พ่วงบรรทุกข้าวสาร ทับ จยย.คนขับสมองเละ

เกิดอุบัติเหตุรถพ่วง 24 ล้อบรรทุกข้าวสารมุ่งหน้า จ.สมุทรปราการ เฉี่ยวชนจักรยานยนต์ล้มคว่ำก่อนทับศีรษะผู้ขับขี่ดับ หลังเกิดเหตุโชเฟอร์ทิ้งรถหลบหนี แต่ถูกควบคุมตัวได้ในที่สุด ก่อนนำตัวมาดำเนินคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

วันนี้ (1 ต.ค.) ร.ต.ท.เรืองศักดิ์ หุนตะณี พนักงานสอบสวน สน.บางนา รับแจ้งเหตุรถบรรทุกทับคนเสียชีวิตและคนขับหลบหนีบริเวณหน้าโรงเรียนสรรพาวุธวิทยา ถ.ริมทางรถรางสายเก่า แขวงบางนา เขตบางนา กทม. ใกล้กับแฟลตข้าราชการทหารเรือ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์นิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ และอาสาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นถนนสองช่องทางสวนกันบริเวณหน้าโรงเรียนสรรพาวุธ ซึ่งเป็นถนนขาออกมุ่งหน้าแยกสรรพาวุธ เจ้าหน้าที่พบศพนายสำรวม บุญเชิดฉาย อายุ 32 ปี สภาพศพสวมเสื้อยืดสีขาว คลุมทับด้วยเสื้อแจ็กเกตสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน มีบาดแผลถูกทับศีรษะขวากะโหลกศีรษะแตกมันสมองกระจายเต็มพื้น ใกล้กันบริเวณพงหญ้าริมขอบทางพบจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ สีขาว ทะเบียนป้ายเหลือง กธท 734 กทม. สภาพมีร่องรอยเฉี่ยวชน กระจกพับทั้งสองข้าง นอกจากนี้ยังพบเศษหมวกนิรภัยสีดำแตกละเอียดเกลื่อนเต็มพื้น

ขณะที่ผู้ก่อเหตุทราบว่าเบื้องต้นได้หลบหนีมุ่งหน้าแยกสรรพาวุธ เจ้าหน้าที่จึงได้วิทยุสกัด ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีคนขับวินจักรยานยนต์ที่อยู่ในที่เกิดเหตุว่าสามารถควบคุมคนขับรถที่ก่อเหตุได้ ห่างจากจุดเกิดเหตุไป 2 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่พบรถบรรทุก 24 ล้อ สองตอน สีขาว ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 82-4019 ฉะเชิงเทรา ทะเบียนพ่วง 82-3951 ฉะเชิงเทรา โดยมีนายมงคล แสงระงับ อายุ 33 ปี ชาว จ.ชลบุรี เป็นผู้ขับรถบรรทุกพ่วงดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวไปสอบสวนที่ สน.บางนา

ด้าน น.ส.น้ำฝน จารุหา อายุ 32 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าทั้งน้ำตาว่า เมื่อช่วงสายวันนี้สามีตนได้ขี่จักรยานยนต์ออกจากบ้านไปที่โรงเรียนปากน้ำ เพื่อที่จะไปทำเรื่องย้ายลูกสาวมาเรียนที่โรงเรียนภายในซอยสุขุมวิท 64 แต่เมื่อพบว่าผ่านเวลาไปนานจนผิดสังเกตจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามที่โรงเรียนทราบว่าสามีตนยังเดินทางไปไม่ถึง ต่อมาได้ทราบข่าวว่าสามีตนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ก่อนเกิดเหตุดังกล่าวทางบ้านได้เตือนว่าให้ขับรถยนต์ไป แต่สามียืนกรานว่ารถติดจึงขี่จักรยานยนต์ออกไป ทั้งนี้สามีตนทำงานรับจ้างขับรถทัวร์ โดยเป็นรถทัวร์ของตนเอง หากว่างเว้นจากการขับรถทัวร์ก็จะมีขี่วินจักรยานยนต์ที่ซอยสุขุมวิท 62

จากการสอบสวนนายมงคลให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถบรรทุกคันดังกล่าวมาจาก จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อไปส่งข้าวสารภายในซอยวัดมหาวงษ์ ต.สำโรงกลาง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ และกำลังจะเดินทางกลับ โดยใช้เส้นทางถนนสรรพาวุธ ก่อนเกิดเหตุตนขับมาไม่เร็วเนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวมีรถมาก ต่อมาเมื่อขับมาถึงแยกสรรพาวุธได้มีชาวบ้านมาบอกว่าตนขับรถชนคนตาย ขณะนั้นตนรู้สึกตกใจ แต่ยืนยันว่าช่วงเวลาขณะเกิดเหตุนั้นไม่ได้ยินเสียง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะทำการสอบปากคำพยานแวดล้อม รวมทั้งคนขับอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป