รวมมูลค่าประมาณ 8 แสนบาทเท่านั้น
นายมนูญกล่าวว่า เมื่อสอบถามตำรวจถึงทรัพย์สินที่เหลือก็ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน บอกเพียงว่าผู้ต้องหานำไปซื้อของหมดแล้ว เมื่อขอดูรายการที่คนร้ายนำเงินไปซื้อของซึ่งมีบิลยาวมาก ตนเองเห็นในวันแถลงข่าวก็จะขอตรวจสอบเพื่อดูว่าคนร้ายซื้ออะไรไปบ้าง ทางตำรวจก็ปฏิเสธที่จะให้ดู บอกจะคืนบิลดังกล่าวให้ภายหลัง แต่เมื่อไปทวงถามหลังจากนั้นก็บอกว่าบิลหายไปแล้วหาไม่เจอ นอกจากนั้นยังมีเสื้อผ้าอีกถุงใหญ่ที่คนร้ายนำเงินที่ขโมยไปซื้อมาแต่ตำรวจก็ไม่ส่งมอบให้ตน และเมื่อแต่งตั้งทนายให้ไปพบผู้ต้องหาที่เรือนจำ ผู้ต้องหาก็บอกว่าของกลางให้ตำรวจไปหมดแล้ว ทำให้ตนสงสัยการทำงานของตำรวจ และยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าทำไมสามารถจับคนร้ายได้ภายใน 24 ชั่วโมง แต่ขยายผลติดตามของกลางกลับมาไม่ได้
นายมนูญกล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ไปร้องเรียนที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2556 เรื่องก็เงียบไป หลังจากนั้นได้ทำหนังสือร้องทุกข์อีกฉบับ ยื่นที่หน้าห้อง พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 ในขณะนั้นก็มีการเรียกสอบและชี้แจงมา ซึ่งเมื่ออ่านดูก็ไม่มีประโยชน์กับตนเอง ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน จากนั้นได้ไปร้องขอความเป็นธรรมกับสำนักงานจเรตำรวจแต่เรื่องก็เงียบหายไปเช่นเดียวกัน จึงได้มาร้องของความเป็นธรรมในวันนี้
“ที่ผ่านมายังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อตำรวจ เพราะอยากได้แค่ทรัพย์สินคืนเท่านั้น เนื่องจากผมและภรรยาหามาด้วยความยากลำบาก”