xs
xsm
sm
md
lg

ตม.รวบต่างชาติหนีคดีในไทย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ตม.รวบชาวสวีเดนหนีคดีฉ้อโกงกบดานในไทยกว่า 10 ปี อีกรายชาวอินโดนีเซียข้อหาลักทรัพย์ในไทย รายสุดท้ายชาวรัสเซียขับรถชนคนตายขณะมึนเมาที่บ้านเกิด

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (14 ต.ค.) พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี รรท.ผบช.สตม. พล.ต.ต.อภิรัต นิยมการ รรท.รอง ผบช. พล.ต.ต.วราวุธ ทวีชัยการ ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.วีรยศ การุณยธร ผกก.บคค.บก.ตม.3 พ.ต.อ.ชัยยศ วรักษ์จุนเกียรติ ผก.ตม.จ.ชลบุรี และเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายคริสเตียน อิงวาร์ พาล์มเกรน อายุ 59 ปี สัญชาติสวีเดน ตามหมายจับจากประเทศสวีเดน และหมายจับตำรวจสากล ข้อหาฉ้อโกง สมรู้ร่วมคิด และให้การช่วยเหลือกับผู้กระทำผิดในการปลอมแปลงใบแจ้งหนี้ เพื่อเรียกเก็บเงินจากบริษัทผู้เสียหายหลายราย ค่าเสียหาย 18.49 ล้านโคล์นสวีเดน หรือประมาณ 82 ล้านบาท โดยผู้ต้องหารายนี้หลบหนีเข้าประเทศมานานกว่า 10 ปี

พล.ต.ต.วราวุธกล่าวว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า นายคริสเตียนหลบซ่อนตัวอยู่ในพัทยา จ.ชลบุรี มีอาชีพขายขนมปัง จึงเฝ้าสะกดรอยจนสามารถจับกุมได้ โดยนายคริสเตียนไม่มีหนังสือเดินทาง จึงตรวจสอบข้อมูลในระบบ PIBICS มีข้อมูลว่านายคริสเตียนหลบหนีเข้าประเทศ ทราบว่าได้หลบหนีเข้ามาทางแนวชายแดนจากประเทศมาเลเซียเมื่อปี 2550 จึงควบคุมตัวพร้อมประสานฝ่ายกิจการตำรวจ และศุลกากรกลุ่มประเทศนอร์คิกเพื่อนำตัวกลับไปประเทศสวีเดนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อีกคดีเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา เวลา 16.30 น. เกิดเหตุคนร้ายทุบกระจกรถกระบะโตโยต้า สีขาว ทะเบียน สศ 201 กรุงเทพมหานครของบริษัท สยาม มอดิฟายด์ สตาร์ช จำกัด ได้ทรัพสินเป็นเงินสด 130,000 บาท โทรศัพท์มือถือ พระเครื่อ 8 องค์ รวมมูลค่า 157,000 บาท ที่บริเวณหน้าบริษัท จอมธนา จำกัด เลขที่ 59 หมู่ 7 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี จากการสอบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นชาวต่างชาติ ทราบชื่อนายซุกม่า กานี อายุ 40 ปี สัญชาติอินโดนีเซีย โดยจับกุมได้ที่เอสที โฮเทล ห้อง 201 เลขที่ 38 ซอยลาดพร้าว 114 ถนนลาดพร้าว แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. ก่อเหตุโดยเช่ารถยนต์โตโยต้า วีออส สีเทา ทะเบียน ฆฐ 1050 กรุงเทพมหานคร จากบริษัทแห่งหนึ่ง และร่วมกับเพื่อนชาติเดียวกัน เฝ้าติดตามผู้เสียหายจากธนาคารกสิกรไทย สาขาเมืองปทุมธานี เมื่อสบโอกาสจึงใช้หัวเทียนจักรยานยนต์ปาใส่กระจกรถ และนำทรัพย์สินไป ซึ่งเจ้าหน้าที่จับกุมและจะผลักดันออกนอกประเทศต่อไป

คดีที่ 3 ชุดสืบสวนได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย ให้ช่วยติดตามจับกุมนายรุสลาน วาลีเยฟ อายุ 31 ปี สัญชาติรัสเซีย ข้อหาขับรถในขณะเมาสุราก่อให้เกิดอุบัติเหตุ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และถูกออกหมายจับจากตำรวจสากล ที่ 48481/862 ลง 21/12/2012

คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2555 ที่เมือง Chelyainsk บนถนน krasnaya ผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์ซูบารุ อิมเพรสซา ด้วยความเร็วสูงฝ่าสัญญาณด้วยอาการมึนเมา เฉี่ยวชนรถคู่กรณีเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย ขณะรักษาตัวในโรงพยาบาลได้หลบหนีเข้ามาภายในประเทศไทย โดยควบคุมตัวได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่าน จ.ชลบุรี และหนังสือเดินทางหมดอายุ จึงควบคุมตัวเพื่อส่งกลับประเทศไปดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี รรท.ผบช.สตม. กล่าวถึงกรณีการดูแลความเรียบร้อยในช่วงที่จะเข้าใกล้สู่ประชาคมอาเซียน(เออีซี) ว่า ทาง สตม.ได้ทำการวางมาตรการดูแลไว้ทั้งในด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ โดยเน้นไปที่การพัฒนาในส่วนของกายภาพ การพัฒนาเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆในการตรวจตราผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยทำการประสานไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ในตามต่างจังหวัดต่างๆที่สำคัญ เช่น จ.เชียงใหม่ จ.สงขลา จ.อุบลราชธานี รวมทั้งบริเวณพื้นที่ชายแดนทั่วประเทศด้วย

ทั้งนี้ รวมไปถึงการปรับปรุงกฎระเบียบ ข้อกฎหมายที่ใช้บังคับ สตม.ซึ่งมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับในส่วนของสาขาวิชาชีพทั้ง 7 สาขา เช่น ด้านกลุ่มการแพทย์ ด้านวิศวกรรม รวมถึงด้านการท่องเที่ยว ซึ่งจะได้รับการยกเว้นให้เข้ามาทำงานได้ด้วย นอกจากนี้จะพัฒนาคุณภาพในการทำงานของเจ้าหน้าที่อีกด้วย และในส่วนของรายละเอียดทั้งหมดจะนำมาเผยแพร่ในเว็บไซด์ของสำนักงานตรวจตรวจคนเข้าเมืองอีกครั้ง



กำลังโหลดความคิดเห็น