xs
xsm
sm
md
lg

สตม.จับหัวหน้าแก๊งมาเฟียรัสเซีย หลบหนีคดีพัวพันฆ่าโหด 60 ศพกบดานไทย (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

สตม.แถลงข่าวจับกุมนายอเล็กซานเดอร์ มาตูซอฟ หรือ บาสมาช สัญชาติรัสเซีย หัวหน้าแก๊งมาเฟียรัสเซีย “แก๊งเชลโคโว่” พัวพันคดีฆ่าโหด 60 ศพ หลบหนีกบดานประเทศไทย
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาวชาวต่างชาติหลบหนีคดีเข้ามากบดานเมืองไทย 4 คดี โดยมี 1 คดีเป็นหัวหน้ามาเฟียรัสเซียหลบหนีคดีฆ่าโหด 4 ศพ และพัวพันคดีแก๊งมาเฟียรัสเซียจับเหยื่อเรียกค่าไถ่-ฆ่าโหดกว่า 60 ศพ
คลิกเพื่อรับชมคลิป...


เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ 10) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี จตร.รรท.ผบช.สตม. พล.ต.ต.ชิษณุพงศ์ ยุกตะทัต รอง ผบช.สตม.(1) พล.ต.ต. สุกิจ โคอินทรางกูร รอง ผบช.สตม.(2) พล.ต.ต.มนตรี โปตระนันทน์ รอง ผบช.สตม.(3) พล.ต.ต.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบช.สตม.(4) พล.ต.ต. ณัฐธร เพราะสุนธร รอง ผบช.สตม.(5) และพล.ต.ต.วราวุธ ทวีชัยการ ผบก.สส.สตม. ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ 4 คดี

พล.ต.ต.วราวุธกล่าวว่า คดีแรกจับกุมนายอันยันวู อูโกชุกวู ไซลาส สัญชาตฺไนจีเรีย และนายโอบิ ฟรานซิส โอยินโบ สัญชาติไนจีเรีย โดยจับกุมได้ที่บริเวณร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซอยอุดมสุข 9 แขวงและเขตบางนา กทม. เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ปลอมแปลงตราประทับ และหนังสือเดินทางของตนเอง เพื่อให้สามารถอยู่อาศัยอยู่ในประเทศไทยต่อไปได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาปลอมและใช้เอกสารปลอม และเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.วราวุธกล่าวต่อว่า คดีที่ 2 จับกุมตัวนายมิกา เพทรี พาร์เวียเนน สัญชาติฟินแลนด์ ได้ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.หัวใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับการประสานงานจากฝ่ายกิจการตำรวจและศุลกากรกลุ่มประเทศนอร์ดิกประจำประเทศไทย ให้ติดตามตัวนายมิกาเนื่องจากได้ทำความผิดในข้อหาฉ้อโกงในประเทศฟินแลนด์ มีมูลค่าความเสียหาย 151,877 ยูโร หรือประมาณ 6,680,000 บาท ศาลได้ตัดสินจำคุก 5 ปีแล้ว แต่นายมิกาหลบหนีออกนอกประเทศเข้ามากบดานอยู่ในประเทศไทย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในอาณาจักรโดยสิ้นสุดการอนุญาตสิ้นสุด ก่อนเตรียมผลักดันกลับประเทศไปดำเนินคดีต่อไป

คดีที่ 3 จับกุมนายคู อนุลัก วงคำหล่อ อายุ 50 ปี สัญชาติลาว ได้เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้ทราบว่า นายคูได้มีการนำเงินดอลลาร์สหรัฐปลอมมาจำหน่ายบริเวณชายแดนจังหวัดหนองคาย เจ้าหน้าที่จึงได้ล่อซื้อ โดยนัดหมายที่บริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จนสามารถจับกุมตัวนายคูได้พร้อมของกลางธนบัตรดอลลาร์สหรัฐปลอมฉบับละ 100 ดอลล์ลาร์ จำนวน 189 ฉบับ มูลค่า 605,500บาท จากการสอบสวนนายคูให้การรับสารภาพว่าที่มาของธนบัตรดอลลาร์สหรัฐปลอมดังกล่าวมีแหล่งผลิตในมณฆลหนานนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจะส่งต่อมายังแขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว และจะกระจายไปขายตามสถานที่ต่างๆ ในราคาฉบับละ 700 บาท จนกระทั่งถูกจับกุมตัวได้ในครั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามีธนบัตรดอลลาร์สหรัฐปลอมเพื่อนำออกใช้ ซึ่งสิ่งที่ตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นเงินตราปลอม ซึ่งรัฐบาลต่างประเทศออกใช้ หรือใช้อำนาจให้ออกใช้ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.อ.วุฒิกล่าวต่อว่า สำหรับคดีสุดท้ายเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายอเล็กซานเดอร์ มาตูซอฟ หรือบาสมาช สัญชาติรัสเซีย หัวหน้าแก๊งมาเฟียรัสเซียซึ่งใช้ชื่อว่า “แก๊งเชลโคโว” ที่แปลว่าสมญานามจอมโจรทะเลทราย (Desert bandit) หลบหนีคดีฆาตกรรม 4 ศพ อีกทั้งยังพัวพันคดีอุ้มฆ่าและลักพาตัวกว่า 60 ราย โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้างบิ๊กซี สาขาย่อยบางเสร่ ริมถนนสุขุมวิท ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา การจับกุมนายอเล็กซานเดอร์ได้ในครั้งนี้สืบเนื่องจาก พ.ต.อ.ชัยยศ วรักษ์จุนเกียรติ ผกก.ตม.จว.ชลบุรี พร้อมชุดสืบสวนได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทยให้ช่วยติดตามจับกุมนายอเล็กซานเดอร์ ผู้ต้องสงสัยกระทำผิดกฎหมายในประเทศรัสเซีย ในฐานความผิดเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมและถูกออกหมายจับสากล เลขที่ 20506/AG/280/10 ลงวันที่ 21 เม.ย. 2553 ทั้งนี้ หนังสือเดินทางรัสเซียของนายอเล็กซานเดอร์ได้ถูกยกเลิกแล้ว เนื่องจากนายอเล็กซานเดอร์ได้ก่อคดีฆาตกรรมในเมืองสเวียร์ดลอฟกี ติดกับกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย โดยนายอเล็กซานเดอร์จะเรียกเก็บค่าคุ้มครอง เรียกค่าไถ่ ลักพาตัวนักธุรกิจ หรือแม้แต่ข้าราชการด้านยุติธรรม อีกทั้งพัวพันคดีฆาตกรรมมากกว่า 60 ศพในเขตกรุงมอสโก เมืองทูลา สาธารณรัฐตาเกสถาน เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และภูมิภาคเลนินการ์ด ซึ่งเคยเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญและข่าวครึกโครมเมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2539 โดยสมาชิกในแก๊งดังกล่าว ได้ลงมือก่อเหตุฆาตกรรมแก๊งอาชญากรคู่แข่ง โดยการทำร้ายและใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิตจำนวน 4 ราย คือ นายอักเซนอฟ, นายคาชิสกี, นายปาร์คอเมนโก และนายซารูบิน โดยคดีดังกล่าวมีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี ต่อมานายอเล็กซานเดอร์ได้หลบหนีมากบดานในประเทศไทย

พล.ต.อ.วุฒิกล่าวอีกว่า สำหรับนายอเล็กซานเดอร์เป็นผู้ต้องหาที่ทางประเทศรัสเซียต้องการตัวมาก โดยมีกลุ่มสมาชิกไม่ต่ำกว่า 100 คน หลายคนถูกจับกลุ่มไปแล้ว แก๊งดังกล่าวจะก่ออาชญากรรมทุกรูปแบบ เช่น รับจ้างฆ่า ข่มขู่ทรมาน กรรโชกรีดไถปล้น ลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่ เป็นที่หวาดกลัวในกลุ่มนักธุรกิจ กลุ่มข้าราชการ อีกทั้งกลุ่มอาชญากรกลุ่มอื่นๆ ก่อนที่จะเข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี 2552 โดยจะพักอาศัยที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพาสปอร์ตของนายอเล็กซานเดอร์ มีจำนวน 2 ใบ คือ หนังสือเดินทางรัสเซีย หมายเลข 703937316 ระบุชื่อ Mr.ALEXANDER MATUSOV เดินทางเข้ามายังประเทศไทยครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 52 โดยใช้เที่ยวบินที่ 975 (มอสโก) ก่อนที่จะเดินทางออกไปยังประเทศกัมพูชาผ่านทางด่านคลองใหญ่ และหนังสือเดินทางอาร์เมเนีย หมายเลข AM0757110 ระบุชื่อ Mr.SUREN AVETISYAN เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2556 ทางด่านจุดตรวจถาวรบ้านคลองลึก ตม.จว.สระแก้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการเพิกถอนใบอนุญาตของนายอเล็กซานเดอร์ ไม่ให้อยู่ในราชอาณาจักรไทย ก่อนประสานไปยังสถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทยให้นำตัวไปดำเนินคดียังประเทศรัสเซียต่อไป
















กำลังโหลดความคิดเห็น