xs
xsm
sm
md
lg

“สมยศ” แจงยิบทุกประเด็น เคลียร์ข้อครหาจับแพะ คดีฆ่า 2 นักท่องเที่ยวเกาะเต่า

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.นำทีมสืบสวนสอบคดีฆ่า 2 นักท่องเที่ยวอังกฤษ แถลงข่าวตอบข้อสงสัยทุกประเด็น
สตช. เปิดแถลงข่าวชี้แจงทุกประเด็นเกี่ยวกับคดีสังหาร 2 นักท่องเที่ยวอังกฤษ คาชายหาดเกาะเต่า ยันไม่มีจับแพะ ไม่มีซ้อมบังคับสารภาพ ย้ำใช้กระบวนการสืบสวนสอบสวน เน้นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ขณะที่สถานทูตอังกฤษพอใจการทำงานตำรวจ




วันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.50 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รรท.รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา ผบ.ตร. พล.ต.ต.มนู เมฆหมอก รรท.ผบช. สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ พล.ต.ต.สมบูรณ์ ตันตระกูล รรท. นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รรท.รอง ผบช.น. พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผบก.กองพิสูจน์หลักฐานกลาง และ พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผกก.สภ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมทีมสืบสวนชุดคลี่คลายคดีสังหารนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษเสียชีวิตที่ชายหาดเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช เพื่อแถลงข่าวชี้แจงพร้อมตอบข้อสงสัยทุกประเด็นเกี่ยวคดีนี้ แม้ต่อมาตำรวจจะสามารถจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งเป็นแรงงานชาวพม่าได้จำนวน 2 คน แต่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กว่าเป็นการจับผิดตัว รวมทั้งมีการตั้งข้อสังเกตต่างๆ มากมายในคดี

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ ยึดความถูกต้อง ดำเนินการตามพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคล พยานวัตถุ พยานทางนิติวิทยาศาสตร์ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน ซึ่งเป็นแรงงานชาวพม่า แต่เมื่อจับกุมคนร้ายได้ก็มีคำถามทั้งภายในและต่างประเทศ รวมทั้งโซเชียลมีเดีย มีการแสดงความคิดเห็นไปต่างๆ นานา ข้อมูลถูกบ้างไม่ถูกบ้าง บางข้อมูลไม่มีข้อเท็จจริง เป็นการมโนไปเอง เพื่อให้เกิดความกระจ่าง ตามที่สังคมตั้งคำถาม วันนี้จึงได้นำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยมาชี้แจงขั้นตอนในการทำคดี เพื่อให้เกิดความกระจ่าง และครั้งนี้จะเป็นการแถลงข่าวครั้งสุดท้าย ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ซักฟอกอย่างเต็มที่ อะไรที่สามารถตอบได้ ไม่ทำให้เสียรูปคดี ไม่ส่งผลต่อการสอบสวน หรือเป็นการชี้นำ ก้าวล่วงสำนวนการสอบสวนก็จะตอบในทุกประเด็นเพราะขณะนี้ได้ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการไปแล้ว อย่างไรก็ตามแม้จะสรุปสำนวนส่งให้อัยการไปแล้ว แต่ตำรวจยังไม่ได้ปิดกั้น ยังพร้อมจะรับฟัง หากมีพยานหลักฐานใหม่ที่เป็นประเด็นสำคัญในคดี

พ.ต.อ.ประชุม กล่าวถึงรายละเอียดของคดี ว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อ เวลา 06.30 น. วันทึ่ 15 ก.ย. 2557 พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาวต่างชาติ 2 ราย บริเวณหาดทรายรี ต.เกาะเต่า อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งตำรวจได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยทันที พร้อมประสานศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 เข้าตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมเก็บหลักฐาน

ในที่เกิดเหตุพบก้นบุหรี่ เสื้อผ้าผู้ตาย รองเท้าแตะ จอบที่คาดว่าคนร้ายใช้ก่อเหตุ และถุงยางอนามัยใช้แล้ว 1 ชิ้น เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้ตรวจสอบ เบื้องต้นไม่มีประจักษ์พยานพบเห็นขณะเกิดเหตุ จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายทั้ง 2 คน เดินเข้ามาท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2557 โดยมาเที่ยวคนละกลุ่ม มาเจอกันที่โอเชี่ยนวิว บังกะโล ซึ่งเป็นที่พัก ซึ่งเป็นการรู้จักกันโดยบังเอิญ โดยในคืนวันเกิดเหตุวันที่ 14 ก.ย. 2557 ผู้ตายทั้ง 2 คน พร้อมกลุ่มเพื่อนได้ไปชมการถ่ายสดการแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ตกับทีมสวอนซี ที่ช็อปเปอร์บาร์ จากนั้นเพื่อผู้ตายได้ขอตัวกลับห้องพัก ส่วนผู้ตายได้ไปเที่ยวต่อที่เอซีบาร์ จนกระทั่งมาพบเป็นศพในเช้าวันรุ่งขึ้น

พ.ต.อ.ประชุม กล่าวว่า ในการสอบสวนคดีนี้มีการตั้งข้อสันนิษฐานในประเด็นต่างๆ มากมาย การสืบสวนเนื่องจากคดีนี้ไม่มีประจักษ์พยาน จึงสืบสวนจากพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ วัตถุพยาน ทั้งก้นบุหรี่ จอบ และผลการชันสูตรศพ นอกจากนั้นมีการควานหาบุคคลที่ใกล้ชิดกับที่เกิดเหตุให้มากที่สุด โดยเชื่อว่าบุคคลเหล่านี้่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีมากที่สุด โดยการตรวจสอบบุคคลที่อยู่ละแวกใกล้เคียง ตำรวจได้ตรวจสอบทุกคนที่สามารถเข้าถึงที่เกิดเหตุทั้งหมด ทั้งคนไทยและแรงงานต่างด้าว

จากการตรวจวัตถุพยานพบดีเอ็นเอที่ก้อนบุหรี่ และดีเอ็นเอในตัว น.ส.ฮานนาห์ นอกจากนั้นการสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้กับที่เกิดเหตุ ก็พบเพียงชายต้องสงสัยไม่สวมเสื้อวิ่งผ่านไป-มา ผ่านมาหน้ากล้อง แต่เมื่อไปสอบพยานบุคคลมีคนเห็นว่าก่อนเกิดเหตุมีชาย 3 คนไปนั่งเล่นกีตาร์ ตรงจุดที่พบก้นบุหรี่ จากนั้นก็มีการต่อจิกซอว์ จนพบว่าทั้ง 3 คน มีความเชื่อมโยงกับคดีอย่างมีนัยยะสำคัญ จึงเรียกนายเมา เมา มาสอบปากคำ โดย นายเมา เมา ได้ให้การเป็นประโยชน์ จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาได้ เมื่อนำไปตรวจดีเอ็นเอ พบว่าตรงกันกับดีเอ็นเอที่พบในศพ จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงได้มีการจัดทนายความให้กับผู้ต้องหาซึ่งเป็นสิทธิตามกฎหมาย ก่อนสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ

พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า ตำรวจเริ่มต้นการสืบสวนโดยเริ่มจากเบาะแสที่ได้รับ มีการคัดกรองพื้นที่ ซึ่งการทำงานของตำรวจค่อนข้างยากลำบาก โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งทีมสืบสวนจากส่วนกลางลงไปสมทบทำให้การทำงานละเอียดรอบคอบขึ้น มีการคัดกรองบุคคล โดยเชื่อว่าคนร้ายต้องเข้าจุดที่เกิดเหตุในเวลาที่กำหนด ในการเชื่อมโยงพยานวัตถุประกอบกับพยานบุคคล ที่สำคัญคือผลการตรวจดีเอ็นเอที่สามารถยืนยันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แม้พยานบุคคลก็ไม่สามารถหักล้างพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ได้

พล.ต.ต.ธวัชชัย กล่าวว่า ในส่วนของงานพิสูจน์หลักฐานแบ่งเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 อีกส่วน คือ การตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบ อยู่ในความรับผิดชอบของกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) สำหรับที่เกิดเหตุพยานวัตถุที่เก็บได้ ประกอบด้วย จอบ ถุงยาง และก้นบุหรี่ ซึ่งจุดที่เก็บได้อยู่ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 65 เมตร โดยในวันที่ 16 ก.ย. ได้มีการส่งหลักฐานมาให้ พฐก. ตรวจ ซึ่งผลการตรวจดีเอ็นเอคราบเลือดที่จอบเป็นของ น.ส.ฮานนาห์ จึงมั่นใจว่าคนร้ายใช้จอบเป็นอาวุธ ส่วนดีเอ็นเอที่ก้นบุหรี่ 3 อัน อันแรกเป็นบุหรี่ยี่ห้อมาร์ลโบโร สีขาว ไม่พบดีเอ็นเอ มีเพียงคราบลิปสติกสีแดงติดอยู่ อันที่ 2 เป็นบุหรี่ยี่ห้อแอลเอ็มแดง พบดีเอ็นเอ 1 คน เราตั้งสมมติฐานว่า นายเอ และอันที่ 3 เป็นบุหรี่ยี่ห้อแอลเอ็มแดง พบดีเอ็นเอของ 2 คน เราตั้งสมมติฐานว่า นายเอ และ บี เมื่อได้ตัวอย่างดีเอ็นเอจากก้นบุรี่ก็ได้ประสานกับสถาบันนิติเวชวิทยา ซึ่งเป็นผู้ตรวจศพ ก็พบว่า มี 1 คน ที้่มีดีเอ็นเอซ้อนกันอยู่ แสดงให้เห็นว่าคดีนี้มีผู้เกี่ยวข้องอย่างน้อย 3 คน

พล.ต.ต.ธวัชชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับการตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอกลุ่มในตัวอย่างที่มีการเก็บจากบุคคลในพื้นที่ 243 คน จนถึงเมื่อวันที่ 28 ก.ย. แบ่งเป็นชาวต่างชาติ 187 ราย ชาวไทย 56 ราย ปรากฏว่าผลดีเอ็นเอไม่ตรงกับดีเอ็นเอที่ก้นบุหรี่ จนกระทั่งวันที่ 2 ก.ย.มีการส่งตัวอย่างเยื่อบุกระพุ้งแก้ม ของผู้ต้องสงสัย 3 คนมาตรวจ ผลปรากฏว่าตรงกับตัวอย่างดีเอ็นเอที่พบในวัตถุพยาน ที่ส่งมาตรวจก่อนหน้านี้

พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวว่า การตรวจก้นบุหรี่เป็นหลักฐานสำคัญที่มีการบ่งชี้ถึงตัวบุคคลที่มาเกี่ยวข้องกับคดี เพราะว่าดีเอ็นเอที่พบในก้นบุหรี่ไปตรงกับดีเอ็นเอที่พบในช่องคลอดของ น.ส.ฮานนาห์ ทำให้มีความเชื่อมโยงกันระหว่างผู้สูบบุหรี่กับผู้ที่คาดว่าจะก่อเหตุ ทำให้สามารถกำหนดจุดในการติดตามคนร้ายได้ ซึ่งต่อมาตำรวจได้มีการจำลองเหตุการณ์ในสถานที่เกิดเหตุ ในช่วงเวลาเดียวกันที่คาดว่าคนร้ายน่าจะลงมือก่อเหตุ สำหรับดีเอ็นเอที่พบที่ก้นบุหรี่แอลเอ็มแดงอันแรก คือ นายเมา เมา ส่วนที่ก้นบุหรี่แอลเอ็มแดงอีกอันเป็นของนายเมา เมา และ นายเวพิว นอกจากนั้น ยังพบว่ายังพบดีเอ็นเอของนายเวพิวที่หัวนมด้านขวาและช่องคลอดของ น.ส.ฮานนาห์ ส่วนดีเอ็นเอของนายซอลิน ตรงกับตัวอย่างดีเอ็นเอที่พบในทวารหนักและหัวนมด้านขวาของ น.ส.ฮานนาห์

ด้าน พ.ต.อ.ภวัต ประทีปวิศรุต รอง ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา ผู้ผ่าชันสูตรศพ กล่าวว่า ศพ น.ส.ฮานนาห์ ที่มาถึงมีสภาพกึ่งเปลือย เปื้อนทรายพบคราบเลือด สภาพศพเริ่มเน่า ไม่ผ่านการรักษา มีบาดแผลรุนแรงที่บริเวณศีรษะและใบหน้า จากของเเข็งไม่มีคม ซึ่งสามารถเข้ากันได้กับวัตถุของกลางในคดี พบการถูกทำร้ายทางเพศ ผลตรวจทางพิษวิทยาไม่พบสารเสพติดหรือวัตถุออกฤทธิ์ทางจิตประสาทในปัสสาวะและเลือด ไม่พบสารพิษจากอาหารในกระเพาะอาหาร ผลตรวจทางชีวเคมีพบดีเอ็นเอของบุคคลอื่น 2 คน ที่บริเวณหน้าอกขวา พบอสุจิบุคคลอื่น 1 คนในช่องคลอด พบอสุจิและดีเอ็นเอของบุคคลอื่น 2 คน ในทวารหนัก สรุปสาเหตุการเสียชีวิตมาจากได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะจากของแข็งไม่มีคมกระทบกระแทกอย่างรุนแรง

สำหรับ นายเดวิด สภาพศพที่ส่งมาสภาพเปลือย เริ่มเน่า ไม่ผ่านการรักษา บาดเจ็บอย่างรุนแรงที่ศีรษะและใบหน้า จากของแข็งไม่มีคม เข้ากันได้กับวัตถุของกลางในคดี ไม่พบการถูกทำร้ายทางเพศ การตรวจภายในพบน้ำในช่องอก 2 ข้าง ปอดพองลมบวมน้ำเต็มช่องออก ผลตรวจทางพิษวิทยาไม่พบสารเสพติดวัตถุออกฤทธิ์ทางจิตประสาทในปัสสาวะและเลือด ไม่พบสารพิษจากอาหารในกระเพาะอาหาร ผลตรวจทางเคมีไม่พบอสุจิในทวารหนัก สาเหตุการตาย สรุปสาเหตุการเสียชีวิตมาจากได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะจากของแข็งไม่มีคมกระทบกระแทกอย่างรุนแรงร่วมกับการจมน้ำทะเล

ผู้สื่อข่าวถามถึงขั้นตอนการสอบสวนที่มีข้อครหาว่ามีการใช้กำลังบังคับให้สารภาพ พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า การบันทึกคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มีทนายความร่วมรับฟัง และหลังมีการสอบปากคำได้มีการส่งตัวผู้ต้องหาไปตรวจร่างกาย โดยมีใบรับรองแพทย์ เนื่องจากที่ผ่านมามีการใช้ประเด็นในการทำลายน้ำหนักการสอบสวนของตำรวจ ยืนยันว่าไม่มีการทำร้ายร่างกาย หรือบังคับขู่เข็ญแต่อย่างใด การสอบสวนเป็นไปอย่างโปร่งใส

สำหรับข้อสงสัยเกี่ยวกับบาดแผลบริเวณใบหน้าของนายเดวิด ที่ข้อสงสัยว่ามีการใช้อาวุธชนิดอื่น พ.ต.อ.ภวัต กล่าวว่า ยินยันได้ว่าเป็นบาดแผลที่เกิดจากของแข็งไม่มีคม ซึ่งสามารถเข้ากันได้ดีกับวัตถุของกลางในคดี คือ จอบ ซึ่งข้อแตกต่างระหว่างบาดแผลที่เกิดจากของแข็งมีคม กับไม่มีคม ถ้าของแข็งมีคมบาดแผลจะเรียบไม่มีขอบช้ำ เรียบตลอดทางจนถึงกระดูก ส่วนของแข็งไม่มีคมบาดแผลจะช้ำ ไม่เรียบ ที่กระดูกก็จะมีรอยแตก

ส่วนประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวถุงยางที่พบในที่เกิดเหตุที่ตรวจพบดีเอ็นเอของ น.ส.ฮานนาห์ บริเวณด้านนอก ขณะที่ด้านในตรวจไม่พบดีเอ็นเอของใคร พล.ต.ต.ธวัชชัย กล่าวว่า ตำแหน่งที่เจอถุงยางอัดแน่นอยู่กับทราย ส่วนที่พบดีเอ็นเอเพียงด้านเดียวอาจเป็นไปได้ว่ามีการปนเปื้อน หรือขณะที่ใช้มีการสัมผัสกับของผู้หญิง แต่อาจเป็นไปได้ว่าผู้ชายไม่มีการหลั่งจึงตรวจไม่พบดีเอ็นเอ ขณะที่พล.ต.ต.สุวัฒน์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า เรื่องถุงยางอนามัยยังเป็นวัตถุพยานที่เราไม่ได้ข้อยุติ มีความเห็นโต้แย้งกันในทีมสืบสวน ซึ่งอาจเป็นไปได้ 2 ทาง สมมติฐานแรกคืออาจเป็นไปได้ว่าเป็นของนายเดวิด แต่ก็จะเกิดคำถามว่าหากเป็นของนายเดวิด เหตุใดจึงตรวจไม่พบดีเอ็นเอ พบเพียงดีเอ็นเอของน.ส.ฮานนาห์ ซึ่งอย่างที่พล.ต.ต.ธวัชชัย ระบุว่ามีโอกาสที่จะตรวจไม่พบดีเอ็นเอ หากไม่มีการหลั่งอสุจิ ขณะที่สมมติฐานที่สอง คือถุงยางนี้อาจไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ แต่ดีเอ็นเอที่พบเกิดจากการปนเปื้อนเนื่องจากการเหยียบย่ำที่เกิดเหตุ ก่อนที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะไปถึง

"ซึ่งตรงนี้ยอมรับว่าเรื่องถุงยางเป็นวัตถุพยานที่เราไม่ได้ข้อยุติ โดยอาจจะมีสาเหตุอื่นๆ อีก แต่ไม่ว่าเรื่องถุงยางจะได้ข้อยุติอย่างไร ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผลการตรวจดีเอ็นเอของผู้ต้องหาซึ่งตรงกับดีเอ็นเอที่พบในศพผู้เสียชีวิต และไม่ทำให้ข้อเท็จจริงตรงนี้เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเราย้ำเสมอว่าประเด็นใดที่ยังไม่ได้ข้อยุติ เราพร้อมรับฟัง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ทำให้น้ำหนักพยานหลักฐานในการฟ้องเอาผิดผู้ต้องหาเปลี่ยนแปลงไป"พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าว

เมื่อถามว่าตำรวจจะสามารถยืนยันได้อย่างไรว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เป็นคนร้ายที่ลงมือฆ่า การพบดีเอ็นเอในช่องคลอดของน.ส.ฮานนาห์ เป็นการสมยอมหรือไม่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า การสืบสวนเชื่อตามคำให้การและวัตถุพยาน มีมูลเหตุจูงใจ ตำรวจเชื่อว่ามีการลงมือทำร้ายจนเหยื่อไม่อยู่ในภาวะที่ขัดขืนได้ โดยที่เหยื่อไม่เสียชีวิตทันที ก่อนลงมือข่มขืน จากนั้นจึงได้ลงมือทำร้ายซ้ำจนเสียชีวิต เพื่ออำพรางคดี อีกเหตุคือไม่พบ บุคคลอื่นเข้าไปในที่เกิดเหตุในช่วงเวลานั้น ข้อมูลจึงฟังได้เป็นข้อยุติในขณะนี้

ส่วนประเด็นเรื่องโทรศัพท์มือถือของนายเดวิด ทางญาติของผู้เสียชีวิตเป็นคนให้ข้อมูลเลขอีมี่กับทางตำรวจ ตำรวจจึงได้ซักถามผู้ต้องหาซึ่งให้การรับสารภาพว่าได้นำไปฝากเพื่อนไว้ ต่อมาตำรวจได้สอบปากคำเพื่อนคนดังกล่าวไว้เป็นพยานแล้ว โดยเพื่อนคนดังกล่าวระบุว่าได้ทุบโทรศัพท์ ก่อนนำใส่ถุงพลาสติกไปโยนทิ้งไว้ที่หลังบ้าน

สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 คนเป็นชนกลุ่มน้อยชาวยะไข่ ซึ่งคนกลุ่มนี้ถึงแม้ไม่รู้จักกัน ทำงานและพักคนละที่ แต่มีความแนบแน่น เนื่องจากเป็นคนเชื้อชาติเดียวกัน ใช้ภาษาเดียวกัน เมื่อเดินทางมาต่างถิ่นซึ่งผ่านความยากลำบาก จึงยิ่งมีความแนบเเน่น การมาก่อเหตุก็ไม่มีการเตรียมการกันมาก่อน เพียงบังเอิญผ่านมาเจอเหตุการณ์ทำให้มีแรงจูงใจ บวกกับการดื่มเบียร์เข้าไปทำให้ก่อเหตุดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงท่าทีของสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษและสถานเอกอัครราชทูตพม่า กับการปิดคดีนี้ของตำรวจ พ.ต.ท.กฤษณะ พัฒนเจริญ ผกก.ฝ่ายประสานงานภูมิภาคและตำรวจสากล บก.ตท.กล่าวว่า ทางสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ แสดงความขอบคุณรัฐบาลและตำรวจที่ให้ความร่วมมือในการคลี่คลายคดี และได้มีการประสานเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีผ่านมาทางตำรวจสากล และการที่สถานทูตไม่มาร่วมแถลงในวันนี้ไม่ได้มีประเด็นว่าพอใจหรือไม่พอใจ แต่ทางสถานทูตเห็นว่าการแถลงข่าว ในเรื่องความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนเป็นอำนาจของตำรวจไทยแต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งทางสถานทูตจะไม่ก้าวล่วงเพียงแต่ฝากขอบคุณมาเท่านั้น

ส่วนทางสถานเอกอัครราชทูตพม่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมตัวแทนแรงงาน นักสิทธิมนุษยชน มาติดตามคดีและขอเข้าพบผู้ต้องหา ซึ่งทางราชทัณฑ์ก็ให้เข้าพบ ส่วนทางคดีตำรวจได้ชี้แจงให้ทราบ ซึ่งทางสถานเอกอัครราชทูตม่าก็แสดงความพอใจ

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวสรุปว่า การจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ หลักฐานสำคัญมี 5 ประเด็น คือ 1. พยานบุคคล คือ นายเมา เมา และ นายเล เล 2. การพิสูจน์ทราบดีเอ็นเอ ซึ่งตรงนี้ตำรวจไม่ได้ดำเนินการเพียงหน่วยงานเดียว แต่มีการส่งตัวอย่างให้จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ช่วยตรวจพิสูจน์ 3 .ภาพจากกล้องวงจรปิด 4. โทรศัพท์ของนายเดวิด และ 5. คำรับสารภาพ ของผู้ต้องหาต่อหน้าทนายควา ซึ่งนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา ตำรวจมั่นใจว่าจากประเด็นทั้ง 5 ประเด็น จะเพียงพอที่ทำให้ศาลพิพากษาลงโทษผู้ต้องหาได้

ทั้งนี้ ยืนยันว่า คดีนี้ไม่มีการจับแพะอย่างแน่นอน ส่วนที่ผ่านมามักมีการตั้งต้องข้อสังเกตุมาโดยตลอดว่าตำรวจจับแพะ ตรงนี้ตนมองว่าเป็นเรื่องของอดีต ซึ่งหลังตนมารับตำแหน่งจะไม่ให้มีปัญหานี้เกิดขึ้น ขณะเดียวกันยืนยันว่าตำรวจไม่ได้หวั่นไหวกับกระแสสังคมโดยเฉพาะในโซเชียลเน็ตเวิร์ก

“ที่ต้องมาแถลงข่าวในวันนี้เพราะไม่ต้องการให้เกิดความสับสนในสังคม หากไม่หยุดในสิ่งที่สังคมเข้าใจผิดๆ หากตรวจนิ่งเฉยก็ดเหมือนเป็นการรับผิด ต้องออกมาชี้แจงเพื่อยุติคำถามต่างๆ ในสังคม อยากให้ถามให้หมดในวันนี้ ผมยอมเปิดโอกาสให้ทุกคน โดยเฉพาะสื่อมวลชนซักฟอกการทำงานของตำรวจ หลังจากวันนี้ไม่พูดแล้ว ขณะเดียวกัน เพื่อยุตินักสืบไซเบอร์ที่ชอบมโนไปเองแบบผิดๆ แต่กระนั้นเราก็รับฟังทุกความคิดเห็น โดยเฉพาะที่เผยแพร่ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ก็ตรวจสอบให้ทุกประเด็น จนบางครั้งก็ทำให้การทำงานล่าช้า แต่ยอมรับว่าในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ก็มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ มีส่วนช่วยการทำงานของตำรวจ ซึ่งส่วนนี้ตนก็ต้องขอบคุณ แต่บางส่วนที่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง สร้างความสับสน ไม่อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง ตนอยากให้เลิกเสีย เพราะตรงนี้ไม่เกิดประโยชน์และจะยิ่งสร้างความสับสนมากขึ้นไปอีก” ผบ.ตร. กล่าว

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีที่มีการตั้งคำถามของสื่อต่างประเทศว่าตำรวจให้ข้อมูลสับสน ไม่ตรงกัน เรื่องนี้เมื่อตนทราบปัญหาก็ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น อดีต ผบช.ภ.8 เป็นผู้ให้ข่าวเพียงคนเดียว ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน และกำชับการให้ข้อมูลไม่ให้กระทบความรู้สึกของครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย

ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อสงสัยว่าเหตุใดตำรวจไม่ตรวจดีเอ็นเอ นายวรท ตู้วิเชียร อายุ22ปี ลูกชายของ นายวรพันธ์ ตู้วิเชียร หรือผู้ใหญ่วอ ผู้ใหญ่บ้าน ต.เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ผบ.ตร.กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตำรวจได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของนายวรพันธ์ มาตรวจเปรียบเทียบแล้วพบว่าไม่ตรงกับดีเอ็นเอที่พบในวัตถุพยาน จึงไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอของนายวรทอีก เพราะพ่อลูกกันให้ผลดีเอ็นเอที่เหมือนกัน



พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รรท.รองผบช.น.หัวหน้าทีมสืบสวน
กำลังโหลดความคิดเห็น